ล่าสุด

2014 Ducati 899 Panigale รีวิวการขับขี่มอไซค์

รีวิวการขับขี่ Ducati 899

รีวิวการขับขี่ Ducati 899

2014 Ducati 899 Panigale รีวิวการทดสอบขับขี่มอไซค์คันใหม่

มอเตอร์ไซค์ Ducati 899 Panigale รุ่นปี 2014 คันนี้นั้นว่ากันตามจริงแล้วจะจัดกลุ่มยากอยู่เหมือนกัน เพราะจะลงแข่งรายการระดับโลกซีซีก็อาจจะไม่เข้าข่าย ราคาก็ไม่ได้ถูกเสียจนจะไปแย่งยอดขายจากคู่แข่งได้ แต่ความจริงแล้วมอไซค์ Ducati 899 คันนี้ถูกสร้างมาเพื่อให้หลายๆคนสามารถจับจองเป็นเจ้าของ Panigale ได้นั่นเอง เราเองได้ไปทดลองขับมาแล้วที่สนาม Imola ในประเทศอิตาลี ท่ามกลางสายฝน และนี่คงเป็นรีวิวอันแรกๆที่คุณจะหาอ่านได้

มีอะไรใหม่

ทางหัวหน้าทีมโปรเจคนี้ชื่อว่าคุณ Paul Ventura บอกกับเราว่า “เราต้องการมอเตอร์ไซค์ที่นักบิดสามารถบิดไปได้ทั่วแคนย่อน” คือก่อนที่เขาจะทำงานกับ Ducati เขาได้อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย และคุ้นเคยกับสภาพถนนที่ต้องขับมอไซค์แข่งกันเป็นอย่างดี และที่นั่นแหละที่ 899 ตั้งเป้าเอาไว้ พร้อมๆกับการให้มอไซค์คันนี้เหมาะสำหรับการวิ่งบนสนามแข่งและท้องถนนทั่วไป และทำให้นักบิดหน้าใหม่ได้ลิ้มลองความวิเศษของการขับขี่ Panigale ได้เป็นจำนวนมากขึ้น

แทนที่จะเริ่มจากตัวเก่าอย่าง 848 Evo แล้วเพิ่มโน่นเพิ่มนี่เข้าไป แต่ทาง Ducati กลับตัดสินใจที่จะเริ่มจากตัว 1199 แล้วทำให้มอไซค์นั้นคล่องตัว ใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ราคาถูกลง และขับได้ง่ายขึ้น

เครื่องยนต์ Superquadro V-twin นั้นใช้แคร้งเดียวกันกับ Ducati 1199 Panigale เพียงแต่ลดขนาดลูกสูบลงเหลือเพียง 100 x 57.2 เครื่องยนต์ที่ได้ขนาด 148 แรงม้า แรงบิดที่ 72 ปอนด์ฟุต นั้นจะได้กราฟที่ดูอ้วนขึ้น และแรงบิดในช่วงรอบต่ำนั้นก็ดีกว่ารุ่นใหญ่อย่าง 1199 ส่วนโครงรถนั้นบางส่วนอย่าง Subframe นั้นจะเป็นเหล็กท่อที่ทำให้ราคาถูกกว่า แต่จะมีชิ้นส่วนพลาสติกมาครอบในส่วนนี้ไว้ เพื่อเลียนแบบให้ดูเหมือนเป็นอลูมิเนียมหล่อเหมือนรุ่น 1199

ส่วนที่ต่างกันและเห็นได้ชัดก็คงเป็นเรื่องของสวิงอาร์มแบบสองด้าน ทาง Ducati แจ้งว่าเพื่อลดต้นทุนลง และส่วนอื่นๆที่เป็นการประหยัดต้นทุนก็คงจะเป็นการใช้อลูมิเนียมแทนแมกนีเซียมมาครอบเครื่องยนต์ จอ LCD สีเดียวแทนที่จะเป็นแบบ TFT หลายสี และมาพร้อมกับตะเกียบ Showa BPF และ Sachs โมโนโช้ค แต่แม้จะดูเหมือนเป็นการลดต้นทุนไปมากที่หลายๆอย่างก็ยังถือว่ามีคุณภาพใช้ได้ หน้าจอยังแสดงผลข้อมูลได้มากมาย โหมดการขับขี่ที่ปรับค่าได้ และค่ากันสะเทือนหน้าหลังที่ปรับค่าได้ด้วย

ระบบช่วยในการขับขี่อิเลคโทรนิคส์ของ 899 นั้นก็จะเหมือนกับ 1199 ทั้ง Traction Control, ABS, ระบบ Engine Brake Control และ Quick Shift ทุกอย่างนั้นผู้ขับขี่สามารถตั้งโปรแกรมได้ผ่านหน้าจอและสามารถปิดระบบได้ทุกอย่าง

แม้จะไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนสุดยอดเหมือนรุ่น 1199 แต่มอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นรุ่นที่ทำออกมาแบบลดต้นทุนซะทีเดียว กลับจะมีความคล่องตัวสูงกว่าตัวใหญ่เสียด้วยซ้ำ ด้วยระยะระหว่างล้อที่สั้นกว่าเดิม 11 มม และล้อหลังที่แคบกว่าเดิม อยู่ที่ 180/60 – 17

น้ำหนักแห้งของรถอยู่ที่ 372.5 ปอนด์ และด้วยความเร็วรอบทีสูงกว่าเดิมทำให้ทาง Ducati สามารถใส่เกียร์ที่ต่ำกว่าโดยไม่ต้องสูญเสียความเร็วสูงสุดไป สเตอร์ขนาด 44 นั้นมาแทนที่ขนาด 39 ของ 848 ทำให้แรงผลังของล้อหลังนั้นเพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์

การขับขี่

สนาม Imola นี้ถือเป็นสนามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกสนามหนึ่ง และเป็นสนามที่ Ayrton Senna ประสบเหตุเสียขีวิตที่นี่ และอยู่ห่างจากโรงงานของ Ducati เพียง 60 กิโลเมตรเท่านั้น ทางตรงนั้นสั้นและโค้งจะแคบเหมาะสำหรับการทดสอบมอไซค์ที่มีความคล่องตัว น้ำหนักเบา และกำลังเครื่องเพียงพอ

แต่โชคร้ายคือสภาพอากาศในตอนเหนือของอิตาลีที่คาดเดาได้ยาก ฝนตกตลอดนับตั้งแต่เรามาถึงเมื่อวันอาทิตย์ วันนี้ฝนก็ตกหนักจนทาง Ducati ต้องยกเลิกการทดสอบหลังจากวิ่งไปได้สามครั้ง

แม้ยางรถนั้นจะเป็น Pirelli Diablo Rosso Corsa ก็ตามทีแต่เจอถนนเปียกๆอย่างนี้มันก็รีดน้ำไม่ค่อยออก แต่ระบบช่วยขับอิเลคทรอนิคส์ก็เข้ามามีส่วนในการขับขี่อยู่ด้วย สองเซซชั่นแรกเราก็ขับโหมด Wet (โดยเป็นการกำหนดเพดานไม่ให้เกิน 100 แรงม้าและเปิดระบบ TC และ ABS เต็มที่และลดภาวะ Engine Brake) ทำให้ผมขับตัวตรงเพื่อเรียนรู้สภาพสนาม หลังจากนั้นเพื่อนร่วมทดสอบผมก็มาช่วยตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพสนามมากสุด ไม่ว่าจะเป็นนักบิดระดับโปรแค่ไหน เจอภาวะอย่างนี้ก็ต้องอาศัย ABS และ TC ช่วยอย่างเต็มที่

เครื่องยนต์ 899 นั้นส่งกำลังออกมาอย่างนุ่มนวล คงเส้นคงวา และคาดเดาได้ เร่งเครื่องให้ได้รอบอย่างรวดเร็ว ความเร่งที่ออกมานั้นก็เร็วดีแต่ไม่ถึงกับแรงสุดๆอย่าง 1199 ออกจากโค้งก็ใส่ได้เต็มที่ด้วยแรงบิดช่วงกลางที่เหลือเฟือ และที่สำคัญเสียงที่ออกมานั้นเพราะพริ้งอย่างกับรถที่คันใหญ่กว่ามัน

สมรรถนะที่ว่านั้นเสริมด้วยระบบกันสะเทือน ที่ตอบสนองดีกว่า 1199 เสียอีก ความรู้สึกของล้อหน้าและหลังนั้นยอดเยี่ยมมาก ทำให้การเข้าโค้งแบบเบรกช้าและเร่งออกจากโค้งก่อนเวลานั้นทำได้อย่างสบายๆ ยิ่งภาวะถนนแบบนี้ถือว่ายังทำได้ดี

จุดเด่น

หน้าตาที่ดูเหมือน 1199 และดูเหมือนล้ำหน้าไป 10 ปีข้างหน้าสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน

เบาะของ 899 ได้รับการปรับปรุงด้วยรูปทรงใหม่และใหญ่ขึ้นโดยความสูงไม่เพิ่ม ผิวเบาะเหมือนจะสากและยึดเกาะได้ดีกว่า 1199 ถือว่านั่งสบายดีสำหรับการขับขี่ในระยะสั้นๆ

ความจริงแล้วท่านั่งของ 899 นั้นก็เหมือนกับ 1199 นั่นคือนั่งสบาย เลี้ยวไปมาก็คล่องแคล่ว ตำแหน่งของส่วนต่างๆของร่างกายก็วางอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ

ระบบอิเลคทรอนิคส์ช่วยขับก็ทำงานได้ดี ตอนเข้าโค้งครั้งหนึ่งผมไถลไปนิดนึง ผลจากการเคลื่อนไหวของร่างกายทำให้ผมกำเบรกมากกว่าที่ผมอยากจะทำ หากไม่มี ABS แล้วละก็ผมคงต้องร่วงแน่ๆ แต่ด้วยเพราะระบบ ABS เลยเป็นเหมือนแค่การสะดุดเล็กน้อยเท่านั้น

เครื่องยนต์ก็เร็วแต่เป็นมิตร แรงบิดที่ได้นั้นดีกว่าเครื่อง 600 แน่ๆ แต่ว่าคงไม่ดีเท่า 1199 อยู่แล้ว

จุดด้อย

จวบจนถึงบัดนี้ ดูเหมือนว่า Ducati จะให้ที่วางเท้าที่แสนจะลื่นที่สุดในโลก หาไม่แล้วคงจะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สมบูรณ์แบบมากๆ ด้วยภาวะฝนตกวันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ นักบิดทุกคนที่มาทดสอบต่างก็บ่นกันเรื่องเท้าหลุดจากที่วาง จนหลายๆคนบอกว่าเกือบจะล้มกลิ้งกันไปก็มี

ส่วนสวิงอาร์มที่ช่วงแรกจากที่เห็นในงานเปิดตัวว่าเหมือนจะไม่ค่อยสวย แต่ลองขับจริงๆแล้วก็ถือว่าไม่เลว แต่ที่ติดตั้งคาลิปเปอร์เบรกหลัง ซับเฟรมด้านหลัง และตัว streering damper ที่ปรับค่าไม่ได้นั้นเหมือนจะดูเป็นของราคาถูกไปหน่อย

ระบบเมนูบนหน้าจอของ Ducati นั้นดูงงๆและเหมือนจะเข้าใจและใช้งานได้ยาก น่าจะติดต่อคนออกแบบ User Interface ของบริษัทแอปเปิ้ลมาด่วนเลย

ราคา

ราคา 899 นั้นถูกกว่า Ducati 1199 อยู่ $3000 โดยราคาเปิดตัวที่ $14,995 (สีขาว $15,295) แต่ยังแพงกว่า Aprilia RSV4 R ขนาด 999cc อยู่ $1000 และราคายังแพงกว่า 2013 Triumph Daytona 675 R อยู่ $1,500 ซึ่งเป็นคันที่มีกันสะเทือนตัวท้อปของ Ohlins อีกด้วย

ผลสรุป

ทั้งการออกแบบ เทคโนโลยี และภาพลักษณ์ก็เป็น 1199 ย่อส่วนลงมาเป็นมอไซค์ที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ลื่นไหลกว่า และขับง่ายกว่า ด้วยตัว 899 นี้คุณจะขับมันอย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องขับแบบเกร็งๆอีกต่อไป สำหรับเราแล้วมอไซค์คันนี้ถือว่ามาพร้อมกับความสามารถในการที่จะนำไปวิ่งบนสนามแข่งหรือบนถนนธรรมดา อันเป็นสองโลกที่คุณจะทำไม่ได้กับตัวพี่ 1199

ตอนที่ผมได้ลองขับ 1199 R ในภาวะอากาศปกติ ผมรู้สึกโชคดีที่เอาชีวิตรอดมาได้ แต่มาขับเจ้าตัวนี้แม้อากาศจะเลวร้ายผมก็ยังรู้สึกว่าเหมือนเป็นฮีโร่ และคิดว่า 899 คันนี้คงทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ข้อมูลจาก raideapart.com

ads2

Advertisment

18,186 views