ล่าสุด

2014 Suzuki V-Strom 1000 ABS รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์

2014-Suzuki-V-Strom-1000-ABS-Review

2014 Suzuki V-Strom 1000 ABS รีวิวการขับขี่

เมื่อได้ยินคำว่า Suzuki ท่านนึกถึงอะไรครับ หากเป็น 10 ปีที่แล้วคุณอาจจะตอบว่า GSX-R เพราะถือเป็นรุ่นที่เฉียบคมและเร็วที่สุดในเรื่องของสปอร์ทไบท์ในตอนนั้น แต่ถ้าเป็นตอนนี้ละครับ หากเรานำเอาเรื่องความสำเร็จของการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ของค่ายนี้แล้วละก็ เราก็คงต้องนึกถึงคุณค่าของมอเตอร์ไซค์มากกว่า ส่วนว่าทำไมนั้นก็ต้องลองอ่านรีวิวมอเตอร์ไซค์ Suzuki V-Strom 1000 ABS คันนี้ดู

มีอะไรใหม่

จะว่าไปแล้วอาจจะดูเหมือนว่ามอเตอร์ไซค์ Suzuki V-Strom คันนี้เหมือนเป็นการปรับโฉมของรุ่นเก่าที่เปิดตัวมาตั้งแต่สมัยปี 2002 โน้น และแม้ว่าทาง Suzukiจะยืนยันว่าทุกอย่างใหม่หมดจดแนว Model Change ก็ตาม แต่ว่ากันในทางเทคนิคแล้วก็แค่เป็นการปรับเพิ่มส่วนต่างๆเท่านั้น แต่ก็เป็นการปรับโฉมที่ดำเนินการในหลายๆส่วนด้วยกัน

สิ่งแรกก็คงเป็นเครื่องยนต์เจ็นเนอร์เรชั่นแรกแบบ TL-based V-twin ที่ทาง Suzuki ได้ออกแบบกระบอกสูบ หัวสูบ ลูกสูบ แหวนสูบ ทั้ง crankshaft crankcase magneto flywheel ระบบคลัช ระบบส่งกำลัง และหัวเทียนใหม่

การเปลี่ยนแปลงต่างๆเหล่านี้ทำให้เครื่องยนต์ใหญ่จากเดิม 996cc เป็น 1037cc พร้อมระบบ slipper clutch พร้อมระบบสองหัวเทียนใหม่ ซึ่งแม้จะไม่ได้ให้กำลังออกมามากกว่าเดิม แต่ทำให้แรงบิดนั้นลงมาในช่วงรอบต่ำมากขึ้น แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 76 ปอนด์ฟุตที่ความเร็วรอบ 4,000 รอบต่อนาที ในขณะที่รุ่นเก่าจะให้แรงบิดสูงสุดที่ 74.5 ปอนด์ฟุต ที่ 6,400 รอบต่อนาที

และอีกอย่างที่หน้าตาจะดูเหมือนในรุ่นเก่าก็คือเฟรม แม้ว่าในรุ่นใหม่นี้จะมีการปรับปรุงใหม่หมดจดเสริมความเกร่งน้ำหนักก็เบาลงก็ตาม จุดหมุนของสวิงอาร์มได้ถูกย้ายเข้าไกล้แกนล้อหน้า และห่างจากล้อหลังมากกว่าเดิม ทำให้สวิงอาร์มยาวกว่าเดิม 20 มม การเปลี่ยงแปลงเหล่านี้น่าจะทำให้เลี้ยวได้เร็ซขึ้น พร้อมทั้งยังเพิ่มความแม่นยำในการทรงตัวและการยึดเกาะถนนที่ดีอีกด้วย มุมเอียงล้อหน้านั้นก็อยู่ในลักษณะที่ดุดันมากขึ้น และมุมเลี้ยวมีค่าเพิ่มจากเดิม 36 องศาเป็น 40 องศา ช่วยทำให้เลี้ยวได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้แล้วน้ำหนักรถก็ลดลงไป 17.5 ปอนด์เหลือแค่ 503 ปอนด์ และถือเป็นครั้งแรกสำหรับมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ Suzuki ที่รุ่น V-Strom 1000 นั้นได้ติดตั้งระบบ traction control ไว้ด้วย โดยมีสวิทส์ที่สามารถปรับระดับการทำงานได้สองระดับและสามารถปิดการใช้งานได้อีกด้วย แต่ระบบเบรก ABS ที่มาเป็นมาตรฐานนั้นไม่มีสวิสท์ปิดการทำงาน แต่สามารถหยุดการใช้งานได้โดยการถอดฟิวส์ออก

2014-Suzuki-V-Strom-1000-ABS-Review2

การขับขี่

เราใช้เวลาสองวันกับการขับขี่กว่า 800 กิโลเมตร ไปกับเส้นทางเลียบทะเลทรายทางตอนใต้ของ California เราทั้งขับไปบนถนนที่การจราจรจอแจบนทางด่วน วิ่งไปตามถนนในเมือง ลุยเส้นทางคดเคี้ยวตามเทือกเขา ทำความเร็วบนถนนโล่งๆและขับไปสองสามกิโลเมตรบนถนนลูกรัง

ตอนที่ออกมาจากลานจอดครั้งแรก สิ่งแรกที่ประทับใจคือความรู้สึกที่ว่ามอเตอร์ไซค์ V-Strom 1000 คันนี้ควบคุมการขับขี่ได้ง่ายจริงๆ แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรแตกต่างทั้งในแง่น้ำหนัก ขนาดหรือการควบคุมเมื่อเทียบกับรุ่นยอดนิยมอย่างรุ่น 650 มอเตอร์ไซค์ V-Strom 1000 คันนี้จริงๆแล้วหุ่นบางกว่าตรงช่วงระหว่างขาเมื่อเที่ยบกับรุ่น 650 แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่าดีกว่าเดิมคือระบบกันสะเทือนที่มีคุณภาพดีกว่า ด้วยความรู้สึกแน่นและออกแนวสปอร์ทมากกว่า ในส่วนของสปริงนั้นแข็งกว่าและการทำงานของตัว Damping นั้นทำงานได้ดี ทำให้การขับขี่นั้นตอบสนองได้ดี ควบคุมได้ทุกช่วงจังหวะ

เมื่อขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์และได้ลองขับในลานจอดด้วยความเร็วช้าๆเท่าคนเดิน พบว่าระบบวาล์วไอดีสองระบบ (อันนึงเป็นแบบอิเลคทรอนิกส์ อีกอันเป็นแบบแมนน่วล) นั้นยังคงส่งพลังให้รถออกอาการกระตุกบ้างเล็กน้อยที่ความเร็วรอบต่ำกว่า 3000 รอบต่อนาที แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อใช้เกียร์สูงและวิ่งที่รอบสูงขึ้น

Suzuki ได้พยายามปรับปรุงบังลมหน้าไปอย่างมาก สามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับแต่ละระดับห่างกัน 10 มม ส่วนที่คิดว่าสุดยอดในการออกแบบก็คงเป็นที่ว่า คุณแค่ผลักบังลมหน้ามันก็จะเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งทั้งสามตำแหน่งที่กำหนดไว้ เริ่มต้นจากตำแหน่งต่ำสุด เมื่อคุณผลักมันครั้งหนึ่งมันก็จะเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ผลักมันอีกครั้งมันก็จะวิ่งมาอยู่ตำแหน่งสูงสุด และผลักมันอีกครั้งมั้นก็จะกลับไปตำแหน่งต่ำสุดอีกครั้ง การปรับความสูงบังลมหน้าจึงถือเป็นเรื่องง่าย เทห์ และถือเป็นการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด สอดคล้องกับการออกแบบโดยรวมของมอเตอร์ไซค์ แต่คิดว่าอาจจะพังง่ายไปหรือเปล่าเพราะไม่ว่าใครก็คงอยากจะมาลองผลักกระจกบังลมคุณเพื่อดูว่ามันทำงานอย่างไร แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงไปกับระบบไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์ในการปรับตำแหน่งบังลมหน้า ระบบแบบนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วแถมทำงานได้ดีอีกด้วย

ขนาดของบังลมนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานดีมากเมื่อเทียบกับขนาดของมัน แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังไม่สามารถบดบังกระแสลมที่มารบกวนไหล่และหมวกกันน้อคของคุณได้หมดจดร้อยเปอร์เซ็นต์ซะทีเดียวหากคุณเป็นคนตัวสูงเหมือนผม

เราไม่ได้มีโอกาสลองมอเตอร์ไซค์รุ่น Adventure ที่มาพร้อมกับบังลมหน้าที่มีความสูงกว่าคันนี้ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆอย่างการ์ดบังแฮนด์เป็นต้น มอเตอร์ไซค์ V-Strom 1000 ทุกคันจะมาพร้อมกับชุดปิดล้อคใต้เบาะนั่ง กุญแจจะเป็นตัวเดียวกับที่ใช้สตาร์ทเครื่องยนต์

แม้ว่าบังลมจะปล่อยให้ลมปะทะออกมาบ้าง แต่มอเตอร์ไซค์ V-Strom 1000 คันนี้วิ่งทำความเร็วที่ราวๆ 110 กม/ชม ด้วยเกียร์ 6 ที่ความเร็วรอบ 4,000 รอบต่อนาทีอันเป็นตำแหน่งที่ให้แรงบิดสูงสุด การขับขี่นั้นสบายและนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ ตรงจุดนี้เครื่องยนต์วิ่งได้ราบเรียบและพร้อมที่จะแร่งแซงรถคันอื่นได้อย่างทันท่วงที หากไม่เป็นเพราะเบาะที่เหมือนจะรู้สึกแข็งเกินไปแล้วละก็ ผมว่าคุณสามารถนั่งขับมันได้ทั้งวันเหมือนว่ากำลังขับรถทัวร์ริ่งคันใหญ่เลยก็ว่าได้

เป้าหมายหนึ่งที่ทาง Suzuki ต้องการพัฒนาเพิ่มเติมก็คงเป็นเรื่องการทรงตัว ด้วยสภาพลมแรงของย่านนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้พยายามทดสอบแล้วทดสอบอีกในระยะเวลาการขับขี่กว่า 800 กมนี้ เราพบว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้สามารถทรงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าลมที่ปะทะจะโหมมาแรงแค่ไหน หรือผลจากรถคันอื่นที่อยู่ข้างๆ จะสร้างลมดูดไปมากเพียงใดก็ตาม

เบาะนั่งสูง 33.5 นิ้วนั้นสูง แต่ก็ยังมีตัวเลือกทั้งเบาะสูงต่ำได้ ในบริเวณที่เบาะเจอกับถังน้ำมันนั้นจะเพรียวและแคบลงจนแม้แต่คนที่ตัวเตี้ยก็สามารถเอาเท้าแตะพื้นได้สบายๆ

การยืนขี้นเพื่อขับรถไปตามถนนวิบากนั้นให้ความสบายได้ดี แฮนด์นั้นอยู่ในตำแหน่งสูง ที่วางเท้าต่ำ และตรงตำแหน่งเบาะชนกับตัวถังนั้นก็เพรียวพอที่จะทำให้คุณสามารถควบคุมรถได้ดี ขับสบายและมีพื้นที่เหลือเฟือให้ขยับตัวได้

ถนนวิบากที่เราได้ลองนั้นมีฝุ่นทรายมากกว่าที่เราคิดไว้ในตอนแรก ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ใส่ยางสำหรับวิ่งบนถนนมา นักทดสอบจากค่ายอื่นสามรายก็ดำดิ่งลงไปติดแหง็กอยู่ในทราย เราเองก็ประหลาดใจว่านักวิจารณ์รถเหล่านี้ต่างก็ใจกล้าพร้อมทุ่มเทการทดสอบกับมอเตอร์ไซค์ที่เอาไว้ขับขี่บนถนนเรียบแล้วยอมพลีตัวเองขนาดนี้เขียวหรือเนี่ย

ระบบเบรก ABS เหมือนจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่เมื่อมาเจอถนนนิ่มๆเป็นทรายแบบนี้ตามคาด แต่อย่างน้อยมันก็ยังสามารถทำให้ล้อหน้าทรงตัวอยู่ได้แม้คุณจะกำเบรกหน้าเต็มที่ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทำงานได้ดีกว่า ทำให้ล้อหลังไม่หมุนฟรีแล้วหลุดจากการควบคุม ทำให้คุณสามารถบิดคันเร่งเสริมเพื่อวิ่งไปข้างหน้าได้ เมื่อลองปรับการใช้งานระบบ TC มาที่ระดับ 2 จะมีการเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

2014-Suzuki-V-Strom-1000-ABS-Review3

ระบบกันสะเทือนซึ่งรู้สึกได้ว่าแข็งและตอบสนองดีบนทางเรียบนั้น ความจริงแล้วทำงานบนถนนวิบากได้ดีกว่าที่คิด อาจจะไม่ทำให้ถึงขั้นว่านุ่มนวลแต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณรู้สึกได้ถึงภาวะการขับขี่ การตอบสนองของพื้นด้านล่างและไม่เตะคุณออกจากเบาะนั่งแน่

กลับมาบนถนนเรียบอีกครั้ง อันเป็นสิ่งที่มอเตอร์ไซค์ V-Strom 1000 ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีที่สุด ทุกอย่างดูสบายใจกว่ากันเยอะ ด้วยน้ำหนักที่เบาและระบบกันสะเทือนที่แน่ทำให้มันตอบสนองได้ดีและพร้อมที่จะทำความเร็ว หากเข้าโค้งต่ำๆสิ่งที่จะแตะพื้นก่อนก็คงเป็นที่วางเท้า ซึ่งจะแตะเร็วว่ามอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ททั่วไป และสิ่งที่ตามมาก็คงเป็นท่อไอเสีย แม้จะพูดไปแบบนั้นแต่จริงๆแล้วคุณสามารถพาเจ้า V-Strom 1000 เข้าโค้งหนักๆได้โดยอาศัยการตอบสนองของระบบกันสะเือนและระบบเบรกเพื่อที่จะผสมผสานได้เป็นอย่างดีกับสลิบเปอร์คลัชที่สามารถลดเกียร์ได้อย่างง่ายดาย การบังคับเลี้ยวเหมือนจะช้ากว่าที่คุณคาดเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ที่มีแฮนด์กว้างขนาดนี้ แต่สุดท้ายมันก็สามารถทำให้คุณสามารถผ่านโค้งไปได้ มันยังน่าประทับใจตรงที่คุณสามารถส่งพลังเครื่องยนต์ได้ก่อนล่วงหน้ากว่าที่คาด ด้วยการช่วยเหลือของเครื่องยนต์แบบ V-Twin และยางสำหรับทางเรียบอย่าง Bridgestone Battlewings และระบบ traction control ระบบสุดท้ายที่กล่าวถึงนั้นอาจจะไม่ดูไฮเทคเหมือนระบบของมอเตอร์ไซค์จากยุโรป แต่มันก็ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ทำให้คุณสามารถยอมให้รถไถลได้เล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย

ข้อจำกัดสำหรับการวิ่ง 400 กม ต่อวันของผมก็คือความนั่งสบายของเบาะ ในขณะที่มอเตอร์ไซค์ V-Strom 650 นั้นมาพร้อมกับเบาะที่คิดว่านั่งสบายที่สุดในโลก แต่เบาะของ V-Strom 1000 นั้นกลับแข็งกว่า นักบิดคนอื่นอาจจะไม่บ่นมาก แต่อยากจะแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่าอุบัติเหตุครั้งใหญ่เมื่อประมาณปีนึงมาแล้วนั้นทำให้ประสาทส่วนท้ายของผมนั้นไวกว่าปกติ

โดยภาพรวมถือว่า Suzuki ได้สร้างมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ยอดเยี่ยม ใช้งานได้ ให้คิดถึงว่ามันเป็นมอเตอร์ไซค์ทางเรียบประสิทธิภาพสูงที่ขับสบาย ขับง่ายทั้งในสภาพการจราจรที่แออัดและหากจะทำความเร็วก็ทำได้ดี มอเตอร์ไซค์คันนี้ให้ผลลัพธ์ดีเหมือนๆกับรุ่น 650cc คือในแง่ของสเป็กตัวเลขบนกระดาษแล้วอาจจะด้อยกว่าคู่แข่งอย่างค่าแรงม้าสูงสุดเป็นต้น แต่กลับให้การขับขี่ที่มั่นคงที่ทำงานได้ดีในโลกแห่งความเป็นจริง หากคุณใช้มอเตอร์ไซค์ทุกวันเพื่อไปทำอะไรให้ได้ทุกอย่าง มอเตอร์ไซค์ V-Strom คันนี้สามารถตอบสนองความต้องการคุณได้ดี

จุดดี

มอเตอร์ไซค์คันนี้ทำทุกอย่างบนทางเรียบได้ดี ไม่ว่าจะใช้สำหรับการเดินทางไปทำงาน ออกทัวร์ หรือจะขี่เล่นในเมือง

ที่น่าประหลาดใจก็ตรงที่ว่าขับบนถนนวิบากแล้วยังขับสบาย แม้จะเป็นรถสำหรับทางเรียบก็ตาม หากการขับขี่ของคุณอาจจะมีบางจังหวะที่ต้องขับลุยถนนลูกรังบ้างละก็ มอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่สร้างปัญหาให้คุณแน่

เครื่องยนต์ให้พลังออกมาอย่างดีจากเครื่อง V-Twin พร้อมความนุ่่มนวลเหมือนเครื่องสี่สูบเรียงเมื่อขับที่ความเร็วสูง ไม่มีอาการสั่นให้สังเกตได้

แม้อาจจะไม่แรงเท่าคู่แข่ง แต่เมื่อคุณได้ลองขับแล้วจะลองทำความเร็วดูว่า V-Strom คันนี้ไปได้ถึงไหน คุณจะพบว่าเครื่องยนต์นั้นจะแรง นิ่ง และขับง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

แผงหน้าปัทว์ใหม่ทั้งเข็มวัดรอบแบบอนาลอก และที่บอกความเร็วแบบดิจิตอลนั้นอ่านค่าและแปลความหมายได้ง่าย ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวัน มาพร้อมเข็มวัดระดับน้ำมัน วัดอุณหภูมิภายนอก อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและอื่นๆ

ช่องจ่ายไฟตรงบริเวณแผงคอด้านหน้าและตรงกลางนั้นเหมาะสำหรับจ่ายไฟให้กับเครื่อง GPS หรือ Smartphone ของคุณ

อัตรการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 40 ไมล์ต่อแกลลอน และมาพร้อมถังน้ำมันขนาด 5.3 แกลลอน น้ำมันเต็มถังก็น่าจะวิ่งได้ประมาณกว่า 360 กม

จุดด้อย

แม้ว่าบังลมหน้าจะอยู่ในตำแหน่งสูงสุด และยื่นไปข้างหน้าสุด ก็ยังไม่สามารถบังลมปะทะได้หมด บังลมแบบ Touring นั้นมีให้เลือกจาก Suzuki และจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น Adventure คิดว่าจำเป็นหากคุณเป็นคนตัวสูงที่จะต้องเปลี่ยนบังลมหน้า

เบาะนั่งนั้นรองรับน้ำหนักได้ดี บาง และเหมาะสมในทุกเรื่อง ยกเว้นว่ามันแข็งไปหน่อย ก้นผมอยู่ได้แค่ประมาณ 30 นาทีก่อนที่เริ่มรู้สึกปวด

พลังเบรกนั้นเหลือเฟือ แต่อาจจะกระตุกในช่วงเริ่มต้นของการเบรก เมื่อผสมกับระยะยุบตัวที่มากของตะเกียบหน้า อาจจะเป็นผลให้เกิดการดำดิ่งเกินพอดีในตอนที่คุณคิดแค่จะเบรกเบาๆ

ช่วงความเร็วรอบนั้นต่ำเกิน การบิดคันเร่งในภาวะเกียร์ 1 อาจจะทำให้กระตุกบ้าง อาจจะไม่เป็นปัญหาหากขับบนทางเรียบ แต่หากออกแนววิบากแล้วละก็อาจจะทำให้การขับข้ามสิ่งกีดขวางนั้นทำได้ไม่ดีนัก

ระบบป้องกันความเสียหายทำได้ไม่ดีนัก แค่หกล้มไปในทรายด้วยความเร็วราว 16 กม/ชม เป็นผลให้ก้านบังคับหัก ชิ้นส่วนพลาสติกหลุดออกมา

ในการที่จะทำให้ต้นทุนต่ำลงทำให้ V-Strom คันนี้ขาดอุปกรณ์ทันสมัยไปอย่างไฟหน้า LED หรือ โปรเจคเตอร์ หรืออย่างระบบ Traction Control รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นต้น รวมถึงระบบ cruise control ก็ไม่มี

ราคามอเตอร์ไซค์ Suzuki V-Strom 1000

ราคาเปิดตัวในอเมริกาอยู่ที่ $12,699 หรือประมาณ 400,000 บาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Yamaha Super Tenere ที่ $14,790 หรือ Triumph Tiger Explorer ที่ $15,690 หรือหากเทียบกับของที่หรูกว่าอย่าง BMW R 1200 GS ที่ $17,600 หรือ Ducati Multistrada 1200 ก็อยู่ที่ $16,995 อย่างไรก็ตามการเข้าศูนย์บริการของ Suzuki นั้นจะน้อยกว่ามอเตอร์ไซค์ค่ายยุโรปอยู่เยอะ

คำตัดสิน

มอเตอร์ไซค์ Suzuki V-Strom 1000 คันนี้อาจจะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ที่เด็ดสุด วิ่งเร็วสุดที่มีอยู่ในตลาด แต่ถือเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด ซื้อง่าย มีวางจำหน่ายทั่วไป และชื่อของ Suzuki นั้นเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ สำหรับผมแล้วมองว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้ถือว่าใช้งานได้ทุกรูปแบบและคุ้มค่ามากที่สุดคันหนึ่ง

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ข้อมูลและภาพจาก rideapart.com

ads2

Advertisment

16,327 views