ล่าสุด

Suzuki Burgman 400 ABS รีวิวทดสอบมอไซค์

Suzuki Burgman 400 ABS

Suzuki Burgman 400 ABS

Suzuki Burgman 400 ABS รีวิวทดสอบมอไซค์

เมื่อไม่นานมานี้ทาง mocyclover ได้นำรีวิวทดสอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์ของ Suzuki Burgman 650 มาให้อ่านกันแล้วนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีข่าวใหม่ๆในวงการเนื่องจากต่างก็คงรองานเปิดตัวในช่วงปลายปีกัน เลยมีเวลาได้นำรีวิวมอเตอร์ไซค์ Burgman 400 ABS มาให้อ่านกันนะครับ

ยุคนี้มอเตอร์ไซค์แนวสกูีตเตอร์ต่างก็สลัดภาพเก่าๆที่ดูราคาถูกประสิทธิภาพจำกัด มาเป็นสไตล์ที่ดูสวยงามแถมวิ่งได้เร็วขึ้น บางคันเร็วเกือบ 200 กม/ชม กันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มอเตอร์ไซค์แนวสกู๊ตเตอร์มาพร้อมกับความสามารถเป็นรถที่ขับไปไหนมาไหนได้ทุกวัน เครื่องยนต์สี่จังหวะที่เงียบเชียบ ใช้งานง่าย พื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย และทุกอย่างรวมเป็นมอเตอร์ไซค์คันที่ดูหรูหรา เราจึงได้ถือโอกาสนำมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ที่มึยอดขายสูงสุดในอเมริกาคันนี้มาทดสอบกัน

มีอะไรใหม่

ก่อนอื่นเราก็คงเข้าใจกันดีนะครับว่า ไม่มีใครตัดสินใจปุ้บปั้บไปหาซื้อมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์มาขับแล้วขายมอเตอร์ไซค์คันเก่าออกไปหรอกนะครับ แต่การเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ซักคันนั้นมันเหมือนมีทางเลือก ขับสบาย และต้นทุนต่ำกว่าการเอารถยนต์ออกไปใช้ คุณสามารถบรรทุกของได้มาก ประหยัดน้ำมันและสนุกสนานไปกับบรรยากาศรอบข้างด้วยสองล้อเล็กคันนี้

ชาวยุโรปรู้จักมอเตอร์ไซค์แนวสกู๊ตเตอร์กันมานานแล้ว และมอไซค์สกู๊ตเตอร์ก็ถือกำเนิดมาจากย่านนี้อันเนื่องมาจากหลังสงครามโลกประชาชนต้องหายานพาหนะราคาถูกในการเดินทางไปไหนมาไหน และความรู้สึกนั้นก็มีมาจนถึงทุกวันนี้ เราจะเห็นแทบทุกเมืองในยุโรปจะเต็มไปด้วยมอไซค์แบบสกู๊ตเตอร์ ทั้งแก่ทั้งเด็กต่างก็ขับมันไปเรียน ไปทำงาน ไปซื้อของ และแม้แต่ท่องเที่ยว

แต่มอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์เก่าๆเสียงดังอย่าง Vespa และ Piaggios ก็อาจจะค่อยๆหายไปสิ่งที่มาแทนทีคือมอไซค์สกู๊ตเตอร์คันที่ใหญ่กว่าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าแถมดูไฮเทคกว่ามอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์เดิมๆที่เราคุ้นเคย นอกจากนี้แล้วยังวิ่งได้เร็วกว่าและอาจจะไม่มีอะไรคล้ายคลึงกับสกู๊ตเตอร์แนวเดิมยกเว้นรูปแบบการใช้งาน แต่แน่นอนว่าราคาก็ต้องสูงขึ้น

ภายใต้ตัวถังที่สวยงามของมอเตอร์ไซค์แนวสกู๊ตเตอร์ยุคใหม่นั้นจะมาพร้อมกับหลักการดั้งเดิม นั่นคือความสะดวกในการใช้งาน คล่องตัว และขับสบาย มอเตอร์ไซค์สกูีตเตอร์ทุกวันนี้ยังคงคอนเซ็ปเดิมต่างก็แต่เพียงเพิ่มความทันสมัยไฮเทค เงียบกว่าเก่า เร็วกว่าเก่า นิ่มกว่าเก่าแต่ก็ยังคงความสนุกสนานเมื่อได้ขับขี่อยู่เสมอ

มอเตอร์ไซค์ Suzuki Burgman 400 ABS ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของความก้าวไกลในการพัฒนามอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ในปัจจุบัน ภาพลักษณ์เก่าๆอย่างแฮนด์หนาๆ เบาะทรงประหลาดอาจจะหายไป และสิ่งที่มาแทนที่พบเห็นได้ใน Burgman 400 ABS คันนี้ก็จะเป็นดีไซค์ที่นำมาจากมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ทไบค์ของ Suzuki อย่างเช่นส่วนหน้าของรถที่มีไฟหน้าและไฟเลี้ยวฝังอยู่บนแฟรริ่งอย่างสวยงาม

หากมองผ่านๆคุณอาจจะคิดว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ทั่วไป แต่สำหรับเราแล้วมันดูเหมือนเป็นลูกผสมระหว่างมอเตอร์ไซค์ธรรมดากับสกู๊ตเตอร์ แต่สิ่งที่บ่งบอกความเป็นสกู๊ตเตอร์ก็คงเป็นเรื่องของเบาะนั่งและล้อขนาดเล็กอย่างล้อหน้าเพียง 14 นิ้วและล้อหลังขนาดเพียง 13 นิ้ว และหากมองดูด้านข้างของรถแล้วชัดเจนว่าเป็นมอไซค์สกู๊ตเตอร์ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป

แต่ก็ขอบอกว่าเป็นมอไซค์สกู๊ตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ระยะระหว่างล้อของเวสป้านั้นเพียง 50 นิ้ว แต่ Burgman คันนี้มีระยะระหว่างล้อถึง 62.4 นิ้วด้วยกัน ด้วยเป้าหมายเพื่อรองรับเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า เบาะนั่งและที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่กว่าอีกด้วย

Suzuki Burgman 400 ABS

พื้นที่เก็บสัมภาระนั้นถือว่าเหลือเฟือ วัดความจุได้มากกว่า 16 แกลลอนด้วยกัน ซึ่งจะติดตั้งอยู่รอบๆมอเตอร์ไซค์คันนี้อย่างลงตัว ด้านหน้าตรงตำแหน่งใต้แฮนด์จะมีช่องใส่ถุงมือพร้อมช่องปลั๊กไฟแบบกระแสสลับสำหรับไว้ชาร์ชโทรศัพท์ได้ และยังมีช่องอีกสองช่องแยกกันตรงบริเวณแผงคอที่อาจจะใส่กุญแจหรือกระเป๋าตังค์ได้ ฝาปิดดูเหมือนจะปิดยากนิดนึงแต่ก็ถือว่ายังมีประโยชน์ใช้ได้

ที่โดดเด่นก็คงเป็นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะ เมื่อยกเบาะขึ้นก็เห็นพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใส่กระเป๋าเอกสารได้เลยและเมื่อไปถึงที่หมายแล้วก็จัดเก็บหมวกกันน้อค เสื้อแจ้คเก็ต ถุงมือไว้ในช่องที่สามารถล้อคได้อย่างดี และยังมีไฟส่องสว่างที่เปิดโดยอัตโนมัติเมื่อคุณยกเบาะขึ้น ทำให้ไม่ต้องลำบากในที่มืดอีกต่อไป

ความจริงแล้วคุณสามารถใส่หมวกกันน้อคได้ถึงสองใบในช่องเก็บใต้เบาะได้เลย นั่นหมายถึงว่าเมื่อไปถึงที่หมายแล้วคุณก็ถอดทุกอย่างที่ต้องใช้ในการขับรถเก็บไว้ที่รถได้เลย แม้แต่กระเป๋าเป้ก็ยังพอที่จะเก็บลงไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ขอเสียคงเป็นเรื่องน้ำหนักรถที่ 438 ปอนด์ ซึ่งอาจจะมากกว่ามอเตอร์ไซค์คันใหญ่บางรุ่นเสียอีก และเมื่อมาคิดถึงว่านี่คือ Burgman พลังก็อาจจะไม่ถึงที่จะแบกน้ำหนักขนาดนี้

ด้วยเบาะนั่งที่สูงเพียง 28 นิ้ว คนขับส่วนใหญ่คงสามารถเอาเท้าทั้งสองข้างยันลงพื้นได้อย่างสบายๆเมื่อตอนรถหยุดนิ่ง เครื่องยนต์ขนาด 400cc นั้นติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำมาก จึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำการขับขี่ที่ความเร็วต่ำเลยอาจจะดูเก้ๆกังๆ ไปนิด ซึ่งไม่เหมือนกับมอไซค์สกูีตเตอร์แนวแมกซี่ทั้งหลายอย่าง Yamaha TMAX และพี่ใหญ่อย่าง Burgman 650cc ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เข้ากับสวิงอาร์มโดยตรงตามสไตล์ของมอไซค์แบบสกู๊ตเตอร์

นอกจากนี้แล้วยังมีแสตนด์ข้างและแสตนด์กลางพร้อมเบรกมือสำหรับไว้จอดรถในที่ชันอีกด้วย เบาะนั่งนั้นใหญ่พอที่จะนั่งซ้อนได้สบาย พนักหลังของคนขับสามารถปรับตำแหน่งได้ โดยสามารถเลื่อนไปหน้าหลังได้ 5 ตำแหน่งด้วยกันเลยทำให้เราหาจุดที่จะนั่งขับได้สบายๆได้เอง คนซ้อนก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องบ่นด้วยเบาะหลังที่มีรูปร่างพอดี พร้อมราวจับและที่วางเท้าที่เหมาะเจาะ

สำหรับเครื่องยนต์แล้วจะเป็นขนาด 400cc สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นเครื่องยนต์แบบ DOHC สี่จังหวะพร้อมระบบหัวฉีด ทาง Suzuki ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพเครื่องยนต์แต่เราได้ลองค้นหาข้อมูลเว็บไซท์ฝั่งยุโรปแล้วพบว่าแรงม้าน่าจะอยู่ที่ 33 แรงม้า และแรงบิดที่ 26 ปอนด์ฟุต ซึ่งสำหรับแล้วคิดว่าเพียงพอสำหรับมอเตอร์ไซค์คันนี้

ระบบส่งกำลังมาพร้อมกับเกียร์แบบ CVT นั่นหมายถีงไม่ต้องมีคันเกียร์และการส่งกำลังขั้นสุดท้ายก็เป็นระบบสายพาน การขับขี่ก็เพียงแค่บิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วก็บิดคันเร่ง แม้สกู๊ตเตอร์คันนี้จะดูใหญ่แต่ก็ัขับได้ง่ายมาก

ตะเกียบหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิคขนาด 41 มม ที่มีระยะยุบตัว 4.3 นิ้ว ล้อหลังเป็นโมโนโช้คสไตล์มอไซค์ทั้วไปมีระยะยุบตัว 3.9 นิ้วพร้อมค่าพรีโหลดปรับค่าได้

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคงเป็นระบบเบรกป้องกันล้อล้อคซึ่งเป็นสี่งจำเป็นสำหรับมอไซค์สกู๊ตเตอร์ เนื่องล้อมีขนาดเล็กแต่ต้องแบกน้ำหนักมาก การเบรกแรงๆอาจจะมีปัญหาทำให้ล้อหมุนฟรีได้ง่ายๆ เบรก ABS ก็เลยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ควรจะมี จานเบรกหน้าเป็นแบบจานคู่ขนาด 260 มม ด้านหลังเป็นจานเดี่ยวขนาด 210 มม คุณอาจจะต้องปรับสไตล์การขับขี่ให้เหมาะสมเพื่อการเบรกที่นุ่มนวลและหยุดได้อย่างแหลมคมยิ่งขึ้น

Suzuki Burgman 400 ABS

ผลการขับขี่

หากคุณคาดหวังการตอบสนองที่หวือหวาเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไปแล้วละก็ คุณอาจจะต้องผิดหวังกับมอไซค์ Burgman คันนี้ ความเป็นมอไซค์สกู๊ตเตอร์คือการใช้งานในการขับขี่ทั่วๆไป แน่นอนว่าขับสนุกแต่อย่าคาดหว้งว่าจะเหมือนมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตทีี่เราคุ้นเคย

อีกทั้งมันอาจจะใช้เวลานิดนึงในการสร้างความเคยชินกับการขับมอเตอร์ไซค์แนวสกู๊ตเตอร์ เนื่องจากไม่มีคลัช ไม่มีคันเกียร์ และนั่งในท่าที่สองเข่าอยู่ติดกัน ไม่ใช่ว่าจะนั่งไม่สบายนะครับเพียงแต่เราอาจจะไม่คุ้นชินเหมือนกับการขับมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ททั่วไป แต่ความจริงแล้วถือว่าน่าสนุกนะครับที่จะนังเอนหลังสบายๆและมีความสุขไปกับการขับขี่

สำหรับเงินที่จ่ายไปก็แลกกับความหรูหราที่ได้มา แผงหน้าปัทว์นั้นมีหัววัดและไฟแสดงค่าต่างๆอย่างกับที่พบเห็นได้ในรถยนต์ทั่วๆไป มีทั้งมาตรวัดระดับน้ำมัน มาตรวัดรอบและความเร็วรถ มาตราวัดอุณหภูมิภายนอกและเครื่องยนต์ และยังสามารถดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแค่เพียงกดปุ่ม ทุกอย่างได้รับการจัดวางอย่างลงตัว อ่านง่ายและใช้งานง่าย

ด้านหน้าจะมีพื้นที่เหลือมากจนท่านอาจจะสงสัยว่าทำไม Suzuki ไม่ใส่วิทยุหรือเครื่องเล่นซีดีหรือระบบ GPS มาให้ แต่นอนว่าหากมีสิ่งที่กล่าวมาแล้วคงจะดีไม่น้อยแต่ราคาก็คงเพิ่มตามขึ้นมาด้วย

บังลมหน้านั้นดูเหมือนเป็นผลลัพธ์จากการศึกษาผลทดสอบในอุโมงค์ลมมาอย่างดีของวิศวกรที่ออกแบบมอไซค์คันนี้มา การบังคับทิศทางลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ทำได้ดีลมส่วนใหญ่เหมือนจะผ่านเลยศรีษะคนขับไป นั่นหมายถึงว่าแม้จะนั่งท่าตรงในการขับรถคันนี้ท่านก็ไม่ต้องไปกังวลกับลมที่จะมาตีหมวกกันน้อคมาก แต่ข้อเสียคือคุณไม่อาจจะมองถนนผ่านบังลมได้ชัดเจนนัก ด้วยรูปร่างของมันประหลาดและทำให้ภาพออกมาบิดเบี้ยวไปบ้าง และคันที่เรานำมาทดสอบก็เหมือนบังลมจะสั่นมากไปหน่อย

และด้วยท่านั้งตรงทำให้คนอื่นเห็นคุณได้ชัดเจน และจากตำแหน่งเบาะคุณสามารถมองเห็นถนนด้านล่างได้ชัดเจนเช่นกัน มุมมองทางด้านหลังก็ไม่แล้วด้วยกระจกมองหลังขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ทั่วไปอาจจะดูเทอะทะแต่สำหรับสกู๊ตเตอร์คันนี้แล้วถือว่าเหมาะพอดี

สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือว่า เมื่อเราขับมอไซค์สกู๊ตเตอร์แนวหรูหราแล้ว เราอาจจะต้องเสียบางอย่างไป ด้วยน้ำหนักที่รวมคนขับ คนโดยสารและสัมภาระอาจจะแตะ 650 ปอนด์ มอเตอร์ไซค์ Suzuki Burgman คันนี้ก็ไม่ถือว่าเบาละครับ เครื่องยนต์ขนาด 400cc นั้นถือว่ายังเพียงพอที่จะพาเราวิ่งไปข้างหน้าได้ หรือจะขับแทรกเปลี่ยนเลนไปมา ที่ด้วยช่วงหลังที่ใหญ่และสูงคุณอาจจะต้องกะจังหวะให้ดีๆ

การขับแบบบิดแล้วไปนั้นลื่นไหลและให้อัตราเร่งที่ดี และเข้าใจได้เลยว่าทำไมถึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง แต่คุณอาจจะเริ่มพบกับปัญหาหากต้องการทำความเร็วบนทางด่วน ไปหนะไปได้แต่อาจจะไม่ลื่นไหลเหมือนมอไซค์ทั่วไป เพราะแม้ว่าการขับขี่ยังนิ่มนวลและตอบสนองดี แต่เครื่องยนต์ก็จะเริ่มออกอาการสั่นเมื่อความเร็วเริ่มมากกว่า 100 กม/ชม ไม่ใช่แรงไม่พอนะครับ แต่ให้ความรู้สึกว่าตอนเร่งแซงพลังน่าจะมากกว่านี้ซักหน่อย

การขับระยะทางไกลอาจจะทำไม่ได้ดีนักบนทางด่วน หากต้องขับแบบนั้นบ่อยแนะนำว่าให้หันไปหารุ่น 600cc ดีกว่า แต่ราคาก็อาจจะเพิ่มมาอีกหลายตังค์อยู่ แต่เครื่องยนต์ 400cc นี้ก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับการขับขี่ทั่วๆไปในเมือง หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่การขับบนทางด่วนอาจจะมีข้อจำกัดบ้าง แต่โดยรวมถือว่าขับขี่ได้ดี การบังคับเลี้ยวทำได้แม่นยำแม้ว่าล้อหน้าจะเล็ก และการควบคุมรถที่ความเร็วต่ำก็ง่ายพอๆกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงขึ้น

การเข้าโค้งก็เอียงตัวได้ดีแต่อย่าเอียงมากไม่งั้นสแตนด์กลางก็จะครูดกับพื้นเอาได้ การเข้าโค้งเรียบที่ความเร็วนั้น Burgman 400 ทำได้ดี ทุกอย่างลงตัว แต่โค้งที่แคบอาจจะทำได้ยากขึ้นและคุณจะเริ่มพบว่า Burgman นี้ไม่มีความคล่องตัวเหมือนมอไซค์สกูีตเตอร์คันเล็ก ด้วยเพราะระยะระหว่างล้อที่ยาวกว่านั่นเอง

อัตราเร่งนั้นทำได้ดีจนถึงความเร็ว 80 กม/ชม แต่เนื่องจากไม่ใช่มอไซค์สปอร์ทที่จะทำความเร็วได้สูงๆ เราพบว่าที่ความเร็ว 120 กม/ชม นั้นถือว่าสุดๆแล้วที่จะวิ่งได้ บางคนบอกว่าสามารถทำได้ถึง 160 กม/ชม ไม่ใช่เราจะไม่เชื่อนะครับ แต่แค่ไม่อยากลอง

การขับในเมืองนั้นถือว่าไหลไปกับการจราจรได้ดี ที่ความเร็ว 80 กม/ชม นั้นถือว่าเหมาะสมสุด ให้ความคล่องตัวในระดับนึง และเครื่องยนต์ยังเงียบ ส่วนที่ดีที่สุดคงน่าจะเป็นเรื่องการประหยัดน้ำมัน แม้เครื่องจะมีขนาด 400cc และต้องทำงานหนักบ้างในช่วงปลาย แต่ที่ความเร็วต่ำกว่า 80 กม/ชม นั้นถือว่ากินน้ำมันน้อยมาก ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะขนาดถังน้ำมันจุเพียง 3.6 แกลลลอน ซึ่งหากเป็นมอไซค์ขนาดกลางทั่วไปคงวิ่งได้ไม่เกิน 240 กิโลเมตร แต่เจ้า Burgman คันนี้เราเห็นตัวเลขการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 50 ถีง 60 ไมล์ต่อแกลลอนสำหรับการวิ่งรอบๆเมือง นั่นหมายถึงอาจจะวิ่งได้ถึง 320 กม ต่อน้ำมันหนึ่งถังเลยทีเดียว

จากประมาณการที่ว่าคนส่วนใหญ่อาศัยห่างจากที่ทำงานประมาณ 16 กิโลเมตร ในทางทฤษฏีแล้วคุณสามารถขับรถคันนี้ไปทำงานแล้วยังพกโน๊ตบุ้คหรือกระเป๋าเอกสารไปได้ด้วย เมื่อคุณถึงที่ทำงานก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใส่มาเพื่อขับรถไว้ใต้เบาะ เติมน้ำมันอาทิตย์ละครั้ง และแต่ละครั้งที่เติมก็ไม่ต้องจ่ายมากอีกด้วย

จุดเด่น

Suzuki Burgman เป็นมอไซค์ที่เหมาะเจาะ ประหยัด ใช้ทดแทนรถยนตได้สำหรับการวิ่งรอบๆเมือง หรือไปทำงาน พื้นที่เก็บของเหลือเฟือ ฝีมือการผลิตที่ปราณีต อัตราการประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม

อาจจะอยู่กลางๆระหว่างมอไซค์ทั่วไปกับสกู๊ตเตอร์ แต่ประหยัดกว่า ขับขี่สบายกว่าในการเดินทางจาก A ไป B ไม่ยุ่งยาก คาดเดาได้ทุกการขับขี่

จุดด้อย

ไม่มีอะไรให้ติติงมากนัก แต่อาจจะลำบากนิดนึงเวลาเพื่อนถามว่าทำไมซื้อมอเตอร์ไซค์แนวนี้ เครื่องยนต์ 400cc อาจจะเริ่มสั่นเมื่อวิ่งที่ความเร็วสูง แสดงว่าเหมาะสำหรับการใช้ในเมืองมากกว่าวิ่งบนทางหลวง บังลมหน้าแม้จะบังลมได้ดีแต่การมองผ่านอาจจะทำให้ภาพข้างหน้าบิดเบี้ยวบ้าง

ฝีมือในการผลิตทุกอย่างดีดียกเว้นฝาปิดตรงช่องเก็บของด้านหน้าที่ดูไม่เหมาะที่จะมาอยู่บนรถมอไซค์ Suzuki Burgman ที่สวยหรูคันนี้

ราคา

มอไซค์ Suzuki Burgman 400 ABS คันนี้ราคาวางขายอยู่ในอเมริกาที่ $7899 หรือประมาณ 230,000 บาท ซึ่งถือว่าเหมาะสมหากคุณต้องการมอไซค์สกู๊ตเตอร์คันใหญ่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครับ ขับง่าย สบาย แต่หากต้องการประสิทธิภาพสูงกว่านี้อาจจะจ่ายเงินเพิ่มอีก $3000 หรือราว 90,000 บาท เปลี่ยนเป็นตัว Burgman 650 ABS ก็ได้

หรือคุณอาจจะไปมองเจ้า Honda Silver Wing ที่ราคา $9270 ก็ได้ ซึ่งจะได้เครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าและสเป็คที่ต่างจาก Burgman เยอะ หรือจะหันไปมองเจ้าแห่งสกู๊ตเตอร์อย่าง Vespa GTS3000 Super Sport SE ($6399) ซึ่งคุณจะได้สไตล์แบบอิตาลี แต่เครื่องยนต์อาจจะเล็กลงไปอุปกรณ์ต่างๆก็อาจจะน้อยลงบ้าง

ผลสรุป

ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ปกติแล้วไม่มีใครเลิกขับมอไซค์ปกติแล้วหันมาหามอไซค์แนวสกู๊ตเตอร์หรอกนะครับ แต่เจ้า Suzuki Burgman 400 นี้ทำให้เป็นไปได้ที่จะเป็นรถที่ใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเหตุผลในแง่อื่น

อาจจะใช้แทนรถยนต์ในการเดินทางช่วงสั้นๆไปจับจ่ายซื้อของ หรือเดินทางไปทำงานในวันที่อากาศดี ขับได้คล่องแคล่วไปท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด พาคุณไปทำงานได้อย่างประหยัดค่าน้ำมัน และที่สำคัณขับรถสองล้อให้ความรู้สึกสัมผัสกับธรรมชาดิมากกว่ารถยนต์ตั้งเยอะ

คะแนนที่ให้ 7 เต็ม 10

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก rideapart.com

ads2

Advertisment

21,541 views