รีวิวการขับขี่มอไซค์ 2014 Suzuki Burgman 200
รีวิวการขับขี่มอไซค์ 2014 Suzuki Burgman 200
กับงานเปิดตัวให้ทดสอบมอเตอร์ไซค์ Burgman 200 คันนี้ ทางเจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรของ Suzuki บอกกับเราว่า Burgman 200 นั้นวางขายในยุโรปมานานหลายปีแล้ว และรุ่นล่าสุดที่มีการอัพเดทกันในปี 2007 ซึ่งในยุโรปเขาจะเรียกกันว่า Super Scooter หรือ Maxi Scooter หรือ สกู๊ตเตอร์คันใหญ่ ที่จะมีพลังมากว่า น้ำหนักมากกว่า และบังลมที่ใหญ่กว่า และนอนว่าราคาย่อมแพงกว่าสกู๊ตเตอร์ที่พบเห็นในเมืองทั่วๆไป
มอเตอร์ไซค์ Burgman 200 นั้นใช้เฟรมแบบท่อเหล็กธรรมดาที่ห่อหุ้มด้วยหุ่นที่ใหม่และเพรียวกว่าเดิม โดยระยะระหว่างล้อจะเป็น 57.7 นิ้ว ล้อหน้ามีขนาด 13 นิ้วและล้อหลังที่ 12 นิ้ว ตะเกียบหน้าขนาด 33 มม นั้นถูกยึดให้อยู่ในตำแหน่งของมันด้วย triple clamp ในขณะที่กันสะเทือนหลังจะเป็นโชคคู่แบบปรับค่าได้
จานเบรกมาพร้อมกับ ABS โดยล้อหน้าจะเป็นแบบจานเดี่ยว ถังน้ำมันนั้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงใต้ที่วางเท้าเมื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง น้ำหนักโดยรวมก็จะอยู่ที่ 359 ปอนด์
ทาง Suzuki ให้แรงม้ากับ Burgman 200 ที่ 18 แรงม้า ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียวกับมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆคันนี้ พร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและระบบหัวฉีดที่ซับซ้อน ทาง Suzuki บอกกับพวกเราว่าเกียร์ CVT นั้นมีการออกแบบโดยใช้สปริงแบบคงที่เพื่อที่จะลดความไม่สมดุลย์ระหว่างการทำงานอันจะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนลงไปได้มาก มอเตอร์ไซค์คันนี้อาจจะดูสั่นๆตอนหยุดนิ่ง แต่เมื่อบิดคันเร่งแล้วมันจะวิ่งได้ราบเรียบ
เข้าโค้งได้ดีกว่าที่คาด
วันรุ่งขึ้นถือเป็นวันที่เราจะได้ลองทดสอบขับรถกัน จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ตอนที่เขากำลังบรรยายสรุปข้อมูลด้านเทคนิคให้ฟัง แต่เมื่อผมได้ลองขี่มันแล้ว ความคิดผมก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ราบรื่นเหมือนที่เคยพบเจอกับมอเตอร์ไซค์คันอื่นๆ มันดูเหมือนจะเทอะทะ และดูเลือดเย็นไปหน่อย และสั่นเล็กน้อยตอนรถอยู่นิ่ง
การวอร์มอัพทำได้อย่างรวดเร็ว และผมก็เริ่มขับเล่นไปมาในลานจอด ทดลองเลี้ยวกลับรถและพยายามทำความคุ้นเคยกับเบรก ABS ผมสังเกตได้ว่าเบาะนั่งนั้ำต่ำดีและขับขี่ได้ง่ายที่ความเร็วต่ำ ที่วางเท้่ามีส่วนเว้าพอเหมาะที่จะทำให้ผมเอาเท้าลงแตะพื้นได้สบายๆ และรู้สึกได้ว่ามันเหมือนจะบางกว่าเดิม
สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ แต่พอเริ่มบิดคันเร่งไปตามถนนตรงๆแล้วละก็ทำให้ผมเริ่มคิดว่ามอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์คันนี้มีอะไรที่แตกต่างไปกว่าที่คิด ด้วยขนาดของมันแล้วถือว่าน่าทึ่ง ขับได้นิ่มลื่นไหลและนิ่ง เกียร์ CVT นั้นถูกเลือกด้วยจังหวะที่เหมาะสม แซงรถคันต่างๆที่ความเร็วต่ำกว่า 100 ได้อย่างไม่มีปัญหา และระบบหัวฉีดนั้นก็เหมาะสมกันดีกับการใช้งานมอเตอร์ไซค์คันนี้
พอเจอถนนคดเคี้ยวมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็พร้อมที่จะร้องเพลงลูกทุ่งทันที ระบบโช้คทำงานได้ประสานกันดีกับส่วนท้ายที่หนักถือว่าทาง Suzuki เลืิอกอัตราสปริงได้ดี ตะเกียบหน้าดูดซับแรงกระแทกและหลุมบ่อได้เป็นอย่างดี ตัวถังรถให้ความรู้สึกแน่นหนึบ แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้ผมมากที่สุดก็คงเป็นความสามารถในการเข้าโค้งของมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆคันนี้ ผมว่านักบิดที่ชำนาญสามารถขับเอาข้อศอกครูดถนนได้เลย และแทบจะไม่เห็นชิ้นส่วนใดของรถจะครูดไปกับถนน จะว่าไปแล้วเราก็ไม่ถึงกับวิ่งช้าเลยนะ
จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ค่อยอยากจะลองอะไรน่าหวาดเสียวแบบนั้น แต่บอกได้เลยว่าจะเข้าโค้งแรงๆแล้วดูว่าชิ้นส่วนไหนของรถครูดไปกับถนนคงจะยาก หากคุณห่วงมอไซค์คันนี้ล้อเล็กไปหน่อยแล้วละก็ขอบอกเลยว่าไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะมันทรงตัวได้ดีมากที่ความเร็วสูงและแม้จะเจอหลุมบ่อตอนเข้าโค้งก็ไม่ถึงกับเสียศูนย์ ผมคิดว่าคุณคงไม่บอกว่าล้อ 13 นิ้วนั้นเล็กไปหรอกนะครับ
ทำความเร็วได้ดี
การขับขี่บนทางหลวงที่ความเร็วสูงก็น่าประทับใจเช่นกัน ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว นิ่งและทรงตัวได้ดีที่ความเร็วสูง เรื่องการเร่งทำความเร็วก็มั่นใจได้ ความเร็วสูงสุดนั้นแตะ 135 กม/ชม ตามตัวเลขที่โชว์บนหน้าปัทว์ หักลบค่าความเป็นจริงออกซัก 7% แล้วจะเหลือราวๆ 126 กม/ชม การบังลมก็ทำได้ดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
สิ่งที่ผมคิดว่าจะต้องบ่นเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ Suzuki Burgman 200 คันนี้ก็คือ ระหว่างการทดสอบการขับขี่ระยะทางยาวๆก็คงเป็นเรื่องเบาะนั่ง มันต่ำและสบายดีในระดับหนึ่ง แต่ท่านั่งมันเหมือนจะประหลาดๆไปนิด สำหรับผมแล้วหัวเข่าเหมือนจะอยู่สูงกว่าก้น สำหรับคนตัวใหญ่แล้วถือว่ามีพื้นที่ให้วางเท้าอย่างเพียงพอ แต่สำหรับผมแล้วเหมือนว่าจะเจ็บหลังนิดๆพอถึงช่วงท้ายๆของการขับขี่
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและระยะทางที่มันวิ่งไปได้ต่อน้ำมันหนึ่งถังอาจจะเป็นสิ่งที่คุณต้องคิดถึงขณะขับมอเตอร์ไซค์คันนี้ ถ้าคุณใช้ความนุ่มนวลในการบิดคันเร่ง บนแผงหน้าปัทว์จะโชว์คำว่า ECO ด้วยไฟสีเขียว และคุณสามารถอ่านอัตราสิ้นเปลืองได้ทันที โดยค่าตัวเลขเป็น ไมล์ต่อแกลลอนและอัพเดททุก 5 วินาที เราเห็นตัวเลขที่ราวๆ 60 ไมล์ต่อแกลลอนสำหรับการขับขี่ของเรา สำหรับคนที่ขับแบบอนุรักษ์นิยมหน่อยๆก็คงได้เห็นตัวเลขที่ 70 ขึ้นไป ถือว่าไม่เลวสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่และคล่องตัวขนาดนี้
หลังทดสอบการขับขี่เสร็จผมยังเหลือน้ำมันอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของถังที่จุประมาณ 2.8 แกลลอน นั่นหมายถึงว่าตัวเลขที่ออกมาน่าจะวิ่งได้ราวๆ 250 – 300 กม ต่อถัง ซึ่งได้ๆกับมอเตอร์ไซค์ Goldwing ที่ผมเคยขี่ทดสอบ ดังนั้นถ้าจะเอา Burgman ออกทัวร์ผมก็ว่าน่าจะเป็นไปได้
การขับขี่ในเมืองนั้น Burgman คันนี้ก็ถือว่าน้ำหนักเบาและขับขี่แบบสบายๆ น้ำหนักรถนั้นถือว่าดี ดังนั้นการขับขี่ความเร็วต่ำในเมืองก็ทำให้บังคับเลี้ยวได้ง่าย ระบบกันสะเทือนนั้นทั้งแข็งพอที่จะขับแบบสปอร์ทแล้วก็ยังเหมาะกับทุกสภาพถนนอีกด้วย ระบบเบรกก็ทำงานได้ดี แม้เบรกหน้าเหมือนจะมีพลังน้อยไปหน่อยก็ตาม แต่หากใช้มันควบคู่กันไแล้วคุณจะพบว่ามันก็ให้พลังหยุดได้ดี และเบรก ABS ก็ช่วยเพ่ิมความมั่นใจให้อีกชั้นหนึ่ง มันอาจจะไม่ถึงกับช่วยให้เบรกได้สั้นลงแต่จะช่วยไม่ให้ล้อล้อคหรือไถลหกล้อมได้ มันเป็นสิ่งที่คุณควรจะพิจารณาไว้หากต้องขับขี่มอเตอร์ไซค์ในทุกสภาวะภูมิอากาศ
ที่เก็บสัมภาระเหลือเฟือ
เมื่อไปถึงเป้าหมายแล้ว มอเตอร์ไซค์ Suzuki Burgman คันนี้ได้แสดงความหรูหราให้เห็น นอกจากแผงหน้าปัทว์ที่แสดงข้อมูลครบครันแล้ว ยังมีที่ชาร์ชมือถือ เปิดเบาะสั่งด้วยรีโมท ช่องเก็บสัมภาระที่มีไฟส่อง ช่องเก็บถุงมือหลายช่อง พื้นที่ใต้เบาะที่สามารถเก็บหมวกกันน้อคแบบเต็มใบได้ถึงสองใบแล้วยังมีที่เหลือให้ใส่ถุงช้อปปิ้งได้อีก
มอเตอร์ไซค์ Suzuki Burgman 200 ถือเป็นอีกคันหนึ่งที่น่าลอง แม้ Honda PCX150 จะราคาถูกกว่าแต่มันก็ไม่มี ABS ที่เก็บสัมภาระเหลือเฟือ และยังวิ่งได้เร็ว ตัวทีจะมาเทียบได้ในแง่ของราคาในอเมริกาแล้วละก็คงเป็น Kymco People GT300 หรือ Honda Forza หรือ Vespa GTS300
การเข้ามาเล่นในตลาด scooter ขนาดกลางของ Suzuki ครั้งนี้ถือว่าน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับคนที่มองหาความเป็นสปอร์ทจากมอเตอร์ไซค์แนว scooter มากเลยทีเดียว
ที่มา blog.motorcycle-usa.com
ads2