รีวิว มอเตอร์ไซค์ Honda Gold Wing F6B
จะว่าไปแล้ว Honda Gold Wing นั้นก็มีสถานะของตัวเองอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งโดยภาพรวมแล้วใครๆ ก็มองว่า Gold Wing นั้นมอไซค์ของคนสูงอายุซะมากกว่า
แต่ปี 2013 นี้เป็นปีที่ทางฮอนด้าต้องการเปลี่ยนคำนิยามนี้ด้วยการปรับโฉมใหม่เพื่อไม่ให้ถูกมองเป็นมอเตอร์ไซค์ของคนสูงวัยต่อไป ด้วยการออกแบบใหม่ในชื่อรุ่นว่า F6B จนทำรถนั้นดูปราดเปรียว เบากว่าเดิม
สำหรับเครื่องยนต์ก็เป็นขนาด 1832cc เหมือนกับตัวก่อนหน้าโดยนำเอาองค์ประกอบส่วนใหญ่มาทั้งระบบเสียงสเตอริโอ กล่องใส่ถุงมือ และกระเป๋าสัมภาระ เพียงแต่รุ่น F6B นี้จะมีความเป็นรถสปอร์ทมากกว่าเดิม ด้วยแฟรริ่งที่แคบกว่าเดิม บังลมที่สั้นกว่า พร้อมกับสีดำด้าน
ในความพยายามที่จะทำให้รถมีน้ำหนักเบาลงและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของรุ่นนี้ กลุ่มผู้คลั่งใคล้ในรุ่นนี้เคยได้พยายามปรับแต่งรูปโฉมให้โฉบเฉี่ยวกันเองมาแล้ว มาครั้งนี้ฮอนด้าเลยถือโอกาสปรับโฉมเองเสียเลยเพื่อล้างภาพลักษณ์ของความเป็นรถของคนสูงวัย
รุ่นนี้เลยถือว่าเป็น New Wing ราคาก็จะถูกกว่าจากรุ่น Old Wing มาก และจากการได้ลองขับไปรอบๆ เมือง San Diego เราก็ยืนยันได้ว่า F6B (Flat-Six bagger) ก็น่าจะเป็นรถมอไซค์ที่ดึงความสนใจจากแฟนๆในรถรุ่นนี้ได้ดีทีเดียว สำหรับใครที่เคยได้ขับรถรุ่นนี้มาแล้วอาจจะพบความประหลาดใจที่ว่าต่อให้รถดูเทอะทะขนาดก็ยังจะสามารถขับได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งนี้เพราะการวางเครื่องยนต์ของ Gold Wind นั้นทำให้จุดศูนย์ถ่วงนั้นต่ำลงมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเครื่อง V-twin โดยทั่วๆไป
นอกจากการปรับเปลี่ยนโฉมแล้ว ส่ิงที่ F6B มีความโดดเด่นอีกอย่างคือเรื่องของน้ำหนักที่ลดลงกว่ารุ่นเก่าไปอย่างมาก ทำให้นอกจากรูปโฉมที่ปราดเปรียวแล้ว การขับขี่นั้นยังง่ายกว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับรถรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นคือ GL 1800B และ BD (Deluxe) จะมีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกับรุ่นเก่าอย่ง GL1800 นั่นคือเครื่องยนต์ เฟรม แชซซี ระบบเกียร์ กันซะเทือน และอื่นๆ ส่วนที่แตกต่างก็จะเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แฟร์ริ่งที่วางต่ำกว่าเดิมทำให้ดูปราดเปรียว บังลมอันยาวก็สั้นลง ที่นั่งถูกปรับแต่งเล็กน้อย แผ่นพิงหลังผู้โดยสารก็ถูกเอาออกไป
ส่วนที่หายไปหลักๆก็มีระบบ cruise control และระบบ ABS ระบบเกียร์ถอยหลังไฟฟ้า เป็นต้น
สิ่งที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย นอกจากจะทำให้รถดูหนุ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดน้ำหนักรถและรถราคารถลงไปด้วย ในระดับราคาประมาณสองหมื่นเหรียญในอเมริกานี้จะทำให้ F6B ราคาสูงกว่า Victory Cross Country อยู่ไม่กี่พันและทำให้ราคานั้นอยู่ในระดับเดียวกับ Harley-Davidson แต่สิ่งที่ต้องเสียไปนั้นทำให้ต่างจากรถ Victory ที่มี ABS และ cruise control หรือกรณีของ Harley คือมีให้เป็นอุปกรณ์เสริม ทาง ฮอนด้าเองก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่นต่อไปของ F6B หรือไม่หากตลาดต้องการ แต่เพื่อลดน้ำหนักรถ อุปกรณ์เหล่านี้ถูกถอดออกไปจากรุ่นสำหรับปีนี้แน่นอน
ถ้าจะให้เปรียบเทียบรถรุ่นนี้กับคู่แข่งแล้วละก็จะหาคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อยคงลำบาก จากการลองได้ขับขี่ในวันแถลงข่าวแล้วพบว่าเรายังหาเครื่อง V-Twin มาเทียบเคียงกับรถรุ่นนี้ของฮอนด้ายังไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความแรงและความเร็วบนถนนหลวง
ในเมื่อ F6B นั้นถือว่ามีชัยเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันเพราะถูกมองว่าเป็นรถ bagger แนวหรู เราคงต้องลองมาเปรียบเทียบดูว่าเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าแล้วจะเป็นอย่างไร เนื่องจากพลังเท่าเดิมแต่น้ำหนักน้อยลง ทำให้ F6B นั้นมีสมรรถนะบนท้องถนนที่เหนือกว่าอยู่แล้วเมื่อเทียบกับรุ่น GL
ไม่ว่าสเปกตัวเลขจะเป็นอย่างไรสิ่งที่รู้สึกได้จาก F6B นั่นคือดีกว่ารุ่นเก่าแน่ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ว่า เหวี่ยงอีกด้วย เบากว่า ปราดเปรียวกว่า นั่นหมายถึงความเบิกบานใจในการขับขี่ ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะเป็นเพราะลมปะทะที่มีมากขึ้นก็เป็นได้ แต่โดยรวมแล้วขับรถรุ่นใหม่นี้นั้นดีกว่ารุ่นเก่าเยอะ
ตามสไตล์ของรถแนว tourer ละครับ อุปกรณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องนั้นมีมาครบเหมือนรุ่นเก่า ขาดแต่ส่วนที่เดิมเคยอยู่ในทรั้งค์ที่หายไปเท่านั้น แม้ GPS ไม่มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานแต่สามารถเพิ่มเติมเป็นออฟชั่นได้ กระเป๋าสัมภาระสามารถใส่ของได้อย่างเหลือเฟือ มีมือจับผู้โดยสารที่ผลิตด้วยวัสดุอย่างดี พร้อมอุปกรณ์ไฮเทคอย่าง Bluetooth USB มีครบพร้อมระบบไว้ควบคุมอันแสนสดวกสะบาย
สนนราคารุ่นมาตรฐาน F6B คือ $20,000 USD รุ่น F6B Deluxe $21000 USD ที่เพิ่มอุปกรณ์เสริมอื่นๆอีกหลายรายการ
ads2