รีวิวขับขี่มอไซค์ Suzuki GSX-S1000F – First Ride
รีวิวขับขี่มอไซค์ Suzuki GSX-S1000F – First Ride
มอไซค์คันนี้ตอนนี้มันถูกเปิดตัวที่งาน Intermot เมื่อกันยายนปีที่แล้ว หลายๆคนก็จัดให้มันอยู่ในกลุ่ม Sport Tourer เพราะคงจะหากลุ่มให้มันไ่ม่ค่อยจะถูกด้วยแฮนด์ที่ตรง บังลมสูงแบบนี้
แต่ก็ไม่ถึงกับเป็น sport tourer ทาง Suzuki ยืนยันมาว่าอย่างนั้น เขาบอกว่ามันเป็นมอไซค์แนวสปอร์ท เพียงแต่ว่าเป็นรุ่นที่ขับสบาย ถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม มอไซค์สปอร์ทไบค์ที่ขับสบายเขาว่างั้น ดังนั้นอย่างเป็นทางการแล้วก็คงจะไม่มีกระเป๋าสัมภาระให้เลือก มีแค่กระเป๋าครอบถุงน้ำมัน และกระเป๋าชุดหางเท่านั้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็รู้สึกผิดหวังไปนิดเมื่อคิดว่ามันน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Kawasaki Z1000SX ที่มาพร้อมกระเป๋าสัมภาระให้เลือกซื้อ แต่หลังจากได้ลองขับ GSX-S1000F ในงานเปิดตัวสำหรับสื่อมวลชนแล้วผมก็ขอถือว่าโอเคไม่มีก็ไม่เป็นไร
แน่นอนว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้มากับเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร ซึ่งก็เป็นเครื่องยนต์ตัวเก่าของ GSX-R1000 ขนาด 999cc สี่สูบเรียง ให้แรงม้าที่ 143.5 แรงม้า มาพร้อมแชซซีแบบอลูมิเนียม พร้อมสวิงอาร์มจากรุ่น Gixer Thou ปัจจุบัน
ตอนเปิดตัวปีที่แล้วทาง Suzuki อังกฤษ กล่าวว่ามันเป็นเครื่องยนต์ GSX-R1000 รุ่นปี 2008 ซึ่งคำกล่าวอย่างเป็นทางการระบุว่าเครื่องยนต์มาจาก K5 (2005) GSX-R1000 ความจริงแล้วเครื่องยนต์รุ่นปี 2005 นั้นถูกใช้งานจนถึงปี 2008 สิ่งที่แตกต่างก็คงเป็นเรื่องของการทำการตลาดเท่านั้น
เครื่องยนต์ GSX-S1000F นั้นมาพร้อมแรงบิดสุดยอดในช่วงต่ำและช่วงกลาง มันทะยานไปข้างหน้าได้ดีที่ 3,000 รอบต่อนาทีด้วยเกียร์ 5 และให้พลังแรงไปตามสัดส่วนความเร็วรอบ จนกระทั้งถึง 9,000 รอบต่อนาที ซึ่งจะให้แรงบิดสูงขึ้นมาอีกช่วงตามแนวเครื่องยนต์แบบเก่า แรงม้าสูงสุดนั้นอยู่ที่ 143.5 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดนั้นอยู่ที่ 78.2 ปอนด์ฟุต ที่ 9,500 รอบต่อนาที
ช่วงกลางๆนั้นถือว่าดีใช้ได้ ทำให้ GSX-S1000F นั้นขับเร็วได้อย่างง่ายๆ เพราะเราจะรับรู้อยู่แก่ใจว่าแม้วิ่งเกียร์สูงตอนเข้าโค้งก็ยังให้พลังที่เหลือเฟือ
แต่แรงบิดช่วงปลายนั้นจะเย้ายวนใจให้คุณวิ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดเมื่อเจอถนนทางตรงเข้าให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจอถนนที่ไม่จำกัดความเร็วแล้วละก็บิดกันไม่เหลือ ถือเป็นเรื่องที่น่าลองอย่างยิ่ง มันมีเหตุให้ต้องรออย่าเพิ่งเปลี่ยนเกียร์ รอจนรอบมาที่ 9,000 แล้วคุณก็จะเหมือนได้พลังเร่งแบบสุดๆ จนไปถึงความเร็วที่ 11,500 รอบต่อนาที เสียงก็คำรามอย่างเพราะพริ้งออกแนวสปอร์ทไบค์ขนาด 1 ลิดรดีๆนี่เอง
มอเตอร์ไซค์ GSX-S1000F นั้นถือว่าเป็นแบบฟูลแฟร์ของรุ่นเนคเก็ต GSX-S1000 ซึ่งได้รับการเปิดตัวในงาน Intermot เมื่อปีที่แล้วเช่นกัน เครื่องยนต์เป็นแบบเดียวกัน พร้อมพลังเพิ่มช่วงปลายที่ 9,000 รอบเหมือนกัน แต่รุ่นเนคเก็ตนั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนจะบินมากกว่า แตะที่รอบสูงขนาดนั้นล้อหน้าเหมือนพร้อมจะทะยานบินซะมากกว่า
ตัวแฟร์ริ่งนั้นเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีก 7 กิโลกรัมให้กับส่วนหน้าของ GSX-S1000F แต่ก็เพิ่มการทรงตัวได้ดีขึ้นกว่ามาก ทาง Suzuki กล่าวว่าระบบอากาศพลศาสตร์ของมันจะเพิ่มแรงกดเท่าๆกับ 20 กิโลกรัมที่ความเร็ว 192 กม/ชั่วโมง ล้อหน้าเหมือนจะถูกตรึงไว้กับพื้น เมื่อมันเริ่มจะไถลความรู้สึกถึงการทรงตัวที่ดีก็จะคงอยู่
ที่ความเร็วตัวเลขสามหลัก ไม่ว่าจะเจอถนนแบบไหน GSX-S1000F จะให้ความรู้สึกอุ่นใจ สปอร์ท และระบบกันสะเทือนปรับค่าได้จะให้ความรู้สึกว่าเอาอยู่
ตะเกียบหน้าเป็นแบบหัวกลับปรับค่าได้ทุกอย่าง และโช้คที่ปรับค่าได้ทั้งค่าพรีโหลดและค่ารีบาวด์ โดยทั้งสองเป็นของ KYB ระบบต่างๆถือว่าเหมือนกับรุ่นเนคเก็ต แต่มีการปรับค่าเพื่อเพิ่มค่าแด้มปิ้งให้กับทั้งสองฝั่ง ระดับน้ำมันในตะเกียบหน้านั้นแตกต่างซึ่งทาง Suzuki กล่าวว่าเพื่อให้เพิ่มน้ำหนักที่ล้อหน้าและทำให้มอไซค์ออกแนวสปอร์ทมากขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วสูง ระบบกันสะเทือนแน่นหนึบ มีอยู่ครั้งหนึ่งก้นผมเด้งออกจากเบาะ แต่ก็ไม่ถึงกับน่ากังวลถือว่ารองรับร่างของคนขับได้ดี
ที่ความเร็วต่ำจะให้ความรู้สึกถึงน้ำหนักเบา แฮนด์ที่ตรงและมุมเลี้ยวที่เหมาะสมทำให้ GSX-S1000F นั้นบังคับเลี้ยวได้ด้วยความมั่นใจ เบาะก็ต่ำพอสำหรับผู้ขับขี่ทั่วไปที่จะนั่งได้อย่างสบายและแตะพื้นได้ทั้งสองเท้า ความสูงอยู่ที่ 810 มม
คาลิบเปอร์เบรกก็เป็นแบบสี่สูบของ Brembo จานเบรกคู่ขนาด 310 มม ตรงล้อหน้า ส่วนล้อหลังก็เป็นของ Nissin ระบบเบรกก็ถือว่าให้พลังเบรกได้ดี ระบบ ABS มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบ traction control ก็มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไปแล้วสำหรับรถสเป็คสูงแต่อาจจะไม่ค่อยพบเห็นกับรถ Suzuki มากนัก มอไซค์ V-Strom 1000 อีกรุ่นเท่านั้นที่มีระบบนี้
แผงหน้าปัทว์แบบดิจิตอลเป็นแบบไร้สี แต่ก็แสดงข้อมูลทุกอย่างเท่าที่จำเป็น อย่างเช่นอัตราสิ้นเปลีองน้ำมันเฉลี่ย และระยะไกลสุดที่จะวิ่งได้ จากผลการทดสอบของผมจะได้ตัวเลขที่ 35.2 ไมล์ต่อแกลลอน และจากถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร วิ่งได้ประมาณ 200 กม นิดๆ
ท่านั่งขับก็ถือว่านั่งได้สบายดี บังลมก็ตีลมออกไปได้ดีเช่นกันแม้จะวิ่งเกิน 160 กม/ชม ท่านั้งก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่หากขายาวอาจจะรู้สึกอึดอัดไปนิด แต่แน่นอนว่าท้องรถคงไม่สูงมากกับรถที่เบาะต่ำขนาดนี้
ผมมีสิ่งที่ต้องบ่นนิดนึงสำหรับ GSX-S1000 คือการตอบสนองคันเร่งที่มีลักษณะปิดๆเปิดๆ เจ้าตัว GSX-S1000F ก็เช่นเดียวกัน มันเหมือนจะอยากเร่งเครื่องแล้วก็ปิดสนิทไปเลย การจะวิ่งให้ได้ความเร็วคงที่ก็เหมือนพยายามเล่นกับสองจังหวะนี้ ผมรู้สึกได้ทันทีถึงเรื่องนี้ตอนเริ่มออกจากลานจอด นอกเมืองก็ไม่เป็นปัญหาเพราะคุณทำสองอย่างคือเร่งเครื่องหรือชลอรถ ซึ่งเป็นภาวะที่ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับมอไซค์คันนี้
เข้าโค้งได้นิ่ม แล้วบิดเร่งออกจากโค้ง ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากจะขับแบบไปเรื่อยๆ ลักษณะเครื่องยนต์แบบนั้นก็จะทำให้รู้สึกน่ารำคาญอย่างยิ่ง
ทาง Suzuki บอกว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองต่อการเร่งที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องปรับตัวให้เข้ากับมันและลืมมันเป็น ผมเชื่อว่านักบิดหลายคนคงชินกับมันได้ หรือก็ต้องยอมทนเพื่อชดเชยกับการตอบสนองต่อคันเร่งที่ดีกว่า
จากข้อมูลของ Suzuki ระบุว่าความแตกต่างระหว่าง GSX-S1000 และ GSX-S1000F ก็เป็นเพียงระบบแฟร์ริ่ง และไฟหน้าแบบคู่ กระจกมองหลังเท่านั้น และอีกนิดนึงก็คือการตั้งค่าระบบกันสะเทือน
ราคาในอังกฤษอยู่ที่ 9,999 ปอนด์ หรือราวๆ 500,000 บาท สำหรับสเป็คอย่างย่อก็เป็นไปตามข้อมูลด้านล่าง
สเป็คอย่างย่อ
Model tested: Suzuki GSX-S1000F
Engine: 999cc in-line-four
Power: 143.5hp @ 10,000rpm
Torque: 78.2lbft @ 9,500rpm
Kerb weight: 214kg
Frame: aluminium
Tank capacity: 17 litres
Seat height: 810mm
