หลักการพื้นฐานของการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่ม
การขับขี่มอเตอร์ไซค์กันไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆนั้นเป็นส่ิงที่นักขี่มอเตอร์ไซค์ทุกคนชื่นชอบมาก พบเห็นได้จากการมีกลุ่มก้วนในเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วนัดแนะไปขี่มอไซค์ท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่ดีและไม่ดี การขับขี่เป็นกลุ่มก้อนย่อมสนุกสนานลืมความร้อนรุ่มของลมปะทะ ดีกว่าขับคนเดียวเป็นไหนๆ
นอกจากนี้คงไม่มีอะไรที่จดมันส์ไปกว่าการที่กลางวันตะลุยสนามแข่งขัน ตกเย็นก็ไปก้งเหล้ากัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับการขับขี่เป็นกลุ่มคือ ขับรถเบียดชนกัน ไม่ว่าจะเหตุผลกลใดก็ตาม ดังนั้นจึงมีวิธีการที่ถูกและผิดในการขับขี่มอไซค์ไปด้วยกัน
จะทำอย่างไรที่จะขับขี่ไปกับเพื่อนฝูงอย่างนิ่มนวล สนุกสนาน และปลอดภัย เพราะสำหรับหลายๆคนแล้ว การขับขี่เป็นกลุ่มถือเป็นการพบปะสังสรรค์กันอีกกรณีหนึ่ง โดยเฉพาะการขับขี่ไปกับเพื่อนสนิท ปกติแล้วการขับขี่เป็นกลุ่มไม่มีอะไรน่ากังวลเพราะต่างก็ขับกันไปอย่างมีทิศทางของตัวเอง แต่ปัญหาคือเมื่อมีคนขี่มอไซค์มาคนเดียวแล้วต้องแซงหรือถูกแซงด้วยกลุ่มมอเตอร์ไซค์
ถ้าทุกคนขับด้วยความเร็วเท่ากัน จดจ่ออยู่กับสิ่งเดียวกัน ไปทางเดียวกัน ให้ถึงเป้าหมายเดียวกันในเวลาใกล้เคียงกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากมีใครทำอะไรต่างจากคนอื่น นั่นแหละปัญหาหละ
นักอุบัติเหตุวิทยากล่าวว่าการขี่เป็นกลุ่มถือเป็นปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุอย่างหนึ่งเลยทีเดียว แค่สองสามคันขี่ไปด้วยกัน คุยกันไป แซงคนอื่นบ้าง คนอื่นแซงบ้างก็เริ่มมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายซะทีเดียว ถ้าคุณกำลังจะออกไปขี่มอไซค์เป็นกลุ่ม มีสองสามอย่างที่คุณจะต้องทำเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัย
1.สร้างกฏ
ปัญหาของการขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มคือบางครั้งต่างคนต่างก็มีประสบการณ์ที่ไม่เท่ากัน หลายๆ ครั้งเหมือนเป็นการขับขี่กับคนแปลกหน้า ดังนั้นเราควรจะกำหนดกฏเกณฑ์กันก่อนที่จุดนัดพบตามปั้ม เช่น กำหนดใครไปหัวหน้าทีม หรือว่าใครเร็วกว่าอยู่ข้างหน้าเป็นหัวหน้าทีมเป็นต้น
การขับตามๆกันไปบนถนน อาจจะทำให้เกิดการบดบังทัศนวิสัย ปกติแล้วเรามักจะเล็งไฟท้ายของคันหน้า การขับไกล้ๆกันเกินไป หากคันหน้าเบรกคันหลังก็อาจจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ดังนั้นหากถึงตอนเข้าโค้ง ก็ควรจะรักษาระยะห่าง พร้อมรักษาทัศนะวิสัยของตัวเองไว้
การไล่กวดไม่ใช่เรื่องที่ดี หากคันหน้าเร็วกว่าก็ปล่อยเขาไป การไล่กวดนั้นเกิดความเครียดและทำให้ความปลอดภัยในการขับขี่ลดลง
การขับขี่แบบกลุ่ม ไม่เหมือนกับการขี่ปกติ เราไม่สามารถทำความเร็วได้เหมือนปกติแล้วคาดว่าจะยังอยู่เป็นกลุ่ม ดังนั้นต้องรักษาความเร็วของตัวเองให้เหมาะสมเพื่อที่จะไปกันได้สบายๆ ทั้งกลุ่ม
2.มุ่งหน้าไปไหน
ถ้าเป้าหมายของการขับขี่คือการที่ให้ทั้งกลุ่มไปยังจุดๆ หนึ่งด้วยกันแล้วละก็ การเดินทางจะเป็นไปได้ดีหากใครสักคนรู้จักทางไป ก็ให้เขานำทาง ทุกคนก็ขับตาม แต่ปัญหาคือหากคนหลังๆ ขับตามมาไม่ทันหละ ทำให้ทุกคนถูกบังคับให้ขับเร็วขึ้น โดยเฉพาะยิ่งคันหลังๆ ก็ต้องยิ่งขับเร็วขึ้นเพื่อให้เห็นคันข้างหน้า
คนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อเริ่มทิ้งห่างก็จะพยายามบิดให้เร็วขึ้น บางคนบิดไม่ลืมหูลืมตาเพื่อตามคันหน้าให้ทัน คนที่ประสบการณ์น้อยก็จะเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตได้ เช่นเร่งความเร็วกวดเพื่อนๆ จนซัดโค้งแบบว่าหลุดโค้งจมหายไปกับข้างทางก็มี
ดังนั้นเราจะต้องบริหารจัดการให้ดีก่อนที่จะเริ่มเดินทาง แก้ปัญหาง่ายๆด้วยการบอกทุกคนถึงจุดหมายปลายทาง ถ้าความสามารถในแต่ละคนไม่เท่ากันก็แบ่งเป็นกลุ่มๆตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มมีผู้นำกลุ่มย่อยอีกทีนึง
ถ้าวิธีการนี้ดูเหมือนจะยุ่งยาก อีกวิธีง่ายๆคือให้ทุกคนขับขี่ในลักษณะที่เห็นคนข้างหลังในกระจกมองหลัง ถ้าทิ้งห่างก็ให้ชลอจนกว่าจะเห็นคันหลัง ซึ่งจะใช้งานได้ดีในการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มแต่ทุกคนต้องตกลงกันก่อน เพราะบางคนอาจจะถึงขั้นต้องหยุดเลยที่เดียวเพื่อให้คันหลังตามมาทัน
เมื่อถึงทางแยกที่สับสน คันที่นำหน้าเลี้ยวไปแล้วอาจจะต้องหยุด จนกว่าคันหลังจะมองเห็นว่าเราเลี้ยวไปทางไหน ทุกคนทำเหมือนๆ กัน
กุญแจสำคัญคือผู้นำควรขับขี่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตัวเองเคยขับ ต้องปล่อยให้คนอื่นแซงแล้วค่อยแซงกลับบ้างเป็นระยะๆ
3. การแซง
การแซงมีสองกรณี กรณีแรกคือแซงรถคันอื่นๆ อีกกรณีคือแซงกันเองภายในกลุ่ม
การแซงรถคันอื่นนั้นมีความเสี่ยงอยู่ในตัวอยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแซงรถยนต์ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือการที่ มอเตอร์ไซค์แซงรถยนต์ ขณะที่รถยนต์กำลังเลี้ยวขวา พอมีมอเตอร์ไซค์มาอีก 20 คันตามหลัง เรื่องการแซงแบบง่ายๆ ก็จะกลายเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว
การแซงรถยนต์หลายๆ คันไปพร้อมๆ กันเป็นสิ่งที่เสียงอย่างยิ่ง การขับตามหลังคันหน้าไปหากเขาหักหลบ คุณจะหลบทันหรือไม่ ดีไม่ดีคุณอาจจะต้องทำให้รถยนต์คันหลังคุณต้องเบรกกระทันหัน ซึ่งก็ไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของคนขี่มอไซค์โดยรวมแน่นอน
พยายามรักษาระยะอย่างน้อยรถยนต์ซัก 1 คันข้างหน้า การแซงด้วยกลุ่มใหญ่ๆ คันหลังๆ จะอยู่ในสภาวะกดดันทำให้เกิดกรณีแซงทุกอย่างที่ขวางหน้า และต้องไล่กวดด้วยความเร็วเพิ่มมากกว่าปกติ
การแซงภายในกลุ่มกันเองนั้นคงไม่มีอะไรน่าห่วง แต่หากว่าอีกคันกำลังเข้าโค้องหรือกำลังแซงรถยนต์ละก็ ปัญหาอาจจะตาม ดังนั้นก่อนแซงควรจะประเมินว่าคันหน้ากำลังจะอยู่ในภาวะคับขันหรือไม่
4. การโชว์ออฟ
ปัญหามักจะเกิดเมื่อคุณเข้าร่วมกลุ่มที่มีคนชอบโชว์ โดยเฉพาะเรื่องความเร็ว บางคนเลยทำอะไรเสี่ยงๆเช่น แทรงในที่คับขัน หรือขับพุ่งตรงเข้ามาในขณะที่คนอื่นเบรกรอไฟแดงอยู่
ถ้าเจอคนประเภทนี้ก็พยายามอยู่ห่างๆเข้าไว้ ถ้าเขาจะแซงก็ปล่อยเขาไป ถ้าเขาอยู่หลังก็ทิ้งห่างแต่ไม่ถึงขั้นว่าแข่งกับเขา เตือนเขาเบาๆ เวลาติดไฟแดง แต่อย่าถึงขั้นทำให้เขาเสียหน้า
ถ้าคุณเป็นคนชอบโชว์ซะเอง คิดดีๆเสียก่อน คุณคิดเหรอว่าเขาชอบขี่แล้วดูคุณโชว์ จำไว้เสมอว่าไม่ว่าคุณจะเก่งกาจแค่ไหน ก็จะมีคนเก่งกว่าคุณเสมอ ไม่ต้องประกาศให้ชาวโลกรู้หรอกครับ ถ้าคุณเก่งจริงเขาจะซูฮกคุณเอง
5. ทีมสปิริต
เหนือสิ่งอื่นใด การขับขี่เป็นกลุ่มนั้นท้าทายคนอื่นๆบนถนนมาก การขับขี่เป็นกลุ่มแล้วแสดงความแว้นซ์ออกมานั้น เป็นการทำชื่อเสียงที่ไม่ดีให้กับวงการคนขับมอเตอร์ไซค์
การขี่เป็นกลุ่มจึงควรระมัดระวังในการไม่ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่ดี ท่านจะพบเห็นนะครับว่า การขับขี่มอไซค์ของคนบางกลุ่มนั้นสุภาพนุ่มนวล เป็นที่ชื่นชมของคนใช้ท้องถนนทั่วไป มีการโบกมือส่งสัญญาณให้กับผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ เมื่อต้องการแซงหรือหาจังหวะหลบ
การขับขี่ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ก็ควรใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะคันที่มีเสียงดัง อย่าลืมให้ความสำคัญกับไฟหน้า ควรปรับแต่งไม่ให้แยงตาคนที่สวนมา
ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำในการขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มก้อนนะครับ บทความนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ ขอเพียงเครดิตให้กับทาง mocyclover.com ด้วยก็พอครับ
ads2