2013-2014 Ducati Diavel Strada รีวิวมอเตอร์ไซค์
2013-2014 Ducati Diavel Strada รีวิวมอเตอร์ไซค์
มอเตอร์ไซค์ Ducati Daivel นั้นนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2011 ก็ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่ที่อาจจะประหลาดไปซักหน่อย ทำท่าว่าจะไปในทิศทางของมอเตอร์ไซค์ cruiser แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นแบบนั้น 100 เปอร์เซ็นต์ มอเตอร์ไซค์ Diavels คันธรรมดาอาจจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่สับสนไปหน่อย เหมือนๆจะเป็นแนว cruiser แต่เหมือนจะออกแนวอื่นซะมากกว่า
และตอนนี้ก็มาแล้ว Diavel Strada ถือเป็นมอเตอร์ไซค์แนว ทัวร์ริ่ง ที่เป็นมอเตอร์ไซค์อิตาเลี่ยนที่มีการเพิ่มเติมลูกเล่นหลายๆอย่างเข้ามา อย่างบังลมหน้า กระเป๋าสัมภาระ แฮนด์ที่สูงขึ้น พร้อมมือจับอุ่นไฟฟ้า พร้อมเบาะนั่งที่มาพร้อมกับพนักพิงผู้โดยสาร ในขณะที่สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ความรู้สึกการเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ดุดันแบบสัตว์ป่านั้นลดน้อยลง แต่ความจริงแล้ว Strada นั้นถือว่ามาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ทำให้มันดูสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งขับสบายและพร้อมกับที่ขนสัมภาระเพียงพอแนวเดียวกับ Street Glide ที่เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่ขายดีที่สุดในอเมริกา
แต่อย่างไรก็ตามมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide อาจจะสู้ไม่ได้กับค่าควอเตอร์ไมล์ของ Diavel ที่อยู่ที่ 9.95 วินาที เครื่องยนต์ขนาด 1198cc V-Twin ตัวนี้ให้แรงม้าออกมาที่ 135 แรงม้า ล้อหลังขนาด 240 มม น้ำหนักอยู่ที่ 527 ปอนด์ทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้ให้อัตรากำลังต่อน้ำหนักที่เหมาะสมทีเดียว
ส่วนประกอบหลักของ Diavel นั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่าง การจูนเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ มุมเอียงของล้อหน้า ระยะระหว่างล้อ (62.6 นิ้ว) ความสูงเบาะ (30.6 นิ้ว) ยังคงเหมือนเดิม ส่วนที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับ Strada ก็ตงจะเป็นเครื่องเจนเนอร์เรเตอร์ผลิตไฟฟ้าขนาด 12 โวลท์สำหรับช่องไฟออกสองช่อง ที่วางเท้าผู้โดยสารปรับปรุงใหม่ และมีการปรับปรุงระบบไฟท้ายอีกเล็กน้อย
สำหรับความประทับใจแรกที่ได้เห็นมอเตอร์ไซค์ Ducati คันนี้ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นคันใหญ่ ยาว อวบอ้วน แต่อย่าลืมว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้เบากว่ารุ่น Street Glide อยู่ 260 ปอนด์ด้วยกัน ผลคือมอเตอร์ไซค์ Strada เหมือนจะเป็นมอเตอร์ไซค์แนว streetfighter ท่ามกลางความเป็นมอเตอร์ไซค์แนว bagger พร้อมที่พักเท้าที่แทบจะอยู่ใต้ก้นของคนขับ ซึ่งต่างจากมอเตอร์ไซค์แนว cruiser ซึ่งที่วางเท้าจะยื่นออกไปข้างหน้า ด้านแฮนด์ของมอเตอร์ไซค์ Strada นั้นจะบิดม้วนใกล้เคียงกับมอเตอร์ไซค์แนว cruiser โดยมีความสูงเพิ่มเติมกว่าเดิม 15 มม และเข้าใกล้ตัวคนขับกว่าเดิม 60 มม
สิ่งที่ยังคงนำเอามาจากมอเตอร์ไซค์แนว Diavel คันอื่นก็คงเป็นเรื่องของเอกลัษณ์ของตัวมอเตอร์ไซค์ เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำนั้นถูกวางไว้ในเฟรมถักอย่างแน่นหนา ด้านท้ายของมอเตอร์ไซค์จะโดดเด่นด้วยล้ออ้วนใหญ่เหมือนขนมโดนัท สวิงอาร์มเพียงด้านเดียวช่วยให้โชว์ให้เห็นล้ออลูมิเนียมที่สวยงาม เสริมเอกลักษณ์ความเป็น Diavel มากขึ้น
เมื่อลองสตาร์ทเครื่องยนต์ มอเตอร์ไซค์ Strada คันนี้จะยังคงความเป็น Diavel ด้วยเสียงกระหึ่มแม้เปิดคันเร่งเพียงเล็กน้อย และให้ความรู้สึกหนักหน่วงเวลาคลัชจับ เกียร์บอกอาจจะดูเทอะทะและต้องงัดกันยาวๆ ซึ่งพบว่าบ่อยครั้งที่เกียร์ว่างนั้นอาจจะหายากหน่อยเวลาหยุดรถ
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วถือว่ามอเตอร์ไซค์ Diavel คันนี้นั้นน่าขับเป็นอย่างยิ่ง ให้ความรู้สึกเหมือนขับ Honda MSX แทนที่จะเป็นการขับรถใหญ่ๆอย่าง bagger หลังจากบิดผ่าน 1,500 รอบต่อนาที การตอบสนองของคันเร่งก็ไม่ถึงขั้นจะะก้าวกระโดด แม้จะอยู่ในโหมด Sport ก็ตาม แฮนด์ที่สูงขึ้นมานั้นช่วยแก้ปัญหาการตอบสนองของการเลี้ยวที่หนักหน่วงจากล้อหลังอันหนาเตอะนั้นได้สบายๆ
เครื่องยนต์แบบ V-Twin ของ Diavel นั้นรอบจุดกว่ามอเตอร์ไซค์แนว cruiser คันไหนๆ และมาพร้อมกับความแรงช่วงกลางที่พร้อมจะนำหน้าคู่แข่งที่เป็นเครื่องยนต์ V-Twin คันอื่นๆได้ดี ระบบ traction control ทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้ยากที่จะล้มเมื่อเร่งเครื่องยนต์เวลาออกนอกเส้น แต่ก็น่าพึงพอใจยิ่งที่เกียร์สองนั้นสามารถยกล้อได้อย่างสบายๆ นักบิดชอบโชว์ก็เพียงแค่ปิดระบบ TC ก็สามารถเล่นอะไรต่างๆได้อย่างมันส์ในอารมณ์ ขณะเดียวกันคุณก็จะรื่นรมณ์ไปกับเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ที่ออกมาจากท่อมัฟเฟิ้ลน้ำหนักเบาที่ให้มา เสียงมันดังมากพอที่จะทำให้ผมเลิกไปหาตัวอื่นมาเปลี่ยนใส่แทนมัน
มอเตอร์ไซค์ Diavel คันนี้ไม่เพียงแต่จะออกตัวได้ง่ายเท่านั้น แต่ยังหยุดรถได้ทันใจเช่นกัน ประสิทธิภาพในการเบรกจากระบบสามจานเบรกของ Brembo นั้นถือว่าเยี่ยมยอด ก้านเบรกแน่นดี ระยะระหว่างล้อที่ยาวขึ้นนั้นทำให้รถทรงตัวได้ดีแม้จะลดความเร็วลงอย่างแรง ระบบ ABS ที่ให้มาแทบจะไม่ต้องทำงานอะไรเลย
บนถนนเปิดโล่ง มอเตอร์ไซค์ Diavel เร่งได้แรงที่ความเร็วประมาณ 130 กม/ชม (4800 รอบต่อนาที) โดยแรงกว่าที่ความเร็ว 105 กม/ชม ซึ่งเป็นสิ่งที่มอเตอร์ไซค์ Harley ทั่วๆไปที่ไม่ได้ปรับแต่งเครื่องจะทำได้ง่ายๆ ความเร็วบนทางหลวงนั้นไม่มีใครเทียบ กลายเป็นการขับขี่ที่เหมือนจะไม่ไกลอะไรเลยไม่ว่าจะไปไหนมาไหน การทรงตัวเป็นเยี่ยมให้ความรู้สึกแน่นบนทางหลวง ซึ่งต้องยกให้ระยะระหว่างล้อที่ยาวทำให้การขับขี่นั้นราบเรียบแม้จะเจอหลุมบ่อทั่วๆไปก็ตาม แต่ความรู้สึกของผู้โดยสารอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เนื่องจากด้านหลังหนักและยางรถก็อยู่ตำแหน่งตรงผู้โดยสารพอดีเลยเหมือนว่าจะรับแรงกระแทกได้ไม่สมบูรณ์นัก เจอหลุมบ่อขนาดใหญ่มันจะส่งความสะเทือนไปทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร แม้จะพยายามลองปรับค่ากันสะเทือนหลายๆค่าแล้วก็ตาม ระบบโช้คมีตัวปรับค่าพรีโหลดแบบไฮดรอลิกซ์เพื่อให้ปรับค่าได้ง่ายตามน้ำหนักบรรทุก แม้ตอนขับขี่อยู่ก็สามารถปรับค่าได้
ล้อหลังที่ใหญ่น้นนอกจากทำให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้ไม่ค่อยดีแล้ว ยังทำให้การเลี้ยวตอบสนองไม่ค่อยดีอีกด้วย รวมไปถึงความเป็นแนวเส้นตรงที่ทำได้ยากตอนเราพยามปรับมุมเลี้ยวชดเชย แม้ยางรถ Pirelli นี้บนมอเตอร์ไซค์ Diavel จะทำให้การบังคับเลี้ยวดีกว่ามอเตอร์ไซค์คันอื่นๆที่ใส่ยางขนาด 240 มม แบบเดียวกัน แต่ไม่ว่าใครก็คงต้องบ่นเล็กน้อยว่าล้อใหญ่เทอะทะ ทำให้ความตล่องตัวนั้นลดหายไปบ้าง
มอเตอร์ไซค์ Diavel มีระบบหน้าปัทว์สองระดับที่ให้ข้อมูลออกมาได้มากมาย ส่วนที่ยึดติดกับแฮนด์รถจะเป็นหน้าจอแบบ gray-scale ที่แสดงข้อมูลควมเร็ว อุณหภูมิน้ำมัน นาฬิกา และความเร็วรอบแบบบาร์ ที่มาพร้อมไฟเตือนต่างๆเต็มแผง ส่วนจอภาพบนถังน้ำมันจะเป็นจอสีแบบ TFT พร้อมแสดงอุณหภูมิแวดล้อม GPI วัดระยะทริปสองชุด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทั้งค่าเฉลี่ยและค่าปัจจุบัน โหมดกำลังเครื่องยนต์ และการปรับแต่งค่า DTC และที่เหมือนมอเตอร์ไซค์ Yamaha หลายๆรุ่นก็คือ มอเตอร์ไซค์ Diavel จะมีตัวนับเมื่อมีการใช้ถังสำรอง เราสามารถทำตัวเลขได้ถึง 40 ไมล์ต่อแกลลอน ระหว่างการขับขี่กว่า 500 ไมล์ด้วยมอเตอร์ไซค์ Strada คันนี้
อีกลูกเล่นหนึ่งของ Diavel ก็คือระบบสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจโดยใช้เพียงหัววัดการอยู่ใกล้ (proximity sensor) นักทดสอบที่มักจะชอบบิดกุญแจอยู่บ่อยๆ อาจจะไม่ชอบเรื่องดังกล่าว แต่ระบบนี้ถือว่าสะดวกดีหากคุณขับคนเดียว แต่ใส่กุญแจไว้ในกระเป๋ากางเกงคุณก็ไม่ต้องเที่ยวเป็นกังวลในการล้วงหากุญแจอีกเลย สำหรับคนที่เป็นห่วงว่าการเข้าศูนย์บริการต้องทำบ่อยแค่ไหน ก็ควรจะทราบว่า Diavel นั้นมาพร้อมการวอรันตี 2 ปี และระยะเวลาในการปรับแต่งวาล์วนั้นถูกยืดไปเป็น 15,000 ไมล์
บทสรุป
การแปลงโฉมจาก Diavel เป็น Strada ครั้งนี้ถือเป็นการเคลียร์ภาพลักษณ์ที่ไม่ชัดเจนให้ชัดเจนและดึงดูดมากขึ้น มอไซค์คันนี้จะไม่ใช่เป็นมอไซค์แนว cruiser คันยักษ์อีกต่อไป สิ่งที่เสริมแต่งเข้าไปบน Diavel Strada นั้นทำให้สามารถเข้าหมวด สปอร์ท ทัวร์ริ่งได้สบายๆ ทำให้สามารถขับขี่ไกลๆได้สบายๆทั้งคนขับและผู้โดยสาร มันทำให้เราอยากจะแบบสัมภาระใส่กระเป๋าจุ 82 ลิตร เพื่อจะไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดอีกครั้ง
เอาหละครับมาดูเรื่องราคากัน ราตาขายปลีกตอนนี้ก็อยู่ที่ $19,495 หรือราวๆ 600,000 กว่าบาท ซึ่งถือว่าเยอะใช้ได้ แต่ลองไปเทียบรุ่นพื้นฐานอย่าง Street Glide ซึ่งตอนนี้วางขายอยู่ $20k กว่านิดๆ ในขณะที่คันนั้นมีระบบเครื่องเสียง GPS แต่จะไม่มีระบบ Traction Control ABS แถมทำควอเตอร์ไมล์ต่ำกว่า 11 วินาที และอีกอย่างคือ Street Glide นั้นจะเอามาขับยกล้อไม่ได้ เป็นคุณ คุณจะเลือกรุ่นไหนละครับ
เรียบเรียงจาก motorcycle.com
ads2