รีวิว Kawasaki Ninja ZX-6R 2013


kawasaki ninja zx-6r ภาพจาก Motorcyclist.com
วันนี้ขอนำเสนอรีวิวมอเตอร์ไซค์ของค่ายคาวาซากิบ้างนะครับกับ Ninja ZX-6R ซึ่งถือว่าเป็นรถระดับกลาง ด้วยข้อมูลพื้นฐานคือ เครื่องยนต์ขนาด 112 แรงม้าที่ 13,300 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 46.4 ปอนด์-ฟุต ที่ความเร็วรอบ 11,300 รอบต่อนาที ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับรุ่น 2013 แล้วถือว่าได้แรงม้าเพิ่มมาราว 3.3 ตัว ถือได้ว่าเป็นแรงม้าที่เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดกับขนาดกระบอกสูบที่เพิ่มขึ้นเพียง 37 cc แต่ที่นินจากินขาดคือแรงขับในช่วงกลาง โดยที่ความเร็วรอบระหว่าง 5000 ถึง 11,000 รอบต่อนาที จะให้แรงม้าเพิ่มมาอีก 5 ตัวซึ่งมากกว่ารุ่น 600 แต่หากถามว่าแล้ว Ninja ZX-6R นั้นขนาดเครื่องยนต์มีกี่ cc กันแน่ ก็ต้องขอบอกว่าทางทีมงาน Kawasaki เองออกแบบเครื่องแบบไม่สนใจตลาดรถแข่งมากนัก ชอบทดลองเล่นอะไรแปลกๆ เลยทำให้รุ่น ZX-6R นี้มีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 636 cc แทนที่จะเป็น 599cc สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นมาตรฐานทั่วไป
นั่นเป็นเพียงแค่ตัวเลขกับสิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมากับรุ่นนี้ แต่หากว่าคุณได้ลองขับรถมอไซค์คันนี้เองแล้วละก็รับรองว่าจะได้อะไรมากกว่าที่มองเห็นครับ ผลการขับขี่ที่นุ่มนวลมาก ถ้าหากเอารถ 600cc ที่คุณมีอยู่มาลองบิดซักพันสองพันรอบท่านอาจจะได้ยินแต่เสียงคำรามกระหึ่มของเครื่องยนต์มากกว่าที่จะรู้สึกถึงพละกำลัง แต่เจ้านินจาตัวนี้ให้ความแรงที่ดีตั้งแต่เริ่มบิดเลยครับ ขับได้สนุกในทุกช่วงความเร็วรอบ ด้วยกำลังขับที่กระจายไปทุกช่วงความเร็ว ไม่มีแรงตก
สำหรับการขับขี่เทียบกันแล้วรู้สึกได้เทียบเคียงกับไปขับเจ้า Suzuki GSX-R750 โน่นเลยครับ ทางนักบิดคนดังได้เปรียบเทียบนินจากับบรรดารถมอไซค์ขนาดกลางทั้งหลายแล้วสรุปออกมาได้ว่า “แรงขับช่วงกลางรู้สึกเหมือนกับได้ขับรถขนาด 750cc เลยทีเดียว” “รถคันนี้แรงถึงขนาดว่าเวลาเข้าโค้งก็แทบไม่ต้องไปวุ่นวายกับการเปลี่ยนเกียร์เลย” จากความคล่องตัวเนื่องจากความแรงนี้ทำให้การขับขี่นั้นได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
ลองมาดูตัวเลขทดสอบกับรุ่น 750cc แล้วอาจจะเห็นภาพนะครับ นินจา 2013 ZX-6R ผลการวิ่งควอเตอร์ไมล์ด้วยเวลา 10.69 วินาทีที่ความเร็ว 129.24 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งก็นับว่าไกล้เคียงกับเจ้าตัว GSX-R750 ที่ทำเวลาเวลา 10.44 วินาที ที่ความเร็ว 133.31 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้า Suzuki จะมีน้ำหนักรถใกล้เคียงกันแต่แรงม้าสูงกว่า (สูงสุดที่ 122 แรงม้า)
ทางทีม Kawasaki ได้ออกแบบรถโดยเน้นให้การขับที่เบาและนุ่มนวลขึ้นโดยการลดแรงต้านสำหรับคันบังคับเลี้ยว (steering resistance) ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวแรงเสียดทานน้อย พร้อมทั้งเอาระบบ Damper ออกจากระบบบังคับเลี้ยวด้วย จากการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ทำให้การขับขี่ไม่ว่าจะขับในสนามแข่งหรือขับขี่บนถนนปกตินั้นจะมีความนุ่มนวลและรู้สึกเบามือขึ้นมากแม้น้ำหนักรถเกือบๆจะ 200 กิโลก็ตาม
การขับขี่ในสภาพการจราจรแออัดในชั่วโมงเร่งด่วนนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาอย่างปราดเปรียวของนินจารุ่นนี้ และระบบการบังคับเลี้ยวตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เราสามารถทรงตัวได้แม้กระทั่งที่ความเร็วของต่ำจนเกือบหยุดวิ่ง กระจกมองข้างที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่นั้นอยู่ในขั้นดีเยี่ยม ระบบกันสะเทือนพร้อมที่จะรองรับรอยต่อของถนนคอนกรีตได้เป็นอย่างดี รวมทั้งระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลในทุกข่วงความเร็วรอบ ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือในกรณีหากเราขับที่ความเร็วรอบสูงแล้วต้องหยุดกระทันหัน สำหรับรถทั่วไปอาจจะเครื่องดับ แต่เจ้านินจาตัวนี้จะมีไฟแสดงที่หน้าปัดถึงเกียร์ที่อยู่ผิดตำแหน่ง ช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น
แต่ก็มีที่แปลกอยู่นิดเดียวเกี่ยวกับเครื่องยนต์ขในช่วงสตาร์ทรถรุ่นนี้ก็คือ ความเร็วรอบเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่สองสามวิอยู่ที่รอบต่ำ แต่การขับขี่โดยทั่วๆไปจะนุ่มนวลมาก อีกอย่างก็คือจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเล็กน้อยตรงแถวๆแท้งค์น้ำมันที่ความเร็วรอบประมาณ 8000 รอบต่อนาที ก็อาจจะเป็นเพราะการ resonance ของเครื่องยนต์ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วให้มองว่านินจาตัวนี้เหมือนซื้อมอเตอร์ไซค์แบบ 2 in 1 คือซื้อคันเดียวเหมือนได้รถสองคัน โดยคันแรกคือรถในสนามแข่งที่ให้ความเร่งและความเร็วได้ตามสั่ง ส่วนอีกคันคือรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถนำไปขับได้อย่างมั่นใจบนท้องถนนทั่วไป ทาง Kawasaki เองได้ออกรถรุ่นนี้มาก็ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อทีจะเติมเต็มตลาดขนาดกลางที่ในอนาคตอาจจะทำให้เราลืมรุ่น 600cc ไปก็เป็นได้
สำหรับราคาก็ USD $11,699 ไม่รวม ABS
Spec
Engine type | l-c inline-four |
Valve train | DOHC, 16v |
Displacement | 636cc |
Bore x stroke | 67.0 x 45.1mm |
Compression | 12.9:1 |
Fuel system | EFI |
Clutch | Wet, multi-plate slipper |
Transmission | 6-speed |
Measured horsepower | 112.0 bhp @ 13,300 rpm |
Measured torque | 46.4 lb.-ft. @ 11,300 rpm |
Corrected ¼-mile | 10.69 sec. @ 129.24 mph |
Top-gear roll-on 60-80 mph | 3.16 sec. |
Fuel mileage (hi/low/avg.) | 41/31/37 mpg |
Frame | Aluminum twin-spar |
Front suspension | Showa 41mm SFF-BP with adjustable spring preload, compression, and rebound damping |
Rear suspension | Showa shock with adjustable spring preload, compression, and rebound damping |
Front brake | Dual Nissin four-piston calipers, 310mm discs with ABS |
Rear brake | Nissin single-piston caliper, 220mm disc with ABS |
Front tire | 120/70ZR-17 Bridgestone S20 |
Rear tire | 180/55ZR-17 Bridgestone S20 |
Rake/trail | 23.5º/4.0 in. |
Seat height | 32.7 in. |
Wheelbase | 54.9 in. |
Fuel capacity | 4.5 gal. |
Weight (tank full/empty) | 422/395 lbs. |
Colors | Lime Green/Metallic Spark Black, Metallic Spark Black/Flat Ebony, Pearl Flat Stardust White/Flat Ebony |
ads2