2014 Kawasaki Z1000SX รีวิวการขับขี่
2014 Kawasaki Z1000SX รีวิวมอเตอร์ไซค์ กับทดสอบการขับขี่
มอเตอรไซค์รุ่น Z1000SX ของ Kawasaki นั้นถือเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในประเทศอังกฤษ หลังจากได้ลองขี่แล้วผมจึงรู้ว่าทำไปถึงเป็นอย่างนั้น
มอเตอร์ไซค์ Z1000SX คันนี้เหมือนเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ย้อนไปยังวันเวลาที่ คำว่า Sport bike คือมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งเร็ว ขับง่าย พร้อมความสะดวกสบาย แต่ก็แน่นอนว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้นั้นล้ำหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีมากกว่าเมื่อ 10 หรือ 20 ปีที่แล้วสำหรับมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ อย่างรุ่นปี 2014 ก็จะมีระบบ Traction Control การตั้งค่าเครื่องยนต์ได้สองแบบ พร้อมทั้งระบบกันสะเทือนและเบรกใหม่
หลายๆคนอาจจะสนใจระบบอิเลคทรอนิกส์ว่าจะก้าวหน้าขนาดไหน แต่สำหรับมอเตอร์ไซค์แบบนี้แล้วระบบกล่องสัมภาระก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญเช่นกัน กล่องที่ใหญ่และดูไม่ค่อยสวยสำหรับรุ่นเก่าก่อนหน้านี้นั่นดูไม่ค่อยจะเข้ากันกับมอเตอร์ไซค์นัก ด้วยโครงสร้างของรถทำให้ Z1000SX รุ่นก่อนหน้านี้ดูประหลาดไปเลย คือมันดูนุ่มนวลเกินไปที่จะเป็นรถแนวสปอร์ท และดูน่าชังเกินไปที่จะเป็นรถแนวทัวร์เร่อ มาคราวนี้ทาง Kawasaki ก็ปรับปรุงใหม่จนทำให้มอเตอร์ไซค์แนว sport tourer คันนี้สมค่าที่ควรจะเป็นมากขึ้น
เมื่อประกอบกระเป๋าสัมภาระสองข้างเข้าด้วกันแล้วจะแคบกว่าเดิมอยู่ 4 นิ้ว ซึ่งจะติดตั้งโดยตรงเข้ากับราวจับผู้โดยสารและที่แขวนที่วางเท้า และอยู่ใกล้กับด้านหลังมากขึ้น ระบบกุญแจเป็นดอกเดียวกันไม่เหมือนกับรุ่นเก่า
การถอดกล่องออกก็แสนง่ายและไม่ทิ้งร่องรอยของกรอบหรือที่ยึดที่ไม่สวยงามเอาไว้ แต่ละกล่องก็จะใส่หมวกกันน้อคได้สบายๆ
ปีที่แล้วในอังกฤษมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จำนวน 35% นั้นขายไปพร้อมกับกล่องสัมภาระ ซึ่งราคาประมาณ 500 ปอนด์หรือราว 15,000 บาทสำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นก่อนหน้า ซึงทาง Kawasaki เองก็คาดว่ารอบนี้น่าเปอร์เซ็นต์น่าจะเพิ่มขึ้น ด้วยก็เพราะพอถอดกล่องออกแล้วมันก็ยังดูไม่น่าเกลียดเหมือนเมื่อก่อน
ทดสอบการขับขี่
สำหรับการบังคับเลี้ยวของมอเตอร์ไซค์ Z1000SX รุ่นใหม่นี้ถือว่าเบาและตอบสนองได้ดี ความรู้สึกจะไม่เหมือนเป็น ทัวร์เร่อเท่าไหร่ รุ่นเก่านั้นถูกโจมตีว่ากันสะเทือนหลังนั้นนุ่มเกินไป สำหรับรุ่นปี 2014 นี้แล้วจะมีโช้คหลังใหม่ ด้วยสปริงที่แข็งขึ้นและปรับค่าพรีโหลดจากระยะไกลได้ ขับแล้วรู้สึกแน่นและรถเป็นรถดี
เบรกคาลิบเปอร์ใหม่เป็นแบบโนโนบล้อค พร้อมออพชั่น ABS ทาง Kawasaki กล่าวว่าสามารถเบรกได้ด้วยนิ้วเดียว ซึ่งผมก็ไม่ขอเถียง
เครื่องจะเริ่มคำรามกระหึ่มเมื่อรอบแตะ 6000 รอบต่อนาทีทำให้คุณรู้ว่ากำลังขี่มอเตอร์ไซค์ซุบเปอร์ไบค์อยู่ ดามทีทาง Kawasaki กล่าวชี้แจง เนื่องจากข้อกำหนดทางด้านเสียงท่อไอเสีย ดังนั้นการที่จะมีเสียงดุดันกว่านี้คงทำได้เฉพาะเรื่อง air box เท่านั้น ดังนั้นทาง Kawasaki จึงได้จงใจออกแบบให้มีรูพิเศษตรงบริเวณ air box มาให้ ก่อนหน้านี้มีเพียงรูเดียว ตอนนี้ก็จะมีถึง 16 รูด้วยกัน
กำลังเครื่องยนต์ช่วงกลางและกำลังสูงสุดนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการปรับแต่งเครื่องยนต์ของทางทีม Kawasaki รุ่นปี 2013 นั้นมีแรงม้า 136bhp และแรงบิด 81.1 ปอนด์ฟุต ในขณะที่ตัวเลขสำหรับรุ่นใหม่นี้จะเป็น 140bhp และแรงบิด 81.8 ปอนด์ฟุต ซึ่งก็ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซค์ของ Yamaha R1 รุ่นปี 1998 มากนัก
แต่แรงผลักนั้นมหาศาลในช่วงรอบต่ำ จนเมื่อถึง 6000 รอบต่อนาที เครื่องสี่สูบเรียงก็จะเริ่มปล่อยกำลังมาเต็มที่ ขณะที่เสียงเครื่องยนต์ก็กระหึ่มขึ้นมา
ระบบ Traction Control มี 3 โหมดคือ “One” เป็นการที่ระบบ TC มีผลน้อยสุด ปล่อยให้ล้อหมุนฟรีบ้าง “Two” ก็ยอมให้หมุนบ้างแต่ล้อจะหยุดเร็วขึ้นส่วน “Three” นั้นจะเหมาะสำหรับถนนเปียกลื่น
ระบบนี้จะให้ชื่อว่า KTRC สำหรับคำเต็มคือ Kawasaki Traction Control โดยรุ่น ZX-6R 636 ก็มีระบบ KTRC แต่ก็ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาใช้สำหรับ Z1000SX ตามที่ทางหัวหน้าทีมจากญี่ปุ่นบอก
ระบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนระบบ TC บางระบบ เราจะสามารถรู้สึกได้ถึงการตัดรอบเครื่องลงมากกว่าที่จะรู้สึกได้บนมอเตอร์ไซค์อย่าง KTM 1190 Adventure ที่การทำงานของ TC นั้นจะแม่นยำและเงียบเชียบมาก
การทำงานก็คือระบบนี้จะยอมให้ล้อไถลไปเล็กน้อยภายใต้ความแรงของเครื่องยนต์ก่อนที่พากลับเข้ามาสู่เส้นทางเดิมก่อนที่ควบคุมไม่ได้ ขณะที่ผมลองขับมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมออกจากโค้ง ผมรู้สึกว่าล้อหลังไหลออกไปนิดนึงแล้วกลับมาที่เดิม ตอนแรกผมก็นึกว่าโอ้ยโชคดีที่เบาคันเร่งทัน แต่ความจริงแล้วระบบอิเลคทรอนิคส์มากกว่าที่ทำหน้าที่ของมันเอง
การออกตัวด้วยเกียร์หนึ่งอย่างแรงนั้น ล้อหน้าจะยกตัว ไฟระบบ KTRC ก็จะกระพริบและหยุดกระพริบเมื่อรถกลับมาที่เดิม มีเพียงกรณีเลือกค่าที่ 3 เท่านั้นที่รู้สึกรำคาญกับการทำงานของระบบอัตโนมัตินี้ภายใต้การเร่งอย่างแรง ก็เลยคิดว่าตัวเลือกนี้คงไม่เหมาะกับการออกตัวแรงๆเป็นแน่แท้
ส่วนการตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์มีให้เลือกสองค่าคือ L หมายถึง low หรือต่ำ และ F หมายถึง full หรือเต็มกำลัง โหมด L จะตัดกำลังเครื่องยนต์ออก 30% หรือได้แรงม้าออกมาที่ 98bhp ผมพบว่าสามารถทำได้เองก็แค่บิดคันเร่งให้น้อยลง อาจจะเป็นไปได้ว่าโหมดให้ตั้งค่าไว้สำหรับการขับที่นุ่มนวล มีคนซ้อนท้ายแล้วออกไปเที่ยวด้วยกัน ป้องการเผลอเรอบิดคันเร่งแรงจนคนซ้อนหงายหลังละมั้ง
สำหรับการซ้อนสองคนบน Z1000SX นั้นนั่งสบายกว่าที่มองเห็นเยอะ ที่นั่งวางไว้ดี หลังจากขับมาแล้วหลายๆชั่วโมงเท่านั้นผมถึงจะรู้สึกชาที่ก้น ท่านั่งตัวตรงผมอดคิดไม่ได้ว่าแฮนด์น่าจะโค้งๆและต่ำลงกว่านี้หน่อยโดยไม่เสียความสบายไป
ที่นั่งผู้โดยสารนั้นจะหนากว่าของคนขับประมาณ 10 มม และยังมี ออพชั่นกล่องบนพร้อมพนักพิงหลังให้เลือกอีกด้วย ก็ตามที่เห็นคือกล่องบนนั้นอาจจะถูกถอดออกได้อย่างง่ายๆด้วยการคลายน้อตเพียงสี่ตัว ทาง Kawasaki กล่าวว่าอาจจะใส่กุญแจคล้องเพิ่มได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้ถูกขโมย
บังลมสามารถปรับแต่งความสูงได้สามค่า การเปลี่ยนตำแหน่งนั้นทำได้ง่ายๆ แต่ต้องใช้สองมือ โดยการกดปุ่มกดที่อยู่ใต้นาฬิกา ที่ความสูงสูงสุดนั้นเหมือนจะยังไม่สูงพอที่จะลดเสียงลมปะทะได้ดีสำหรับคนสูงปานกลางอย่างผม แต่ต่ำกว่าคอลงมานั้นก็ทำงานได้ดี
โดยสรุปแล้ว Kawasaki Z1000SX ทำให้รู้สึกว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ททัวร์เร่อที่สมชื่อที่สุดแล้ว เหมือนมีสองแบบอยู่คันเดียวกัน ถ้าคุณต้องการมอเตอร์ไซค์ที่พร้อมบรรทุกผู้โดยสารและกระเป๋าสัมภาระไปเที่ยวในวันหยุด และยังคงแรงและเร็วพอที่ทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังขับระสปอร์ทอยู่ละก็ คันนี้คงจะเหมาะที่สุด
ราคา Kawasaki Z1000SX คันนี้วางขายในอังกฤษที่ราคา 9,299 ปอนด์ หรือราวๆ 460,000 บาท สำหรับราคาในไทยก็คงต้องรอดูกันต่อไปนะครับ
เรียบเรียงจาก Visordown.com
ads2