ล่าสุด

เมื่อใช้ชีวิตกับDucati Panigale 1 สัปดาห์

Ducati-1199-Panigale

5 อย่างที่ผมได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตกับ Ducati Panigale

หลังจากได้ทดสอบ Ducati 1199 Panigale ในสนามแข่งมาแล้ว ผมก็ลองนำรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ มาขับบนท้องถนนทั่วไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลของ Ducati ลองมาดูนะครับว่าผมค้นพบอะไรบ้าง

เพราะความสามารถและพละกำลังอันเหลือเฟือของ Panigale ทั้งรุ่น R และ S หากขับในสนามแข่งก็ย่อมได้รับความเร้าใจตามสไตล์ของรถใหญ่นี้ แต่เจ้าของรถส่วนใหญ่คงไม่ได้นำรถคันนี้ลงสนามแข่งทุกวัน เพราะต่างก็ต้องทำมาหากินใช่ไหมครับ

เมื่อคิดได้อย่างนั้นผลก็ลองไปขอยืม Panigale S มาเพื่อลองตระเวณขับไปตามท้องถนนทั่วไปซักหนึ่งสัปดาห์กับรถคันสีแดงอันสวยงามโดดเด่นนี้ และลองขับบนทางหลวงเพื่อทำความเร็ว เพื่อจะดูว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้จะไหลไปกับการจราจรอย่างไร

ต่อไปนี้คือ 5 ข้อที่ผมได้ประสบพบเจอจากการนำรถ Ducati Panigale คันนี้ไปขับตามท้องถนนทั่วไป

รถสวยแพงย่อมดึงดูดสายตา

เอาเป็นว่ารถมอเตอร์ไซค์ Ducati 1199 S คันนี้ราคาเกือบสองล้าน คนที่จะตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ได้ต้องรวยประมาณหนึ่ง เพราะราคาก็สองเท่าของมอเตอร์ไซค์ค่ายอื่น แถมหากเทียบกับรถยนต์แล้วละก็แพงกว่า แอคคอร์ด แคมรี่ เสียอีกเกือบจะซื้อบ้านเดี่ยวนอกเมืองได้หนึ่งหลังเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์เพียงคันเดียว

แต่นอกจากเรื่องราคาและความแรงแล้ว Ducati Panigale คือความปราถนาของนักบิดทุกคนที่อยากมีไว้ในโรงจอดรถ ด้วยความสวยงามของศิลปแห่งการออกแบบ ไม่ว่าจะขับไปไหนใครๆก็ต้องเหลียวมอง เทียบได้กับเวลาเราเห็นเฟอร์รารี่วิ่งอยู่บนถนน ก็ต้องมองกันจนสุดลูกตานั่นแหละครับ

ทุกอย่างแห่งความบึกบึน สวยงาม ศิลป รวมอยู่ในคันเดียวกันจากการออกแบบสไตล์อิตาเลี่ยน หากเราลืมเรื่องสเปคเครื่องออกไป จะพบว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้มันมีแรงดึงดูดในตัว ขี่มอเตอร์ไซค์คันนี้แล้วเหมือนมี ณเดช มานั่งซ้อนท้าย มันเป็นแรงดึงดูดที่ประมาณค่าเป็นเงินไม่ได้ สาวๆ จะมองกันเหลียวหลัง ชี้ชวนให้เพื่อนดู เหมือนว่ามอเตอร์ไซค์คันอื่นกลายเป็นไม่มีตัวตนไปเลย

ขนาดของรถเหมือนจะเล็กลง

หากเราเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้กับสนามแข่งใหญ่ๆ อย่างสนาม Formular 1 แล้วละก็ รถคันนี้ก็จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมที่จะวิ่งแสดงพลังความแรงไปรอบสนาม

แต่เมื่อเอารถมอเตอร์ไซค์ Ducati Panigale คันนี้มาขับบนถนนทั่วไปแล้วพบว่าความยิ่งใหญ่ของมอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกเทอะทะเลย ความคล่องตัวในการขับขี่ ทั้งเดี๋ยวบิดคันเร่ง เดี๋ยวเบรกไปท่ามกลางรถยนต์ มุด หลบหลีก แถมเร่งไปถึง 100 กม/ชม ใช้เวลาแค่เพียง 3 วินาที แถมยังสะดุดตา ตำรวจจราจรอีกต่างหาก

จะว่าไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนขับมากว่า ว่าการขับมอเตอร์ไซค์คันนี้ไปท่ามกลางการจราจรที่แออัดนั้นเป็นประสบการอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ หรือว่าเป็นฝันร้ายของรถแรงที่ต้องมาติดกับดักกับการจราจรที่แออัด หรือว่าจะเป็นทั้งสองอย่าง

เหมือนหุ่นจะไม่สมดุลย์กับความแรง

สิ่งที่ประหลาดอย่างหนึ่งที่พบเจอเมื่อเราขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็คือ ไม่อยากจะเชื่อว่ารถมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆนี้จะมีความแรงขนาด 1200cc แฝงอยู่ รูปทรงของมอเตอร์ไซค์ที่เล็กบาง ปราดเปรียว สามารถเหยียดขาได้อย่างสบาย น้ำหนักเพียงราวๆ 200 กิโลกรัมนั้นอยู่ระหว่างปลายเท้าทั้งสองอย่างหน้าอัศจรรย์ ทำให้รู้สึกว่าหนักเพียงแค่ครึ่งเดียวของความเป็นจริง และด้วยความสูงเบาะที่พอเหมาะ ทำให้พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์

และแม้ว่า Panigale คันนี้ได้ปรับปรุงเรื่องท่านั่งคนขับให้ดีกว่ากว่ารุ่นก่อนหน้า แต่การขับรถไปซัก 20 นาที่จะเริ่มทำให้รู้สึกชาไปทั่วข้อมือและหลัง แต่เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ชนะความมันส์ในการขับขี่ไปได้

ทั้งร้อนทั้งหนวกหู

จากจุดเริ่มต้นที่ลูกสูบเริ่มเคลื่อนที่ จนถึงวินาที่ที่บิดคันเร่ง เสียงเครื่องยนต์ก็จะคำรามยังกะสิงโตมีชีวิต จะทำให้อดไม่ได้ที่จะหันไปมองปลายท่อว่ามีตัวลดเสียงอยู่เหรือเปล่า เพราะปกติต้องซื้อออฟชั่นเพิ่มสำหรับปล่ายท่อแบบ silencer ซึ่งกลายเป็นว่ารถที่ยืมมานี่เป็นท่อธรรมดาซะเนี่ย โอ้วมายก๊อด

แม้ระบบป้องกันความร้อนของรุ่นปี 2013 นั้นจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ก็จะรู้ได้อย่างทันทีว่าหัวเขาคุณนั้นห่างไม่กี่เซ็นจากกระบอกสูบเหล่านั้น การที่อยู่ใกล้กับแหล่งพลังงานมหาศาลขนานั้นหลังจากขับไปซัก 20 นาที รับรองว่าจะรู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มที่ตามมา เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอกับการขับมอเตอร์ไซค์ ยิ่งเวลาติดไฟแดงแล้วรถเยอะๆ ลมก็ไม่มีแล้วละก็ ยังกะเตาอบ แต่หากเทียบกับสิ่งดึงดูดใจ และความเทห์ที่ทุกๆสายตาตรงไฟแดงกำลังมองมาทางคุณ เหมือนจะลืมไปถนัดตาเลยว่ากำลังนั่งอยู่บนเตาอบ

ขับไปเถอะไม่ต้องไปสนใจหน้าจอให้มากนัก

มีรถมอเตอร์ไซค์น้อยคันนักที่จะมีระบบอิเลคทรอนิคส์ที่แกร่งทุกสถานการณ์เหมือน Ducati Panigale โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น S และ R ที่ทุกอย่างปรับได้ด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์อย่าง ระบบกันสะเทือน ระบบการทรงตัว การใช้ engine brake ระบบ ABS โหมดการขับขี่ ทุกอย่างโชว์ให้เห็นบนหน้าจอ TFT อันสดใส ปรับแต่งค่าต่างๆ เหมือนอย่างกะเล่นวิดีโอเกม ถ้าเป็นรถของตัวเองก็คงจะมันส์น่าดู ก็จะจำได้ว่าถนนแบบไหนขับแบบไหน สถานการณ์เปลี่ยนก็ปรับแต่งไปสนุกจะตาย

สำหรับผมแล้วได้ขับ Panigale อยู่ 1 สัปดาห์นั้น ผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องปรับแต่งค่าอะไรมากมายเท่าไหร่ มัวแต่สนใจว่าจะขับมันยังไงซะมากกว่า เอาเป็นว่าที่ผมพบเจอมานั้น คุณเจอไปกี่ข้อ น้อยหรือมากกว่าที่ผมว่ามาไหมครับ

เรียบเรียงจาก motorcycles.about.com

ads2

Advertisment

20,001 views