Tweet

Credit: Youmotorcycle.com

Suzuki Boulevard C50T รีวิวมอเตอร์ไซค์

ปกติแล้วผมชอบที่จะขับขี่มอเตอร์ไซค์ในวันที่อากาศสบายๆ ยิ่งฤดูหนาวที่มีใบไม้ร่วง ขับไปไหนใบไม้ก็ปลิวตามยิ่งทำให้การขับขี่นั้นรู้สึกสนุกมากขึ้น อากาศที่เย็นสบายทำให้ไม่ต้องห่วงว่าเหงื่อชะเปียกโชกเวลาหยุดรถชม Suzuki โทรมาถามผมว่าอยากจะลองทดสอบมอเตอร์ไซค์ 2014 Boulevard C50T ไหม ผมก็เลิกสนใจเรื่องอากาศไปโดยปริยาย รีบมุ่งหน้าไปที่ตัวแทนจำหน่ายทันที

ในอเมริการแล้วนั้นตลาดของ Suzuki แทบจะไม่เกิด ทางบริษัทเลยนำเสนอรุ่นใหม่ๆเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น ไม่เหมือนค่ายอื่นที่พอขึ้นปีใหม่ก็ออกมาหลายรุ่นมาก บางรุ่นของ Suzuki ก็อาจจะโผล่มาในบางจังหวะ อย่างมอเตอร์ไซค์รุ่น TU250 ถือเป็นรุ่นล่าสุดสำหรับนักบิดหน้าใหม่ สำหรับรุ่น GSX-R ที่มากับสีเฉพาะนั้นเป็นตัวที่ทำให้ทาง Suzuki ฉลองยอดครบ 1 ล้านคันไปเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับปี 2013 แล้วละก็ Boulevard C90T ถือเป็นมอเตอร์ไซค์คันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดที่มาจากญี่ปุ่น แม้ว่าสามรุ่นที่กล่าวถึงนั้นอาจจะดูมีความเชื่อมโยงกับ Suzuki มาก แต่เจ้า C50T เหมือนจะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ทางตัวแทนจำหน่ายไม่ค่อยจะนำออกมาวางโชว์เท่าไหร่หากเราไปเยี่ยมชมตามร้านดีลเลอร์ต่างๆ

มอเตอร์ไซค์ Boulevard C50 นั้นวางตัวให้รุ่นธรรมดา ด้วยราคา $8,899 USD ซึ่งถือว่าไม่แพงและมีให้เลือกเพียงสีดำเท่านั้น หากเพิ่มเงินอีก $1,500 USD ก็จะไต่ไปที่รุ่น C50SE ซี่งมีเฉพาะสีดำเช่นกัน แต่จะมีสิ่งที่เพิ่มคือบังลม พนักพิงของผู้โดยสารพร้อมอานสุดเทห์ ส่วนทัวท้อปคือ C50T ซึ่งราคาจะอยู่ที่ $10,499 USD ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วสำหรับรุ่นนี้ก็แค่การมีสีให้เลือกเพิ่มขึ้นอีกสองสีเท่านั้น

การยกขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ตัวนี้นั้นทำได้ง่ายๆด้วยเบาะสูงเพียง 27.6 นิ้ว กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จะปลุกขุมพลังขนาด 805cc แบบ V-twin ที่วางทำมุมกัน 45 องศา บิดคันเร่งเพียงเล็กน้อยก็จะมาพร้อมเสียงที่นุ่มลึกตำรามออกมาจากท่อโครเมี่ยม

Credit: Youmotorcycle.com

ลองขับมอเตอร์ไซค์ลงใต้ ผมก็เริ่มทำตัวให้คุ้นเคยกับมอเตอร์ไซค์คันนี้มากขึ้น พร้อมกับพึมพัมกับตัวเองว่าไม่น่าจะลืมถุงมือคู่ที่อุ่นกว่านี้ซักหน่อยเมื่อเจออากาศเย็นเข้าแบบนี้ ทำได้แค่ท่องว่าผมชอบขับในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากวิ่งเข้าสู่ถนนสาย 407 ผมก็เริ่มเปิดคันเร่ง การตอบสนองที่ได้ถือว่าน่าประทับใจมาก ขุมพลังอาจจะไม่ถึงกับสุดยอด แต่แรงบิดเหมือนจะพร้อมรับใช้ทุกความเร็วรอบที่สูงกว่า 1000 รอบต่อนาที โดยไม่ต้องสนใจว่าจะอยู่ที่เกียร์ไหน ขับไปด้วยความเร็วจนเลยเขตจำกัดความเร็ว ผมก็เข้าสู่เกียร์ 5 อันเป็นเกียร์สูงสุด และพบว่าอัตราทดนั้นต่างจากแบบเก่ามาก ทำให้ความเร็วรอบลดต่ำลงพาผมไปสู่ความผ่อนคลายและสนุกกับการขับขี่มากขึ้น

ตอนนี้ผมมุ่งหน้าลงทางเหนือบนถนนสาย 400 ผมก็เจอกับถนนลูกคลื่นเล็กน้อย ระบบกันสะเทือนมอเตอร์ไซค์ Suzuki Boulevard คันนนี้ทำให้ทุกอย่างดูราบเรียบไปหมด เนื่องจากเป็นช่วงบ่ายต้นๆ ผมก็พบว่าถนนสาย 401 นั้นโล่งทำให้ผมขับรถต่ออย่างสบายอารมณ์ไปกับเบาะที่นุ่มและรองรับก้นอย่างเต็มที่ ขับมาแถวๆ ตะวันตกของ Milton ผมพบว่าไฟเตือนระดับน้ำมันสว่างขึ้นมา เลยแวะเติมน้ำมันใส่ถังขนาด 15.5 ลิตร พร้อมได้โอกาสทำให้มืออุ่นขึ้น เติมเต็มถังแล้วทำให้รู้สึกว่าส่วนหน้านั้นหนักขึ้น แต่ด้วยแฮนด์ที่กว้างนั้นทำให้มอเตอร์ไซค์หนัก 651 ปอนด์คันนี้บังคับเลี้ยวไปมาได้อย่างไม่ลำบาก

มอไซค์รุ่น C50T นั้นจะเหมือนกับ C50SE ตรงที่มันมาพร้อมกับบังลมหน้าที่ปรับความสูงได้ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อฝนเริ่มตกเบาๆ ในตำแหน่งต่ำสุดผมก็พบว่าด้านหน้าหมวกกันน้อคผมยังแห้งอยู่ แต่ลมก็ตีศรีษะผมพอประมาณเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่จะมาช่วยได้ก็คือการปรับบังลมให้ขึ้นไปอยู่ตำแหน่งสูงสุด หลังจากที่ได้ทดสอบความสามารถในการขับขี่บนถนนทางด่วนแล้ว ผมก็มุ่งหน้าไปยังถนนชนบทที่แคบลงเมื่อผมมาถึง London Ontario

แวะหยุดทานกาแฟผมก็ได้ทีนั่งใกล้หน้าต่างขนาดใหญ่หน้าร้าน เพื่อจะได้ดื่มด่ำกับรสชาตกาแฟได้ดีขึ้น ตอนที่ผมเลือกระหว่าง C50SE และ C50T นั้นผมแค่ดูรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหากคุณอยากได้มอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใช่สีดำแล้วละก็คุณต้องเลือกตัว T แต่หากจ่ายเพิ่ม $100 USD คุณก็จะได้สีสรรออกแนวทูโทนพร้อมแถบทอง พร้อมโครเมี่ยมรอบขอบเบาะไปจนถึงเบาะผู้โดยสาร มอเตอร์ไซค์ทั้งสามรุ่นของ C50 นั้นมาพร้อมเบรกหน้าแบบจานเดี่ยว เบรกหลังแบบดรัม และส่วนอื่นๆของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่เหมือนกัน

เมื่อมือเริ่มอุ่นขึ้นจากแก้วกาแฟ ผมก็ให้ความเห็นได้ทันทีเลยว่าสไตล์ของ C50T นั้นเหมาะเจาะมาก ทุกอย่างดุลงตัว กระเป๋าสัมภาระหนังแม้จะไม่กันน้ำ แต่พบว่ามีหยดน้ำเกาะก็ต่อเมื่อขับท่ามกลางฝนตกหนักเท่านั้น กระเป๋าใบนี้ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าสามารถบรรจุสัมภาระต่างๆได้อย่างปลอดภัย และด้วยราคาของมอเตอร์ไซค์คันนี้ที่แสดงว่า C50T ต้องมีคู่แข่งจากยี่ห้อญี่ปุ่นด้วยกันแน่นอน แต่มอเตอร์ไซค์คันนี้ก็มาพร้อมด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่เพียงพอ ดูสวยงาม และคุ้มค่าที่จะเป็นมอไซค์แนว cruiser ที่เหมาะจะเอาไปขับชมวิวช่วงฤดูหนาว และเดาได้ว่าหากไปขับมอเตอร์ไซค์ในช่วงฤดูร้อนก็คงสนุกสนานไม่แพ้กัน ถึงตอนนั้นก็คงได้มีรีวิวมอเตอร์ไซค์คันนี้มาให้อ่านกันอีกรอบละครับ

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก youmotorcycle.com

ads2