ล่าสุด

Yamaha MT-07 รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์ (First Ride)

Yamaha-MT-07-Review

Yamaha MT-07 รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์ (First Ride)

งานมีตติ้งรวมนักบิดครั้งหน้าลองสังเกตุดูนะครับว่าคุณเจอนักบิดประเภทเริ่มล้านมากกว่านักบิดสิวเขรอะหรือเปล่า หากเป็นแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรน่าตื่นเต้นมาดึงดูดนักบิดหน้าใหม่ให้เขามาร่วมงานกันมากขึ้นแล้วละครับ และนั่นคือสิ่งที่ Yamaha ทำในตอนนี้ นั่นก็คือมอเตอร์ไซค์คันใหม่รุ่น MT-07 เพื่อดึงดูดนักบิดหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด

มอเตอร์ไซค์ Yamaha MT-07 นี้พุ่งเป้าไปยังนักบิดในช่วงอายุ 20 – 35 ปี มอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นยิ่งกว่ามอเตอร์ไซค์ที่ใช้ขับไปไหนมาไหนตามที่ผมได้เคยจินตนาการไว้ก่อนหน้านี้ มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สุดยอดคันหนึ่งและยากที่ขับขี่มันไปโดยไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเรา

มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้อาจจะมีสายพันธ์เกี่ยวโยงกับ MT-09 (FZ-09 ในอเมริกา) ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่กว่า มอเตอร์ไซค์ MT-07 ไม่ได้ออกมาเพื่อนักบิดที่ต้องการความแรงเร้าใจซะทีเดียว แต่อย่าคิดนะครับว่านักบิดมือเก๋าไม่ควรจะหันมามองน้องใหม่ในกลุ่ม MT คันนี้

สูตรสำเร็จของ Yamaha ก็คือต้องการให้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เพียงแต่ขับง่ายเท่านั้น แต่ยังจะขับสนุกอีกด้วย ผมลองขับด้วยระยะทางราว 200 กิโลเมตรกับเครื่องยนต์ขนาด 689cc คันนี้ในระหว่างงานเปิดตัวสำหรับสื่อมวลชน แต่ใจจริงแล้วอยากจะขับให้มากกว่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าการขับขี่นั้นง่ายๆสบายๆ ไม่ต้องกังวลกับโหมดการขับขี่อะไรมาก แค่ติดเครื่องแล้วก็เปิดคันเร่งก็แค่นั้น

มอเตอร์ไซค์ Yamaha MT-07 ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ทุกโอกาสที่เราต้องใช้งาน ท่านั่งขับที่สบายๆ ที่ต้องขอบคุณที่วางเท้าที่อยู่ในระดับต่ำ ขับมอเตอร์ไซค์คันนี้เหมือนนั่งอยู่กับบ้าน ติดขัดอยู๋อย่างเดียวเวลาจะยกเลิกไฟเลี้ยวกลายเป็นบีบแตรอยู่หลายครั้ง กว่าจะคุ้นเคยก็ต้องใช้เวลานิดนึง

เครื่องยนต์ใหม่นี้ให้แรงม้าที่ Yamaha บอกว่าออกมาถึง 75 แรงม้า ซึ่งทาง Yamaha เองมีแผนว่าจะใช้เครื่องยนต์เดียวกันนี้กับรุ่นอื่นๆอีกด้วย เครื่องยนต์ได้ถูกออกแบบมาให้มีส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยที่สุด ลดต้นทุนการประกอบเครื่องยนต์ ลดแรงเสียดทานภายในและน้ำหนัก ซึ่งจะส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น

กำลังสูงสุดอาจจะไม่ประทับใจใครหลายๆคน แต่ก็ประมาณ 3 แรงม้ามากกว่า Kawasaki ER-6 และ Suzuki SFV650 แต่สิ่งที่เราควรกล่าวถึงสำหรับ MT-07 ก็คงเป็นเรื่องของแรงบิดที่ 50 ปอนด์ฟุต ซึ่งมากกว่า Suzuki และ Kawasaki อยู่ 3 ปอนด์ฟุตด้วยกัน

ที่ราคา 5,199 ปอนด์ หรือราวๆ 280,000 บาทในอังกฤษ ก็ถือว่าราคาถูกกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง ซึ่งทาง Kawasaki ก็ออกมาลดราคา ER-6n ลงอีก 500 ปอนด์จนเหลือ 5,399 ปอนด์ เมื่อ MT-07 ออกมา ส่วน Suzuki SFV ยังไม่ขยับราคาจึงยังคงอยู่ที่ 5,999 ปอนด์

เส้นกราฟแรงบิดของ MT-07 นั้นรับรองได้ว่าจะสร้างรอยยิ้มให้คุณได้ดีเมื่อมองว่าส่วนหน้าของรถนั้นถูกออกแบบมาให้เบาที่สุดเท่่าที่จะเบาได้

การออกตัวก็ทำได้ดีจากรอบต่ำ นั่นหมายถึงว่าคุณสามารถขับรถคันนี้เอื่อยๆในเมืองแม้อยู่ในเกียร์สองหรือเกียร์สาม การตอบสนองต่อคันเร่งนั้นถือว่าดีมาก และเกียร์ต่ำจะช่วยให้รู้สึกถึงอัตราเร่งที่ดีเมื่อเริ่มเปิดคันเร่ง ตรงนี้น่าจะถือเป็นสุดยอดของมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ว่าได้

Yamaha-MT-07-Review-02

มอเตอร์ไซค์คันนี้พร้อมจะตอบสนองการขับขี่แบบเร้าใจได้ ถ้าคุณบิดคันเร่งแรงๆก็พร้อมจะยกล้อให้คุณได้ทั้งวัน แม้อาจจะไม่ถึงขั้นหวือหวา แต่มันก็พร้อมจะฮัมเสียงเครื่องยนต์ไปรอบๆเมืองอย่างช้าๆ หรือจะซิ่งรถไปตามถนนนอกเมืองก็สบายๆ ผมก็ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่มอเตอร์ไซค์คันนี้ทำอะไรได้หลายๆอย่าง สร้างรอยยิ้มให้ผมได้ตลอดทั้งทริป และทุกอย่างด้วยราคาไม่ไกลเกินเอื้อม

น้ำหนักรถได้มึการเน้นย้ำอยู่หลายครั้งระหว่างที่ Yamaha กำลังพรีเซ้นต์มอเตอร์ไซค์คันนี้ให้เราฟัง แชซซีที่มีเฟรมแบบ tubular น้ำหนักเบาถือเป็นจุดเริ่มต้นของมอเตอร์ไซค์คันนี้ สปริงแนวนอน โช้คหลังปรับค่าได้ที่ยึดติดกับเครื่องยนต์โดยตรง อันเป็นการลดน้ำหนักและลดแรงเค้นที่จะเกิดขึ้นโดยตรงกับเฟรมรถ ชุดสตาร์ทรถที่มีน้ำหนักเบานั่นหมายถึงแบตเตอร์รี่ที่เบาลงด้วย ระบบคลัชก็ดูเหมือนจะเป็นระบบที่เล็กที่สุดสำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาด 75hp

ผลจากการเน้นในเรื่องการลดน้ำหนักนี้หมายถึงว่า เมื่อใส่น้ำมันเครื่องและเติมน้ำมันเต็มถังแล้วรุ่นที่มี ABS จะมีน้ำหนักเพียง 186 กิโลกรัม เทียบกับ ER-6N ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 204 กิโลกรัมก็ถือว่าเบากว่าถึง 20 กิโลกรัม

ผลดีจากน้ำหนักเบานั้นเป็นทวีคูณ อย่างแรกคือ น้ำหนักเบาหมายถึงประหยัดน้ำมันและขับง่ายขึ้น และเมื่อรวมกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและระยะระหว่างล้อที่สั้นเพียง 1,400 มม มอเตอร์ไซค์คันนี้ก็จะให้ความคล่องตัวสูงมาก

ตะเกียบหน้าแบบ เทเลสโคปิคให้ระยะยุบตัวที่ 130 มม โดยทาง Yamaha จะให้ pitch ของตะเกียบหน้าที่แคบเพื่อลดการหน่วงเวลาเลี้ยว แม้ตะเกียบหน้าจะปรับค่าไม่ได้แต่ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี รองรับทุกแรงกระแทกที่เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน

เบาะนั่งมีความสูงเพียง 805 มม เมื่อมาพร้อมกับเบาะที่แคบก็จะเหมาะสำหรับนักบิดร่างเล็ก แต่สำหรับคนตัวสูงก็ไม่ได้โหดร้ายมาก

แผงหน้าปัทว์แบบดิจิตอลก็ดูดี แสดงข้อมูลที่จำเป็นอย่างความเร็วรถ ความเร็วรอบ ระดับน้ำมัน พร้อมระยะทริปและอุณหภูมิภายนอก ได้รับการติดตั้งอย่างดีกับแฮนด์และทำมุมสวยงามกับไฟหน้า แต่ด้วยคนตัวสูงอย่างผม ทุกครั้งที่มองลงไปดูความเร็ว ผมจะเห็นแค่อากาศบางๆระหว่างกระจกคู่หน้า ผมต้องพยายามอย่างมากที่ต้องก้มลงไปอีกเพื่อดูให้ชัดๆ

ระบบเบรกล้อหน้าเป็นจานคู่ขนาด 282 มม พร้อมคาลิบเปอร์แบบโมโนบล้อค และล้อหลังแบบจานเดี่ยวขนาด 245 มม ซึ่งก็ให้พลังหยุดได้อย่างเหลือเฟือ เสียดายที่ ABS เป็นอุปกรณ์เสริมความจริงน่าจะใหม่มาเป็นมาตรฐานซะเลย

Yamaha ก็พยายามเน้นย้ำถึงความคล่องตัวของมอเตอร์ไซค์คันนี้อยู่บ่อยๆ แม้คุณอาจจะไม่อยากใช้เวลาทั้งวันไปกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์คันนี้ไปบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง ในสภาพแบบแนวเนกเก็ต แต่ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมต่างๆมากมายเพื่อให้ตกแต่งออกมาในแนวสปอร์ต หรือจะแนวการใช้งานในเมืองก็ได้

ทาง Yamaha อ้างว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้ทำได้ถึง 68 ไมล์ต่แกลลอน นั่นหมายถึงวิ่งได้ประมาณ 320 กม ต่อน้ำมันหนึ่งถังที่ความจุ 14 ลิตร

แม้ว่าราคาจะไม่สูงมากสำหรับมอเตอร์ไซค์ Yamaha MT-07 แต่ผมคิดว่า ตะเกียบหน้าขนาด 140 มม นี้น่าจะได้รับการปรับปรึง และระบบเบรกควรจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่านี้ แต่คุณคงจะมัวดีใจว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่คุ้มค่าจนอาจจะลืมประเด็นนี้ไปก็ได้

มอเตอร์ไซค์ Yamaha MT-07 นั้นถือว่าน่าดึงดูดใจสำหรับนักบิดหน้าใหม่มาก มันทำให้มอเตอร์ไซค์เจ้าอื่นๆเหมือนราคาแพงเวอร์ไปเลย อย่าง Honda CBR500R ราคาก็อยู่ที่ 5299 ปอนด์ Kawasaki Ninja 300 ราคาที่ 4,799 ปอนด์ ซึ่งอาจจะใช่ที่เป็นมอเตอร์ไซค์ที่เล็กกว่า แต่เนื่องจาก MT-07 ให้แรงม้าที่สูง จึงน่าดึงดูดในมากกว่า

มอเตอร์ไซค์ MT ตัวใหม่นี้ก็น่าจะทำให้นักบิดมือเก๋าหันมามองกันมากขึ้น แถมยังถือว่าออกมาแข่งกับรุ่นใหญ่กว่าได้อย่างสบายๆ อย่าง Kawasaki และ ER-6 คิดว่าถึงเวลาแล้วที่รุ่นใหญ่ต้องลดราคาลงมาบ้าง

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ขอบคุณข้อมูลจาก visordown.com

ads2

Advertisment

27,486 views