Tweet

2015 KTM RC390 รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์

ads1

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ทาง KTM ก็ได้มีมอเตอร์ไซค์ออกมาวางจำหน่ายให้กับนักบิดทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ทั้งจำนวนรถมอเตอร์ไซค์และยอดขายนั้นเกินกว่า 50% ของประเภทรถทุกชนิดที่ KTM ได้ทำออกมาแล้ว

เดือนมิถุนายน 2014 นั้นถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดสำหรับประวัติศาสตร์ของ KTM ไปแล้วเมื่อสามารถทำยอดขายได้ถึง 70,500 คันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา 30,000 กว่าคันที่ขายได้นั้นผลิตในอินเดียโดยบริษัท Bajaj ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายเล็กของ KTM

มอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆที่มีอออกมาจาก KTM ก็ได้แก่ 125 Duke, RC125, 200 Duke, RC200 และ 390 Duke สำหรับในปี 2015 นั้น 390 Duke จะมีวางขายในอเมริกาพร้อมๆกับรุ่นสปอร์ทสูบเดี่ยวที่ผลิตโดย Bajaj นั่นก็คือ 2015 KTM RC390

ปีที่แล้วทาง KTM ได้เปิดตัว KTM RC390 Cub ออกมาที่งาน German Gand Prix ที่เมือง Sachsenring จากนั้นไม่นานก็มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะมีรุ่น street ออกมาด้วย แต่คำถามก็คือว่าจะมีวางขายในอเมริกาด้วยหรือไม่ ต่อมาอีกไม่กี่เดือนทาง KTM ก็ประกาศว่าจะมีรุ่น RC390 แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ชัดเจนนักว่านักบิดอเมริกาจะได้มีโอกาศเล่นรถคันนี้หรือไม่

แต่จากความสำเร็จของ Honda กับตัว CBR250R และ CBR300R อีกทั้ง Kawasaki Ninja 300 เลยทำให้มีตลาดสำหรับรุ่น RC390 ได้ลงไปชิงส่วนแบ่งด้วย เราเองก็รู้สึกยินดีมากที่ทาง KTM ได้เชิญไปในงานเปิดตัวสำหรับสื่อมวลชนสำหรับรถมอไซค์รุ่นปี 2015 คันนี้ เพราะนั่นหมายถึงว่า RC390 น่าจะมีการวางจำหน่ายในอเมริกาด้วย

มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นคือ Duke 390 และ RC390 จะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ แต่ราคานั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผย และตามที่คาดก็คือราคา RC จะแพงกว่าคู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นขนาด 300cc แน่นอน และแหล่งข่าวจากทาง KTM ระบุว่าราคาน่าจะอยู่แถว $6,000 กลางๆ หรือราวๆ 200,000 กว่าบาทในอเมริกา แต่ก็มีอะไรๆที่น่าสนใจพอตัวสำหรับการตั้งราคาในระดับนี้

สไตล์ของมอเตอร์ไซค์คันนี้ทำให้คันอื่นๆดูเป็นของเก่าไปเลย เพราะเส้นสายที่คมกริบอีกทั้งเฟรมและล้อสีส้มทำให้มอไซค์คันนี้ดูเด่นขึ้นมาก เบรก ABS ที่มาจาก Brembo และตะเกียบหัวกลับของ WP นั้นทำให้สเป็คดูเหมือนจะดีจนทำให้เลิกมองเรื่องราคาไปเลย

ตัวเครื่องยนต์ก็เป็นเครื่องสูบเดี่ยวขนาด 375cc พร้อมแรงม้าขนาด 44 แรงม้าที่ 9,500 รอบ พร้อมระบบสี่วาล์วที่มีแคมชาฟท์แบบคู่ พร้อมหัวสูบขนาด 89มม เคลื่นที่ด้วยระยะทาง 60 มม ในกระบอกสูบที่เคลือบด้วยสาร Nikasil ด้วยน้ำหนักทั้งหมดที่เบาทำให้ RC390 ทำอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักได้ดีที่สุดในกลุ่มนี้ น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 324 ปอนด์

เฟรมถักของ RC390 นั้นจะเหมือนๆกับ 390 Duke แต่ซับเฟรมนั้นจะต่างกันและจะมีมุมของล้อหน้าที่ชันกว่าเดิม 1.5 องศาโดยจะอยู่ที่ 66.5 องศา ระยะระหว่างล้อของ RC390 ที่ 1340 มม นั้นจะสั้นกว่าของ Duke อีกด้วย ผลคือทำให้ท้องรถนั้นสูงขึ้น ทำให้เอียงรถได้มากขึ้นเวลาเลี้ยวและทำให้เข้าโค้งได้เร็วขึ้น ตะเกียบหน้าขนาด 43มม ของ WP นั้นมีขนาดเดียวกับของ KTM RC8 superbike แต่ก็จะปรับค่าไม่ได้ ส่วนล้อหลังนั้นสวิงอาร๋มจะติดอยู่กับโช้ค WP แบบโมโนโช้คพร้อมปรับค่าพรีโหลดได้เท่านั้น การกระจายน้ำหนักหน้าหลังจะอยู่ที่ 49/51%

การขับขี่ทั่วไป

การได้นั่งลงบนมอเตอร์ไซค์ RC390 นั้นทำให้รู้สึกได้ถึงบริเวณแผงหน้าที่ใหญ่กว่าที่คาด ทำให้คนขับตัวใหญ่ก็ขับได้สบาย แต่คนตัวเตี้ยอาจจะพบว่าเบาะสูง 32.2 นิ้วนั้นอาจจะสูงไปหน่อย แต่เบาะก็บางพอที่จะให้ความรู้สึกว่ามันเตี้ยกว่าความเป็นจริง

เราใช้เวลาช่วงครึ่งวันแรกในการขับขี่ไปยังเส้นทางชนบทของอิตาลีนอกเมือง Modena และ Maranello ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของรถ supercar อย่าง Ferrari, Mamborghini และ Maserati และห่างจากเมือง Bologna ของ KTM อยู่ไม่ไกล ท่านั่งขับนั้นดุดันพอที่จะเข้าโค้งได้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับโหดมากจนทำให้เข่าหรือข้อมือถึงกับเจ็บปวดมากนัก เบาะนั่งนั้นแน่นดีแต่จะเป็นสิ่งแรกที่คนขับระยะทางไกลๆต้องบ่นกัน

เมื่อมาขับบนทางตรง มอไซค์ RC390 สูบเดี่ยวคันนี้ให้แรงบิดที่เด็ดขาดกว่ารถที่มีช่วงชักสั้นกว่านี้ เมื่อรอบเครื่องสูงขึ้นกำลังเครื่องยนต์ก็เริ่มดีขึ้นไปเรื่อยๆจนแตะที่ระดับ 10,000 รอบต่อนาที หากบิดคันเร่งไว้เครื่องก็พร้อมปล่อยพลังตลอดเวลา แต่หากคนเบาเครื่องลงก็ไม่ถึงกับต้องถอดใจเพราะ RC390 คันนี้ยังสามารถออกตัวได้แม้รอบจะต่ำที่ 3,000 รอบต่อนาทีก็ตาม

การดึงคลัชก็ไม่ถึงกับว่าเบา ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงได้ดีกับสายคลัชและก้านคลัช การเปลี่ยนเกียร์ทำได้แม่นยำแต่การลดเกียร์ลงจะให้ความรู้สึกตอบสนองน้อยไปหน่อย ทุกอย่างดูดีไปหมด ระยะระหว่างเกียร์ก็สมบูรณ์แบบสำหรับพลังรถอย่าง RC390 ทำให้สามารถวิ่งได้ความเร็วสูงสุดแตะ 176 กม/ชม ตอนที่เราวิ่งทดสอบนั้นทำได้สูงสุดที่ 165 กม/ชม บนทางหลวงด้วยการเร่งบิดเพียงช่วงสั้นๆ

พลังเบรกนั้นจากคาลิบเปอร์หน้าและจานเบรกขนาด 300 มม นั้นให้ความรู้สึกนุ่มนวลตอนเบรกจับครั้งแรก ซึ่งเหมาะสำหรับนักบิดหน้าใหม่มาก เมื่อคุณกำเบรกมากขึ้นพลังเบรกก็พร้อมที่จะมาให้คุณได้เล่นอย่างเหลือเฟือ ABS ไม่ถึงกับเข้ามายุ่มย่ามนักจนกว่าจะกำเบรกแรงๆ หรือตอนที่การยึดเกาะถนนไม่ดีเท่านั้น การปิดระบบ ABS นั้นสามารถทำได้โดยเพียงแค่กดปุ่มบนแผงหน้าปัทว์ค้างไว้ชั่วครู่ เบรกหลังก็เป็นของ ByBre จาก Brembo เช่นกันและทำงานได้ดี และถือว่าดีกว่ามอไซค์หลายๆคันที่ราคาแพงกว่านี้ 2 ถึง 3 เท่า

ระบบกันสะเทือนก็ทำงานได้ดีไม่มีอะไรต้องให้บ่น รองรับแรงกระแทกได้อย่างดี ส่วนท้ายของรถอาจจะรู้สึกนิ่มกว่าด้านหน้าแต่จะว่าไปแล้วอาจจะเพราะผมตัวใหญ่กว่าปกติซึ่งก็คงไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลักของมอไซค์คันนี้ อย่างไรก็ตามการเข้าโค้งของ RC390 นั้นทรงตัวได้ดีและเบาจนสามารถปรับเส้นทางระหว่างกลางโค้งได้ ทุกอย่างโดยร<วมนั้นเกินบรรยายดูเหมือนมันพร้อมจะพาคุณไปทุกทีๆอยากจะไป

บนสนามแข่ง

สมัยนี้รถซีซีไม่มากเริ่มพบเห็นได้ทั่วไปบนสนามแข่ง พร้อมกับมีการฝึกอบรมการขับขี่จากค่ายต่างๆ สำหรับมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มนี้ ทำให้นักบิดหน้าใหม่ๆ ได้มีโอกาศสั่งสมประสบการณ์และไต่ไปยังคันที่ใหญ่ขึ้น ทำให้มองเห็นได้ว่า RC390 นั้นมีตลาดของมันอยู่ เราเลยมองว่าการขับขี่มอไซค์คันนี้บนสนามแข่งคงไม่ทำให้เราผิดหวังและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

บนสนามแข่ง RC390 นั้นนุ่มนวลและระบบกันสะเทือนก็ทำงานได้ดีในการรองรับการขับขี่ที่ดุดันตะเกียบหน้าเข้าโค้งได้ดี แม้ว่ามันจะยุบตัวเกือบสุดตอนเราเตะเบรกแรงๆ เข้าโค้งแรกผมก็เอียงตัวจนเกือบราบไปกับถนนแล้ว หลังจากปรับค่าพรีโหลดโชคหลังไปสามคล้ิก มันทำให้ผมสามารถเอียงรถได้มากขึ้น การควบคุมรถก็เหมือนจะทำได้แม่นยำขึ้น จนผมสามารถครูดที่วางเท้าไปกับถนนได้ในทุกโค้ง ไม่ใช่เรื่องของการติเตียนหรอกนะครับ แต่เป็นเรื่องของการแสดงให้เห็นว่าผมเอียงตัวได้มากสุดแค่ไหน และรู้สึกประทับใจกับมันมาก

การเข้าโค้งแคบๆ นั้นถือว่าเป็นเรื่องยากที่คุณจะทำได้กับมอไซค์ sportbike ทั่วไป แต่ RC390 คันนี้ก็ทำได้โดยไม่ติดขัด การเข้าโค้งที่ความเร็วสูง 390 ทรงตัวได้ดี ขับได้ง่ายๆสบายๆ

เครื่องสูบเดี่ยวคันนี้ให้แรงบิดที่ออกจากโค้งได้อย่างไม่อายใคร แรงบิดช่วงกลางนั้นแน่นตามมาด้วยช่วงปลายที่ยอมรับได้ บางครั้งเห็นได้ว่า RC390 ทำความเร็วได้แตะ 160 กม/ชม ได้แม้จะเป็นทางตรงสั้นๆ

พอถึงช่วงต้องแตะเบรกก็พบว่า RC390 นี้แม้จะไม่ใช่ Brembo ของจริง แต่โดยทั่วไปก็ให้พลังเบรกที่ดียกเว้นบางครั้งที่เบรกหน้าเหมือนจะให้แรงเบรกไม่พอ แต่ก็เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่คุณเบรกมันอย่างหนักหน่วงเท่านั้น สำหรับนักบิดทั่วไปแล้วกว่า 90% คงไม่ห่วงกับประเด็นนี้

ถือได้ว่าทาง 2015 RC390 นั้นเป็นตัวเด่นของ KTM แม้ว่าราคาอาจจะแพงกว่าคู่แข่ง แต่หน้าตาที่ดุดัน ประสิทธิภาพที่สุดยอดทั้งในสนามแข่งและถนนทั่วไปก็ถือว่าคุ้มกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม