รีวิวมอไซค์ Honda CBR1000RR
รีวิวทดสอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์ Honda CBR1000RR 2013
มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า CBR1000RR ถือเป็นมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ทที่สุดยอดคันหนึ่งในกลุ่มนี้ แม้ว่าจะเป็นรถที่สมบูรณ์ในตัวแล้วแต่ทางฮอนด้าก็อยากจะพัฒนาเพิ่มเติมในบ้างด้าน โดยวิศวกรของฮอนด้าเองต้องการผสมผสานระหว่างกำลังขับ การขับขี่ คุณภาพของรถรวมถึงภาพรวมของการผลิตที่ดีเข้าด้วยกัน ผลที่ได้คือรถที่สุดยอดคันนึงในกลุ่ม 1 ลิตรที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
รถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่น CBR1000RR ปี 2013 นี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบสี่สูบเรียงแถวพร้อมเกียร์ 6 สปีด จะเห็นว่าคุณสมบัติพื้นฐานโดยทั่วๆไปแล้วจะเหมือนกับรุ่นปี 2012 แต่มีการเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กน้อยเช่น แฟริ่งแบบใหม่ กันสะเทือนใหม่ ระบบการจ่ายน้ำมันและระบบเบรกใหม่เป็นต้น ซึ่งถ้าว่าไปแล้วก็เปลี่ยนแปลงไม่น้อยเลยทีเดียว
ระบบกันสะเทือนตอนนี้ก็เป็นของ Showa ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Honda หันมาใช้โชคหลังแบบท่อคู่แบบนี้ ซึ่งจะคล้ายกับ Ohlins TTX36 ที่ติดตั้งกับ Ducati 1199 Panigale S กันสะเทือนแบบนี้จะช่วยให้การเกาะถนนนั้นเป็นเยี่ยมและถือเป็นการนำขู่แข่งรถญี่ปุ่นค่ายอื่นๆไปหลายขุม
ในส่วนระบบจ่ายน้ำมันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความนุ่มนวลของเครื่องยนต์เมื่อมีการบิดคันเร่ง ล้อแบบ 12 ก้านซึ่งก็น่าจะทำให้รถนั้นอึดมากขึ้น แป้นเบรกมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เบรกได้แม่นยำขึ้น แต่ผลฟีดแบคจากทีมแข่ง endurance ได้ขอให้ลดแรงเบรกของล้อหน้าจากแป้นเบรกลงเพื่อผลของการออกจากโค้ง
นอกเหนือจากที่กล่าวมาก็ถือเป็นมาตรฐานของรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น แต่ด้วยแรงม้าเพียง 175 แรงม้าทำให้ CBR คันนี้อาจจะแรงไม่เท่ากับรถมอไซค์ยี่ห้ออื่นในระดับหนึ่งลิตรเท่ากัน ยกเว้นเพียงคันเดียวคือ Yamaha R1 (180 แรงม้า) ในแง่ของแรงม้าต่อน้ำหนักที่ฮอนด้ายังชนะอยู่
ผลการขับขี่
เวลาใครๆพูดถึง superbike อาจจะกล่าวถึงแรงม้าว่าคันไหนมากกว่ากัน ซึ่งในการได้ขับขี่ก็รถในกลุ่มนี้ทุกคนก็อาจจะยังรู้สึกว่าม้าเยอะก็ยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้ขับขี่บนถนนแรงม้าสูงสุดนั้นจะมีความสำคัญน้อยกว่าความแรงช่วงกลาง สำหรับในสนามแข่งแรงม้าสูงสุดยิ่งสำคัญน้อยลงไปอีกเพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือระบบกันสะเทือนและยางรถ
ตอนแรกๆเหมือนว่าโชคจะนุ่มไปนิด แต่ด้วยการ Damping คุณภาพสูงอย่าง Ohlins ทำให้รถมอไซค์ฮอนด้าคันนี้หาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ เพราะระบบกันซะเทือนสามารถรองรับแรงกระแทกหนักเบาทั้งก้อนหินหลุมบ่อได้อย่างดีส่งผลให้การขับขี่ที่ราบเรียบนุ่มนวลจริงๆ
ระบบเบรคที่ปรับปรุงใหม่ (รุ่นที่ทดสอบคือ C-ABS) นั้นก็ควรที่จะกล่าวถึงด้วย กำลังเบรกและความรู้สึกนั้นยอดเยี่ยมมาก การเบรกนั้นคมกริบไม่มีอาการสะดุดจากระบบ ABS เลย เราได้ลองทดสอบรถทั้งแบบมีและไม่มี ABS พบว่าสิ่งที่แตกต่างคือก้านเบรกนั้นตอบสนองได้นุ่มนวลกว่ามากสำหรับคันที่มี ABS ระบบ ABS นั้นถึอเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากแม้แต่กับนักบิดที่ช่ำชองสนาม เพราะทำให้สามารถเบรกรถได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถจะไถลในทุกๆครั้งไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร
ผลจากการทำงานร่วมกันของเบรกและระบบกันสะเทือนนั้นเยี่ยมยอด คุณสามารถควบคุมได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ เพราะตลอดเวลาคุณจะรู้สึกได้ว่าแต่ละชิ้นส่วนกำลังทำอะไรอยู่ การที่สามารถควบคุมได้ตลอดเวลานั้นหมายถึงการขับขี่ที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการ ทุกความเร็ว และจะเป็นการขับขีทีปลอดภัยในทุกสถานการณ์
กันสะเทือนหลังนั้นทำงานได้เยี่ยมมากส่งผลให้การเกาะถนนนั้นมั่นคงเมื่อเร่งความเร็วตอนหลุดโค้ง ปกติแล้วในรถทั่วไปเรามักอยากจะให้ระบบอิเลคทรอนิคส์มาช่วยในการขับขี่แต่สำหรับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคันนี้เหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นแทบไม่จำเป็นเลย กำลังตกนั้นไม่ค่อยมีแต่หากมันเกิดขึ้นมันจะสื่อสารมายังผู้ขับขี่อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะปรับแต่งการควบคุมรถเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
จุดเด่นของมอไซค์คันนี้
มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า CBR1000RR นั้นยอดเยี่ยมในแง่ของความเร็ว การเข้าโค้งอย่างแม่นยำ แรงช่วงกลางเต็มพิกัด ปลายแรง และมั่นใจว่าการขับขี่นั้นไหลลื่นไปทุกท้องถนน บนท้องถนนนั้นระบบกันสะเทือนสามารถทำงานตอบสนองได้อย่างดี ในสนามแข่งคุณสามารถเบรกทีหลังและเร่งก่อนได้ในทุกโค้งเมื่อเทียบกับมอไซค์คันที่ใช้ชิ้นส่วนทีมีราคาถูกกว่า
ระบบคอมไบน์ ABS บนจานเบรกขนาด 320 มม นั้นถือเป็นเบรกอันทรงพลัง ใช้งานง่าย และปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะหาได้ในท้องตลาด ไม่ว่าจะแดดจ้าหรือฝนตก ไม่ว่าจะเป็นท้องถนนทั่วไปหรือสนามแข่ง ก็สามารถหยุดได้อย่างมั่นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในส่วนของท่านั่งนั้นอยู่ตรงกลางๆระหว่างการขับเพื่อสมรรถนะและการขับขี่บนท้องถนนทั่วไป ก้นจะอยู่ในตำแหน่งสูง ข้อมืออยู่ในตำแหน่งต่ำ ที่วางเท้าอยู่สูง แต่การขับขี่ไปทั้งวันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยแต่อย่างใด
และด้วยหน้าตาของมอเตอร์ไซค์ที่ดูหล่อเหลาที่มาพร้อมกับสีสะดุดตา Honda CBR1000RR จึงเป็นรถที่สวยงามและสมรรถนะเยี่ยมที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ
ข้อด้อยของมอไซค์คันนี้
แม้ว่าได้มีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาในหลายๆอย่าง แต่การบิดคันเร่งในลักษณะเร่งแล้วปล่อยยังมีอาการสะดุดอยู่บ้าง การติดตั้งระบบควบคุมน้ำมันในภายหลังก็จะช่วยได้ แต่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปี 2013 นั้นรู้สึกว่าจะไม่จำเป็นแล้ว
และแม้ว่าการทางตรงของ CBR1000RR นั้นจะทำได้ที่ความเร็วสูง แต่การเข้าโค้งที่เกียร์ 1 และเกียร์ 2 แล้วต่อด้วยระยะทางสั้นๆที่ความเร็วต่ำแล้วต้องเข้าโค้งอีกครั้งนั้นจะรู้สึกอุ้ยอ้ายไปซักนิด
ราคามอเตอร์ไซค์
สำหรับราคามอไซค์ Honda CBR1000RR ในอเมริกานั้นจะเริ่มต้นที่ $13,000 สำหรับรุ่นไม่มี ABS และ $14,800 สำหรับรุ่น C-ABS ซึ่งราคาจะถูกกว่า R1 อยู่ $490 และถูกกว่า Kawasaki ZX-10R อยู่ $499 แต่จะใกล้เคียงกับราคาของ GSX-R1000 แต่ระบบกันสะเทือนโดยรวมของ Honda จะดีกว่าคู่แข่งเหล่านี้ แถมยังถูกกว่า BMW S1000RR ซึ่งอยู่ที่ $15,050
สำหรับราคาในไทยของ Honda CBR1000RR นั้นอยู่ที่ 820,000 บาท ถ้าเป็นรุ่นสีเดียวกับ Repsol จะอยู่ที่ 843,000 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ aphonda.co.th นะครับ
เรียบเรียงจาก rideapart.com
ads2