รีวิวมอเตอร์ไซค์ BMW F800GS 2014 กับการขับขี่ครั้งแรก
ค่าย BMW ได้นำตัว 2013 F800GS ADVENTURE มาปรับปรุงเป็น 2014 F800GS ตามที่หลายๆคนได้ดาดไว้ ความหมาย Adventure หรือรถผจญภัยหมายถึงความสามารถในการขับขี่แบบ off-road ได้ดี ซึ่ง BWM ออกรุ่นนี้มาเพื่อให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์วิบากขนาดกลาง
จุดแรกที่ต้องกล่าวถึงสำหรับมอเตอร์ไซค์วิบากรุ่นนี้ ก็คงเป็นเรื่องถังน้ำมันที่จุดได้มากกว่าเดิมอีก 2.1 แกลลอน มากกว่ารุ่นมาตรฐานรวมเป็น 6.3 แกลลอน ทำให้น้ำหนักเพิ่มขี้นมาอีก 13 ปอนด์ หรือราวๆ 6 กิโลกรัม แน่นอนว่าถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นก็หมายถึงระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้น ทาง BMW อ้างว่าเจ้า F800 วิ่งได้ไกลกว่าเดิม 40% เลยทีเดียวตามสโลแกนของ BWM คือ “55 mpg at 55mph” หรือ วิ่งได้ที่ 55 ไมล์ต่อแกลลอนที่ความเร็ว 55 ไมล์ต่่อชั่วโมง นั่นหมายถึงวิ่งได้ระทางไกลกว่า 300 ไมล์ หรือเกือบ 500 กม ต่อน้ำมันหนึ่งถังเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงเท่าที่ลองขับดูแล้วน่าจะได้ซัก 250 ไมล์หรือราว 400 กม ในสถานการณ์การขับขี่ปกติ
น้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดคือ 33 ปอนด์ จากถังน้ำมัน 13 ปอนด์ ส่วนอีก 20 ปอนด์ก็มาจากกันกระแทกหรือ crash bar ที่ติดอยู่กับเฟรมหน้าใกล้เครื่องยนต์และด้านข้าง โครงยึดกระเป๋า กระบังลมที่ใหญ่ขึ้น จมูกหน้า และกรอบด้านข้างอันใหญ่ และโน่นนิดนั่นหน่อย รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 15 รายการหลักตามที่ทาง BMW ระบุ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในการเปลี่ยนแปลงก็คือผลอันเกิดมาจากถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ด้านหลังของมอเตอร์ไซค์มีขนาดใหญ่ ทาง BMW เลยต้องทำให้ชุดระบายความร้อนใหญ่ขึ้นเพื่อให้ดูสมดุลกับขนาดของรถในส่วนท้ายนั่นเอง
สำหรับเจ้า crash bar หรือกันกระแทกที่บริเวณท้องเครื่องนั้นมีมาให้กับรุ่นมาตรฐาน แต่หากจะนำรถไปขับแบบลุยๆ ก็สามารถติดตั้งระบบกันกระแทกเพิ่มเติมพร้อม skid plate แบบอลูมิเนียมด้วยก็ได้ ซึ่งคันที่นำมาลองขับก็ได้ติดตั้งแบบนี้มา ซึ่งจากที่ไปลุยมาถ้าไม่ได้เจ้ากันกระแทกแบบนี้มาช่วยส่วนที่เป็นใส้กรองน้ำมันที่อยู่ล่างสุดน่าจะพังไปแล้วเนื่องจากเห็นรอยโดนครูดเป็นทางยาว
ผลจากการออกไปลุยถนนวิบากมาพบว่า BMW ก็ทำได้ไม่ผิดหวังสำหรับรถขนาดเท่านี้ ตรงกลางตัวรถจะแคบลงเพื่อจะให้ความรู้สึกว่ารถไม่หนักเกินไป ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ววิ่งผ่านหลุมบ่อได้ดีกว่ารุ่น 19 นิ้ว และสร้างความมั่นใจให้ในทุกมุมเลี้ยว ในขณะที่บนถนนลาดยางด้วยล้อหน้าที่ใหญ่และหนักทำให้การเลี้ยวนั้นหนักขึ้นไปหน่อย แต่ว่ากันตามจริงแล้วใครจะเอารถแบบนี้มาขับบนถนนลาดยางใช่ไหมครับ
สำหรับออปชั่นของ BWM รุ่นปี 2014 จะมี Enduro สำหรับ ABS และ ASC (traction control) ซึ่งเหมือนๆกับรุ่น R1200GS แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ระบบเดียวกันนะครับ โหมดนี้มีประโยชน์มากทีเดียว จากการขับไปบนถนนวิบากพบว่าระบบ Enduro ABS นั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว อย่างเวลาเราต้องการเลี้ยวตามหัวมุมหรือหักศอก แทนที่จะเบรกทั้งสองล้อก่อนเข้าโค้งแล้วต้องคอยระวังแรงสะบัดพร้อมกับกลัวเครื่องจะดับเพราะเบรกหลัง ด้วยระบบนี้ก็ให้เหยียบเบรก ABS แรงๆไปเลยและสิ่งที่ตามมาคืออาการไถลเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มเลี้ยวแล้วเพิ่มเบรกหน้าเข้าไปรถก็จะไถลมากขึ้นแต่ยังควบคุมได้สบายๆ การเข้าโค้งแบบนี้เลยสะดวกสะบายมากกว่าไม่มี ABS เป็นไหนๆ
ระบบควบคุม Traction ก็ทำงานได้เยี่ยมยอดเช่นเดียวกัน เข้าโค้งแบบมันส์สุดๆโดยไม่ต้องกลัวเสียการทรงตัว แต่คนที่ชำนาญในการขับ off-road อาจจะไม่ชอบเจ้าตัวนี้ซักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าพอใจก็คือสำหรับ BMW แล้วละก็เราสามารถเปิดปิดระบบทั้ง ABS และ ASC ได้อย่างอิสระแยกจากกัน
นอกจากที่กล่าวมาแล้วเจ้า BMW 2014 F800 มีของเล่นอีกอย่างคือระบบ ESA หรือ Electronic Suspension Adjustment คือระบบที่ยอมให้มีการปรับแต่งการ Damping ของแฮนด์จับได้ 3 ระดับด้วยกัน คือ นุ่ม กลาง แข็ง ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล
จากคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้รถนี้มีความโดดเด่นที่หาคู่จับได้ยาก บังลมหน้าที่ใหญ่กว่าเดิมแม้ต่ำแหน่งที่จัดวางแทบจะเป็นแนวดิ่ง แต่ก็ทำให้มวลอากาศตรงบริเวณปะทะนั้นน้อยลงไปมากแม้คนขับจะตัวสูงก็ตาม ระบบป้องกันลมปะทะถือว่าสุดยอด แต่ถ้าเจออากาศร้อนๆ ก็อาจจะคิดไปอีกทาง
ส่วนสีสรรของรถก็ถือว่าสวยงามแบบทูโทน แต่หากชอบแบบสีดำทั้งคันก็มีให้เลือกได้ไม่มีคิดเพิ่ม
สิ่งหนึ่งที่นักวิจารณ์และนักขับให้ข้อคอมเม้นท์ก็คือลมร้อนที่มาปะทะขาคนขับ อาจจะเพราะเจ้าเกราะหุ้มตัวระบายความร้อนทำให้ลมไม่ไหลผ่านได้อย่างเต็มที่ ทำให้ความร้อนสะสมไปตกลงที่ขาคนขับแทน และอีกอย่างที่น่าพูดถึงคือเรื่องระบบเกียร์ที่เหมือนจะไม่ตอบสนองในแง่ของช่วงอัตราทดเท่าไหร่
สำหรับภาพรวมแล้วถือว่าน่าประทับใจสำหรับคนชอบรถแนว off-road แต่ก็แน่หละครับ คุณสมบัติต่างๆที่เพิ่มขึ้นมาก็ต้องมีมูลค่าของมันเอง สำหรับราคาเจ้า 2014 BMW F800GS แบบฟูลออพชั่นราคาในอเมริกาอยู่ที่ราว $15,000 หรือราวๆ 450,000 ยาทไทย ซึ่งราคาก็ไม่ห่างจากเจ้า R1200GS ซักเท่าไหร่เลย ($15,800) สำหรับรุ่นพื้นฐานราคาลงมาหน่อยอยู่ที่ $13,550 ซึ่งราคาก็ยังสูงกว่ารุ่นปี 2013 ที่ตั้งราคาไว้ที่ $12,500 แต่แน่หละครับกับสิ่งที่เพิ่มขึ้นมากลับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สำหรับราคาขายในบ้านเรายังไม่เห็นมีรุ่น Adventure มีแต่รุ่นธรรมดา F800GS อยู่ที่ 785,000 บาท
ถ้าเจ้า F800GS Adventure เข้ามาให้ลองกันในไทยเมื่อไหร่หละก็ อย่าลืมไปทดลองกันให้ได้นะครับ
ads2