BMW R nineT ทดสอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์
First Ride:BMW R nineT ทดสอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์
BMW นั้นมักจะออกมอเตอร์ไซค์รุ่นดีๆ ออกมาเสมอ แทบไม่ปล่อยให้คู่แข่งคนอื่นได้แซงหน้าเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา BMW ก็ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่น S1000R ซึงเป็นมอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตของรุ่นเต็มอย่าง S1000RR สปอร์ทไบค์ และตอนนี้คันล่าสุดคือ R nineT อันเป็นมอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตที่ออกแนวเรโทรมาทำให้ใครๆอยากเป็นเจ้าของกัน
ในช่วงต้นๆนั้น BMW ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่น nineT เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นชื่อที่ต้องการเน้นถึงการครบรอบ 90 ปีของ มอเตอร์ไซค์ BMW ดังนั้นตอนนี้เราก็รู้จักมอเตอร์ไซค์คันนี้กันดีว่าสวยขนาดไหน รู้ละเอียดไปถึงน้อตแทบทุกตัวของมอเตอร์ไซค์คันนี้มาแล้ว
มอเตอร์ไซค์ถูกตบแต่งด้วยอลูมิเนียมขัดมันวาว ไม่มีชิ้นส่วนพลาสติคให้เห็น ว่ากันในแง่ของสไตล์แล้วอาจจะทำให้นักออกแบบชาวอิตาเลี่ยนต้องมองแล้วมองอีก มอเตอร์ไซค์คันนี้โดดเด่นล้ำหน้ามอเตอร์ไซค์ดูคาติรุ่นต่างๆที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ มอเตอร์ไซค์อย่างรุ่น Superlegera และ Monster 1200 นั้นสวยดี แต่เหมือนจะดูอนุรักษ์นิยมไปหน่อย ดูคาติเขาใช้สีแดงในการทำให้มอเตอร์ไซค์ดูร้อนแรงแค่นั้น
ปกติแล้วไม่ใช่นิสัยของ BMW ที่จะทำมอเตอร์ไซค์ในแนว Cafe racer ออกมาดูดีขนาดนี้ ทางบริษัทเหมือนมีเป้าหมายที่เหนือกว่าปกติ โดยการพยายามหาจุดบรรจบใหม่ที่ความเป็นมอเตอร์ไซค์กับแฟชั่นความสวยงามมาบรรจบกันอย่างไม่ธรรมดา หรือว่ามอเตอร์ไซค์แนว cafe racer กำลังจะกลายเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับสไตล์ของมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบัน หรือว่าแค่เฮือกสุดท้ายของมันกันแน่ อีกไม่นานก็คงทราบกัน
แต่ไม่ว่าจะแนวไหน ทาง BMW ก็ได้คาดหวังที่จะให้ตลาดด้านนี้โตขึ้นและสามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่ายขึ้น ด้วยมอเตอร์ไซค์ที่ดูดีเหมือน Roland Sands คันนึงที่มาพร้อมกับความมั่นใจในการจัดจำหน่ายและให้บริการอันมีชื่อเสียงของ BMW
สร้างมอเตอร์ไซค์จากโรงรถของตัวเอง ถือเป็นแนวทางที่ฮอทฮิตสำหรับมอเตอร์ไซค์แนว cafer racer ดังนั้นมอเตอร์ไซค์ BMW nineT จึงได้ถูกออกแบบมาเหมือนเป็นโครงร่างพื้นฐานสำหรับการดัดแปลงให้ออกมาในรูปต่างๆ เครื่องยนต์จะวางตัวอยู่ในเฟรมท่อเหล็ก โดยจากจุดนี้เบาะผู้โดยสาร และซับเฟรมสามารถถอดออกได้ จากนี้คุณสามารถถอดประกอบส่วนต่างๆได้เองแทบจะทุกชิ้นส่วน
BMW ได้เปิดโอกาศให้ผู้อื่นได้ผลิตชิ้นส่วนที่จำเป็นต่างๆ อุปกรณ์ตกแต่งอื่นที่เป็นทางการมีอยู่อย่างเดียวคือท่อไอเสีย Akrapovic ที่สามารถจะเอามาแทนที่ท่อไอเสียแบบท่อคู่ที่มีมาให้กับรถได้ โดยการถอดซับเฟรมของเบาะนั่งผู้โดยสารออก
มอเตอร์ไซค์ที่ออกจากโรงงานชุดแรก 2,500 คันนั้นขายหมดแล้ว นั่นหมายถึงว่าหากสั่งซื้อตอนนี้ก็จะได้รับมอบสินค้าประมาณเดือนมิถุนายน ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า BMW กำลังมาถูกทางสำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ แต่ก็อดเกรงไม่ได้ว่า เมื่อมอเตอร์ไซค์คันนี้ดูสวยขนาดนี้ เราอาจจะผิดหวังในแง่ประสิทธิภาพในการขับขี่ของมันก็ได้
แต่เราก็ใช้เวลาไม่นานในการทดสอบว่าประสิทธิภาพของรถจะดีกว่าหน้าตาหรือเปล่า เครื่องยนต์คำรามกระหึ่มด้วยเสียงที่ดูแล้วเหมือนว่าจะไม่ผ่านข้อกำหนดด้านเสียงดังของ EU เสียเท่าไหร่ แค่บิดคันเร่งเล็กน้อยส่งผลให้เกิดแรงหมุนออกไปด้านข้างผ่านตัวถังจากเครื่องยนต์ขนาด 1170cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความรู้สึกนี้ดูเหมือนจะดีกว่ารุ่นล่าสุดที่ระบายความร้อนด้วยน้ำซะด้วยซ้ำ มอเตอร์ไซค์รุ่น nineT ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ทาง BMW กล่าวว่าการปรับแต่งนั้นจะผ่านข้อกำหนดด้านการปล่อยไปเสียภายในเส้นตายปี 2017 นี้ เพื่อทำให้สามารถวางจำหน่ายต่อไปได้
ทั้งเสียงและคุณสมบัติของเครื่องยนต์นั้นทำให้ nineT นั้นรู้สึกได้ว่ามีความดิบอยู่ในตัวเมื่อได้ขับขี่ แต่ไม่ถึงกับให้ความรู้สึกหยาบแบบเครื่องยนต์สมัยก่อนนะครับ
BMW เปิดตัวมอเตอร์ไซค์คันนี้ในสเปนพร้อมกับมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่คือ R1200 GS Adventure และ RT1200RT โดยทั้งสองรุ่นมีระบบ traction control โหมดการขับขี่หลายโหมดและการปรับแต่งกันสะเทือนด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ การมีระบบอิเลคทรอนิคส์ต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเรื่องไม่ดี แต่น่าจะเป็นการดีหากมีระบบเหล่านี้บนรุ่น nineT ด้วย
มอเตอร์ไซค์รุ่น nineT มีโหมดการขับขี่เพียงโหมดเดียวซึ่งให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ถือว่าสุดยอด ระบบกันสะเทือนนั้นแน่นและมั่นคงดี ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงดีขนาดนี้เพราะตะเกียบหน้านั้นเอามาจากรุ่น S1000RR แต่ตอนนี้ปรับค่าไม่ได้ ส่วนโช้คหลังนั้นปรับได้ทั้งค่าพรีโหลดและ rebound damping
ระบบอิเลคทรอนิคส์มีอยู่อย่างเดียวคือระบบ ABS ซึงถือว่าเป็นส่ิงที่ควรจะมี มอเตอร์ไซค์ nineT ใช้คาลิบเปอร์แบบโมโนบล้อคของ Brembo เหมือนกับรุ่น GS Adventure ที่นัก 260 กิโลกรัม ซึ่งในรุ่นนั้นมันก็มีพลังมากพอที่จะทำให้เบรกแรงๆได้ด้วยการการใช้นิ้วเดียวขยำก้านเบรก สำหรับรุ่น nineT ที่หนัก 222 กิโลกรัมนั้น อาจจะดูเหมือนว่าเบรกนั้นมีพลังมากเกิน แค่แต่เบาๆมันก็ทำให้ตะเกียบหน้าหยุดได้ชะงัด ไม่ใช่เพราะว่าตะเกียบจะนุ่มเกินไปหรอกนะครับ แต่เพราะพลังเบรกอันมหาศาลซะมากกว่า ต้องมีการปรับแต่งกันหลายรอบเพื่อให้สามารถแตะเบรกได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งสำหรับผมแล้วพบว่ายังกำเบรกมากเกินไปอยู่ดี
มอเตอร์ไซค์ nineT นั้นให้ความรู้สึกเบาและคล่องตัวดี การบังคับเลี้ยวนั้นแม่นยำ การตอบสนองของคันเร่งนั้นแหลมคม และให้ความรู้สึกสปอร์ทที่รอบสูง ที่รอบต่ำนั้นก็ขับได้ลื่นไหลดี บนถนนที่คดเคี้ยวแล้วคุณสามารถวิ่งเกียร์สูงๆได้สบาย ขับเข้าโค้งได้อย่างนิ่มนวลในแต่ละโค้งที่ความเร็วรอบต่ำกว่า 3,000 รอบต่อนาที แค่ตั้งใจบังคับรถให้วิ่งตรงเส้น ความเร็วในช่วงเข้าโค้ง และการตอบสนองของมอเตอร์ไซค์ nineT เท่านั้น
เมื่อคุณเจอทางตรง คุณจะประหลาดใจว่ามันก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าตามคำสั่งจากคันเร่ง ความแรงของเครื่องนั้นจะออกมาอย่างต่อเนื่องในลักษณะเส้นตรงในทุกช่วงความเร็วรอบจนถึงจุดสูงสุด เส้นแดงจะอยู่ที่ 8,500 รอบต่อนาที และชอบที่จะทำรอบอยู่แถวๆนั้น เสียงเครื่องยนต์ก็พร้อมไต่โน้ตไปจนถึงขั้นส่งเสียงคำรามออกมา เมื่อปิดคันเร่งแล้วรอสักครู่ก็จะได้ยินเสียงปะทุผ่านท่อ Akrapovic ออกมา เหมือนเป็นการไม่อยากหยุดพักของเครื่องยนต์พลักยักษ์เครื่องนี้
การขับขี่ก็ขับสบาย ท่วงท่านั่งก็เหมือนจะสมบูรณ์แบบสำหรับคนหุ่นอย่างผม การเอื้อมมือไปยังแฮนด์นั้นถือว่าเหมาะเจาะที่จะทำให้รองรับส่วนบนของร่างกายโดยไม่ต้องลงน้ำหนักไปบนแขนมากเกินไป อาจจะเป็นไปได้ว่าผมขับมอเตอร์ไซค์คันนี้ด้วยความมันส์จนลืมที่จะหาว่าจุดบกพร่องอยู่ตรงไหน
หลังจากการขับขี่ผ่านไปหลายชั่วโมง ขากลับมาโรงแรมบนถนนทางตรงสี่เลน ผมสังเกตได้ว่าเริ่มมีอาการเจ็บก้นจากเบาะนั่งที่บางของรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ cafe racer คันนี้ ซึ่งมีตราคำว่า nineT เย็บติดอยู่บนเบาะ แต่ผมก็คงจะต้องทนเจ็บบ้างเพื่อจะได้ขับมอเตอร์ไซค์สุดเทห์คันนี้ หากใครได้ตกแต่งโดยใส่แฟร์ริ่งให้กับมอเตอร์ไซค์คันนี้แล้วละก็ มันก็จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานได้ทุกที่ทุกโอกาสเลยก็เป็นได้ เบาะนั่งที่นูนในบางจุดนั้นจะมีช่องบรรจุสัมภาระอยู่ด้านล่าง ใหญ่เพียงพอที่จะใส่สัมภาระไว้หลบฝน หากต้องการพื้นที่มากกว่านี้ก็อาจจะต้องหาซื้อกระเป๋าครอบถังน้ำมันมาใช้งาน
BMW ได้พยายามเป็นอย่างมากที่จะบอกพวกเราว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่ใช่มอไซค์แนว retro แต่เป็นมอเตอร์ไซค์หน้าตาทันสมัยที่มีการเติมแต่งสไตล์ในรูปแบบเก่าเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าทาง BMW ไม่จำเป็นต้องมาแบ่งประเภทมอเตอร์ไซค์ให้เรา เพราะที่กล่าวมานั้นก็คือมอไซค์ retro ดีๆนี่เอง
จะว่าไปแล้้ว มอเตอร์ไซค์ nineT นั้นก็ออกมาในรูปลักษณ์ที่คุณคาดว่าควรจะเป็นสำหรับสิ่งทีมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2014 ควรจะเป็น แต่มาพร้อมกับลักษณะความขลังของสไตล์สมัยก่อนที่คุณอาจจะไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอ
ที่ผ่านมาผมเองจะไม่ค่อยชอบมอเตอร์ไซค์สไตล์ retro มากนัก เพราะคิดว่ามันมักจะต้องเสียอะไรไปบางอย่างเพื่อให้สไตล์ออกมาแบบนั้น แต่ด้วยราคาที่ประมาณ 600,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) ซึ่งราคาก็สูงกว่า S1000R อยู่แค่ประมาณหมื่นเดียว ดังนั้นผมก็คิดว่าคนที่จะเลือกมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เพื่อให้ได้มอไซค์แนวเรโทร ก็คงต้องยอมเสียอะไรบางอย่าง เช่นความเป็นสปอร์ทเพื่อแลกกับมัน แต่จะว่าไปแล้วมอเตอร์ไซค์ BMW nineT นั้นมีคุณสมบัติบางอย่างที่มอเตอร์ไซค์คันอื่นๆไม่มี เลยคิดว่าถ้าต้องยอมเสียอะไรไปเพื่อมอเตอร์ไซค์คันนี้ ผมก็ถือว่าคุ้มค่าละครับ
เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ข้อมูลและภาพจาก visordown.com
ads2