Honda CBR250R รีวิวการขับขี่จากนักบิดบ้านๆ
Honda CBR250R รีวิวการขับขี่จากนักบิดบ้านๆ
ก่อนหน้านี้ผมขับมอเตอร์ไซค์คันเก่ามากว่า 2 ปีแล้วและวิ่งไปได้ทั้งหมด 30,000 กม หลังจากผมต้องย้ายที่อยู่ ผมเลยอยากจะอัพเกรดมอเตอร์ไซค์ด้วยเหตุผลสองประการคือ ไม่อยากจะเสียเงินเสียเวลาไปกับกระบวนการในการไปต่อคิวรอแผ่นป้ายทะเบียน กับอีกเหตุผลหนึ่งคือผมต้องการมอเตอร์ไซค์ที่ไม่สั่นเวลาวิ่งความเร็วสูง เหมือนที่พบกับคันเก่า ผมยังต้องการมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ไปไหนมาไหนประจำวัน พร้อมกับคันที่สามารถวิ่งระยะทางไกลๆได้อีกด้วย
ถามว่าทำไมเลือก Honda CBR250R หลังจากที่ผมตัดสินใจว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์คันใหม่ ผมก็ไปทดสอบมอเตอร์ไซค์หลายๆคันด้วยกันที่มีความจุมากกว่า 180cc ตอนนั้นที่คิดไว้ในใจก็คือ KTM DUke 200, Honda CBR250R, Kawasaki Ninja 250 และด้วยงบประมาณที่มีอยู่จำกัดผมเลยต้องตัด Ninja 250 ออกไป ซึ่งความจริงเป็นตัวที่ผมชอบมากที่สุดด้วยซ้ำ พอมาเหลือสองตัวให้เลือกระหว่าง KTM Duke 200 และ Honda CBR250R ก็เริ่มคิดหนัก ความจริงก็ชอบสมรรถนะของ Duke 200 มากแต่สุดท้ายตัดสินใจซื้อ CBR250R เพราะมันเป็นแบบฟูลแฟร์ริ่งมากกว่า และด้วยตัวแปรเรื่องเครื่องยนต์ที่ดีกว่า และเบาะนั่งคนซ้อนท้ายที่ดีกว่าด้วย แค่ไม่ถึงปีผมก็บิดไป 11,000 กิโลเมตรเข้าไปแล้วกับ CBR คันนี้
หน้าตา สไตล์ และคุณภาพของรถ
มอเตอร์ไซค์ Honda CBR250R นั้นอาจจะไม่ได้แปลกแหวกแนวซักเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าหากขับไปตามท้องถนนก็จะต้องมีบางคนมองจนเหลี่ยวหลังแน่ มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก VFR1200 แม้ความจริงผมอยากให้ทาง Honda ออกแบบไปในทาง CBR1000RR Fireblade เสียมากกว่า ไฟหน้านั้นถือว่าดีมาก ไฟสูงนั้นส่องสว่างดีกว่ารถยนต์บางคันเสียอีก ท่านั่งขับก็สบาย และเบาะหน้าที่ใหญ่สามารถนั่งตัวตรงก็ได้ หรือจะโค้งเล็กน้อยก็ได้แล้วแต่ภาวะการขับขี่ เวลาขับทางไกล ผู้โดยสารมักจะลื่นไหลมาข้างหน้าอยู่บ่อยๆนั่นเป็นเพราะลักษณะของวัสดุที่ทำเบาะซึ่งเราสามารถเปลี่ยนได้ คุณภาพโดยรวมน่าจะดีกว่านี้หากมีการใช้พลาสติคคุณภาพดี แต่ความคิดผมก็เปลี่ยนไปก็ตอนทำรถล้มไปครั้งนึง แล้วผมต้องเปลี่ยนฝาหุ้มท่อไอเสียและบางส่วนของแฟร์ริ่ง ราคาก็ไม่แพงมากเลยเข้าใจว่าทำไม ฮอนด้าถึงได้เลือกวัสดุที่สมดุลย์กันระหว่างราคาและคุณภาพของมัน
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
มอเตอร์ไซค์ Honda CBR250R นั้นมีเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมมาก และที่สำคัญอาการสั่นไม่มีให้เห็น การเปลี่ยนเกียร์ก็ลื่นไหลดี แต่บางครั้งเวลาต้องชลอรถและต้องเปลี่ยนลงสองเกียร์เพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ผมทำความเร็วได้สูงสุด 155 กม/ชม และคิดว่าแรงบิดยังเหลือ แต่ด้วยเพราะหมวกกันน้อคผมเริ่มสั่นเลยต้องตัดสินใจลดความเร็ซลง เครื่องยนต์ก็เหมือนเครื่องยนต์ทั่วๆไป จะให้จังหวะจะโคนที่ดีก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของคนขับ ผมชอบที่จะขับที่รอบสูงๆเพราะจะทำให้เครื่องยนต์ปล่อยแรงออกมาเต็มที่ หากความเร็วสูงสุดที่คุณต้องการอยู่ราวๆ 100 กม/ชม แล้วละก็คุณจะพลาดความันส์ไปจากรถคันนี้แน่นอน
การขับขี่ และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
มอเตอร์ไซค์คันนี้อาจจะไม่ใช่คันที่แรงสุดๆในกลุ่มบิ้กไบค์ แต่มันวิ่งได้ดีบนทางหลวงเมื่อออกทัวร์ และยังสามารถขับๆหยุดๆแบบในเมืองได้โดยไม่เคอะเขิน แถมอาจจะพามันไปลุยถนนวิบากได้บ้างเล็กน้อยอีกด้วย ผมเดินทางจากเหนือจรดไต้เกือบสองพันโล มันวิ่งที่ความเร็ว 120 กม/ชม ได้สบายๆทั้งวัน แต่ผมก็หยุดพักทุกๆ 4 – 5 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้เครื่องร้อนเกินไป การควบคุมรถก็ทำได้คล่องแคล่วไม่รู้สึกเมื่อล้าแต่อย่างใด รถ CBR ของผมได้อัตรสิ้นเปลืองออกมาที่ 42 กม/ลิตร บนทางหลวง และประมาณ 25 กม/ลิตร เมื่อขับบนถนนธรรมดา ส่วนในเมืองได้ค่าเฉลี่ยที่ 29 กม/ลิตร แต่เพื่อบางคนบอกผมว่าทำได้มากกว่านั้น หากเติมน้ำมันเต็มถึงที่ประมาณ 13 ลิตร CBR250R คันนี้จะวิ่งไปได้ราวๆ 360 กม เลยทีเดียว
ระบบเบรก
ผมได้ลองทั้งแบบมี ABS และไม่มี ABS ผมเองก็อยากจะซื้อรุ่นที่มี ABS แต่ตัองมาซื้อรุ่นที่ไม่มี ABS เพราะตอนนั้นต้องรอคิวยาวมาก แต่ถึงกระนั้นผมก็รู้สึกมั่นใจในระบบเบรกของมอไซค์คันนี้อย่างเต็มที่ ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง แต่ผมคิดว่ายาง Dunlop ของรถเพื่อนเหมือนจะยึดเกาะถนนได้ดีกว่าที่ให้มากับรถ แม้ตอนไปลองขับตามชายหาด CBR250R คันนี้ก็ยังให้ความรู้สึกที่ดี แต่เราต่้องปล่อยลมนิดนึงเพื่อให้ยึดเกาะกับหาดทรายได้ดีขึ้น ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการมี ABS นั้นจะเป็นสิ่งที่ดีกับนักบิดหน้าใหม่ เพราะมันจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตได้มากกว่า
ผลสรุป
อีกไม่นานก็จะครบปีแล้วที่ผมเป็นเจ้าของรถ Honda CBR250R คันนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่ได้เป็นเจ้าของมัน มอไซค์คันนี้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดเพราะมันตอบสนองในทุกสิ่งที่ผมต้องการสำหรับรถในกลุ่มนี้ CBR250R คันนี้อาจจะขับเป็นแนวสปอร์ทไบค์ก็ได้ หรือจะออกทริปไกลๆ หรือจะขับไปทำงานทุกๆวันก็เหมาะสมดี ราคาก็อยู่ในช่วงพอเหมาะสำหรับการที่สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบนี้ หากใครมาถามผมว่าแนะนำมอไซค์ให้หน่อยละก็ ผมก็จะแนะนำรุ่นนี้หละครับ
เรียบเรียงจาก นักบิดบ้านๆของ motorbeam.com
http://www.motorbeam.com/bikes/honda-cbr250r/honda-cbr250r-ownership-review/
ads2
