2013 BMW R1200GS – Yamaha Super Tenere เทียบรถ Adventure
Credit: cycleworld.com
เปรียบเทียบมอเตอร์ไซค์ Adventure 2013 BMW R1200GS กับ Yamaha Super Tenere
ย้อนกลับยุคสี่สิบปีที่แล้ว หลังจากที่ทาง Yahama เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ DT1 และต่อมาทาง BMW เปิดตัว R80GS ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกระแสมอเตอร์ไซคแนว Adventure ในยุคนั้น และยังคงเป็นอย่างนั้นเรื่อยมา ด้วยมอเตอร์ไซค์ที่คล่องตัวที่สุด อันเป็นลูกผสมระหว่างมอเตอรไซค์แนววิบากกับมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์เร่อแบบหรู พร้อมแฝงไปด้วยความเป็นสปอร์ททั่วทั้งคัน
สำหรับ BMW R1200GS แล้วนั้นถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ใหม่หมดจดแต่ก็ยังคงความขลังของมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าก่อนหน้าไว้บ้างอยู่ ขณะที่ Yamaha Tenere นั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดโฉมปี 2012 เป็นต้นมา แต่ใครจะครองใจนักบิดมากกว่านั้นมักจะขึ้นอยู่กับว่าใครเปิดตัวใหม่ล่าสุดในตอนนั้น
แต่การจะหาว่าใครโดดเด่นกว่าใครในแง่การขับขี่แล้ว ผมและภรรยาก็ได้ขับมอเตอร์ไซค์ทั้งคู่ออกผจญภัยหลายวันด้วยกัน วิ่งไปตามถนนคดเคี้ยว โดยไม่วางแผนล่วงหน้า หรือมีจุดมุ่งหมายใดๆ อีกทั้งหากวิ่งไปสุดปลายถนนลาดยางแล้วจะเจอกับอะไรก็ไม่อาจคาดเดาได้ เราแค่ขับไปเรื่อยๆแล้วลุ้นว่าโค้งหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง และแน่นอนว่ามีเวลามากมายที่จะทดสอบมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคันนี้
หากแม้ว่าเราเปิดดูสเป็กของทั้งสองคันแล้วจะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่หากเราไปลองนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ทั้งสองในโชว์รูมแล้วละก็เหมือนจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน เบาะนั่งของทั้งสองคันนั้นปรับระดับสูงต่ำได้ Yamaha เหมือนจะกว้างกว่าเล็กน้อยและรู้สึกเหมือนจะสูงกว่าสำหรับนักบิดที่ต้องการให้เท้าทั้งสองข้างแตะพื้น น้ำหนักของ GS ตัวเลขคือ 520 ปอนด์แต่ให้ความรู้สึกเบากว่าเพราะการออกแบบนั้นวางเครื่องยนต์ในแชซซีที่ต่ำลงมา
รถแนว Adventure-Touring ในปัจจุบันมักจะมาพร้อมกับขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น แต่สำหรับสองคันนี้แล้วคงไม่จำเป็น ซึ่งหากเป็นเครื่องยนต์ตัวใหญ่ก็จะมีระบบ Traction Control (TC) มาให้พร้อม สิ่งที่คนขับขี่ต้องทำคือ ศึกษาว่าระบบทำงานอย่างไรเท่านั้น ก็คงต้องศึกษาคู่มือกันเล็กน้อยหละครับ การปรับค่าอาจจะทำให้การขับขี่แต่ละคันนั้นได้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ เมื่อเรามาดูระบบ TC แล้วพบว่าของ Yamaha นั้นเหมือนจะใช้งานง่ายและเป็นระบบที่ดีกว่า ซึ่งหากเราเทียบเคียงกับเครื่องเสียงแล้วระบบของ Yamaha นั้นเหมือนการลดความดังเสียงลง แต่ของ BMW เหมือนกับการปิดเสียงไปเลย จินตนาการถูกไหมครับ
สำหรับการขับขี่หากตั้งค่าให้ออกแนวดุดันหรือโหมดธรรมดาสำหรับทั้งสองคันแล้วละก็ มอเตอร์ไซค์ BMW จะให้การตอบสนองที่เหมือนจะมีแรงม้าออกมามากกว่า ทุกครั้งที่บิดคันเร่งจะรู้สึกได้ถึงแรงบิดที่ออกมาอย่างพุ่งทะยาน ส่วน Tenere นั้นกำลังเครื่องยนต์ที่รอบต่ำและความเร็วต่ำนั้นจะนุ่มนวลกว่า แต่เมื่อทำความเร็วขึ้นมาได้แล้วละก็ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยง ความจริงแล้วเมื่อเริ่มทำความเร็ว มอเตอร์ไซค์ Yamaha จะให้ความรู้สึกที่เป็น 4 สูบได้มาก ในขณะที่บน GS นั้นยังรู้สึกได้ถึงความเป็นเพียงเครื่องยนต์แบบ Twin เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามแรงบิดที่ช่วงกว้างผสมกับเกียร์ 6 สปีิดที่มีช่วงเกียร์ที่เหมาะสมนั้นส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องไม่แพ้เครื่องสี่สูบแต่อย่างใด
สิ่งที่น่าทึ่งของ BMW ก็น่าจะเป็นเรื่องที่สามารถให้แรงบิดออกมาได้เหลือเฟือ พร้อมจะปลดปล่อยกำลังเครื่องยนต์ออกมาเต็มที่ การตอบสนองที่ฉับไว แต่ไม่เพียงแค่จะต่อกรกับ Yamaha ได้ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในกลุ่มมอเตอร์ไซค์แนว Adventure แบบ Twin ด้วยกันอยู่หลายขุม ด้วยเพราะการตอบสนองที่ดีกว่า ให้ความรู้สึกการเชื่อมโยงระหว่างคันบิดกับล้อหลังได้ดีจนคุณอาจจะลืมไปเลยว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แบบ ride by wire นักบิดที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันมาก่อน อาจจะไม่ประทับใจนัก แต่คงแบบว่าใจระเบิดไปเลยเมื่อมาเจอ BMW คันนี้
BMW เหมือนจะเบากว่า
มอเตอร์ไซค์ BMW นั้นจะรู้สึกว่าเบากว่าเสมอ เปรียบเทียบในแง่การบังคับเลี้ยวผ่านแฮนด์จับแล้วทาง BMW เหมือนจะหนักเพียงครึ่งเดียวของ Yamaha การเลี้ยวเหมือนจะใช้แรงน้อยกว่าเพราะตัวรถจะตอบสนองเร็วแต่ยังคงความแม่นยำอยู่ในตัว ส่วน Tenere นั้นคุณจะรู้สึกถึงความมั่นคงมากกว่า และต้องออกแรงมากกว่าในการที่จะเลี้ยวไปมา นับเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับนักบิดที่ประสบการณ์ยังน้อยเมื่อขับมอเตอร์ไซค์แนว off road แต่สิ่งที่น่าฉงนสำหรับมอเตอร์ไซค์ทั้งสองก็คือว่าทั้งสองคันให้ความรู้สึกว่าเบากว่าที่ควรจะเป็นมาก
ในแง่ของระบบกันสะเทือนแล้ว หากเทียบระบบการปรับแต่งค่าด้วยไขควงของ Tenere และระบบกดปุ่มบน GS แล้วละก็ การปรับค่าของ Yamaha นั้นง่ายและตรงไปตรงมาเมื่อเจอถนนวิบากนอกจากจะทำให้การขับขี่ที่ตอบสนองต่อถนนได้ดีแล้วยังเลี้ยวไปมาได้คล่องแคล่วด้วยการปรับค่า พรีโหลดของสปริงหลังให้เหมาะสมเท่านั้น ระยะยุบตัวขนาด 7.5 น้ิวนั้นให้ความรู้สึกที่ดี และทำหน้าที่ของมันได้ดีในการป้องกันไม่ให้โช้คยุบตัวจนสุดเมื่อกระเด้งอยู่บนถนน ระบบกันสะเทือนจะส่งความรู่้สึกของพื้นถนนได้ดีกว่า BMW เล็กน้อยเมื่ออยู่ในโหมดนุ่มนวล (Soft) และไม่แข็งเหมือน BMW เมื่ออยู่ในโหมด Hard
ว่ากันตามจริงแล้วการขับ Tenere นั้นแทบจะเหมือนกับขับ BMW ในโหมด Road และ Normal มอเตอร์ไซค์ GS จะทำงานได้ดีกว่าหากเราตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพถนน อย่างน้อย BMW ก็ทำงานได้ตรงกับค่าที่ตั้งชื่อไว้ ดังนั้นเมื่อเสริมด้วยระบบ Dynamic ESA ที่การปรับค่ากันสะเทือนด้วยการเล่นกับปุ่มกดเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้เราได้สนุกกับการขับมอเตอร์ไซค BMW คันนี้ไปได้ในทุกๆสถานการณ์โดยไม่มีข้อติดขัด ก็คงพอเข้าใจได้ว่าเราคงไม่อยากจะพกไขควงไปทุกที่แล้วเปลี่ยนค่าโน่นนี่ทุกครั้งที่เจอกับสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงไป เดี๋ยวต้องจอดแล้วปรับค่า ใครๆ ก็คงไม่ชอบใช่ไหมครับ ไม่ว่าใครก็คงจะให้คะแนน BMW ในประเด็นนี้แน่นอน
ส่วนความสะดวกสบายอาจจะเป็นประเด็นสำคัญกว่าประสิทธิภาพในการขับขี่ของนักบิดบางคน บังลมหน้าที่ปรับค่าได้ง่ายนั้นถือว่าโดดเด่นด้วยขนาดที่กระทัดรัด แต่คนตัวสูงอาจจะทำใจลำบากเรื่องลมปะทะนิดนึง ทำนองเดียวกันกับ Yamaha แม้ว่าบังลมหน้าจะสูงขึ้นมาอีกนิดก็ตาม
เครื่องยนต์ของ GS ถือว่าส่งผ่านความร้อนได้พอเหมาะมายังเท้าคุณหากขับในที่เย็นๆหรือยามค่ำคืน แต่หากเจอแดดจ้า บนถนนคอนกรีต และรถติดไฟแดงแล้วละก็ Yamaha ทำหน้าที่ได้ดีกว่าในการระบายอากาศร้อนออกไป อาการสั่นของทั้งสองคันนั้นถือว่าน้อย แต่ทั้งสองคันก็มีทั้งจุดดีและจุดด้อยขึ้นอยู่กับความเร็วรอบ ที่ความเร็วระดับ 115 กม/ชม ด้วยเกียร์ 6 นั้นถือว่าเยี่ยมยอดที่สุดสำหรับ GS ส่วน Yamaha อยู่ที่ความเร็ว 118 กม/ชม หรือกลับกันผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ
ถ้าจะให้ลงในรายละเอียดอีกหน่อย เบรกของ Tenere นั้นเหมือนจะให้ความรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แต่ระบบ ABS ทำงานได้ดีแม้จะขับบนถนนวิบาก แต่ของ GS นั้นให้ความรู้สึกที่ดีกว่าและการจับเบรกเหมือนจะดีกว่าโดยเฉพาะล้อหน้า เราชอบที่จะปิดระบบ ABS มากกว่าเมื่ออยู่บนถนนวิบาก ดีหน่อยตรงที่ GS จะจำค่าต่างๆที่ตั้งไว้ครั้งสุดท้ายได้เมื่อบิดกุญแจสตาร์ทรถครั้งใหม่ ซึ่งเสียดายที่ระบบ TC ของ Yamaha นั้นไม่จำค่าเก่าเอาไว้
คันบังคับของ GS นั้นยื่นกลับมาทางคนขับและอยู่ต่ำ เหมาะสำหรับการนั่งขับ แต่หากจะยืนขับนั้นอาจจะต้องลำบากนิดนึง เบาะนั่งของ GS นั้นก็ดูดีแต่ดูเหมือนจะยื่นไปข้างหน้ามากไปนิดที่จะให้ความสบายเต็มที่ มอเตอร์ไซค์ Yamaha นั้นดูเป็นธรรมชาดิและให้ท่วงท่าการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติไม่ว่าคุณจะยืนขับหรือนั่งขับ และเบาะนั่งก็สบายกว่าด้วย
สรุปแล้วยกให้คันไหนชนะ
ตกลงคันไหนที่เหมาะจะเป็นมอเตอร์ไซค์แบบ Adventure ที่พร้อมตะลุยไปทุกที่ สำหรับนักบิดแนวฮาร์ดคอร์ที่ต้องการขับทัวร์รอบโลกแล้ว อาจจะไม่เลือกทั้งสองคัน เพราะด้วยมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบดิจิตอลซับซ้อนแบบนี้ อาจจะยากที่จะหาอะไหล่หรือคนซ่อมในประเทศห่างไกลอย่าง ซิมบาเบว แต่หากเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ไว้ขับไปไหนมาไหนทุกวันและพร้อมลุยทุกสภาพถนนแล้วละก็ ไม่ว่าคันไหนก็ทำได้สบายๆ ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นและคล่องตัว
สำหรับผมกับภรรยาแล้วหลังจากสลับกันขับทั้งสองคันต่างก็สรุปออกมาตรงกันว่า พี่น้องคนละพ่อคนละแม่คู่นี้ ต้องยกให้ BMW R1200GS เป็นพี่ และ Yamaha Tenere เป็นน้อง แต่มีข้อแม้ว่าบน BMW นั้นเลือกกดปุ่มให้เหมาะกับภาวะถนนแค่นั้นเป็นพอ
เปรียบเทียบสเป็ค
2013 BMW R1200GS | 2013 Yamaha Super Tenere | |
ราคา (อเมริกา) | $18,985 | $14,790 |
น้ำหนักเปียก | 520 lb. | 556 lb. |
ระยะระหว่างล้อ | 59.4 in. | 60.5 in. |
ความสูงเบาะ | 34.4 in. | 33.2 in. |
อัตราสิ้นเปลือง | 44 mpg | 43 mpg |
0-60 MPH | 3.0 sec. | 3.2 sec. |
1/4 MILE | 11.18 sec. @ 120.26 mph | 11.85 sec. @ 108.54 mph |
แรงม้า | 112.7 @ 7970 rpm | 90.8 @ 7230 rpm |
แรงบิด | 82.4 ft.-lb. @ 6500 rpm | 73.8 ft.-lb. @ 5660 rpm |
ความเร็วสูงสุด | 132 mph | 121 mph |
เรียบเรียงจาก cycleworld.com
ads2