รีวิว มอเตอร์ไซค์ Ducati Streetfighter 848
รีวิวมอเตอร์ไซค์ 2013 Ducati Streetfighter 848
รถมอเตอร์ไซค์แบบเนคเก็ตนั้นมีเสน่ห์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว เครื่องแน่น ช่วงล่างหนึบ หุ่นสวย แต่หากคุณต้องการคุณสมบัติแบบ supersport แล้วละก็ Ducat Streetfighter 848 อาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
มีอะไรใหม่มาให้เล่น
มอเตอร์ไซค์ Ducati Streetfighter 848 คันนี้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับสบาย ทำความเร็วได้บนท้องถนนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือถนนในป่าเขาที่ชันและคดเคี้ยว แม้รถแนว naked นี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในระหว่างการแปลงจากฟูลแฟรริ่งให้เป็นเนคเก็ดนั้นมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปอาจจะเสียเรื่องความสามารถในการขับขี่หรือประสิทธิภาพของรถไป แต่คันนี้อาจจะไม่ใช่
มอเตอร์ไซค์ Streetfigther 848 คันนี้ไม่ใช่ 848 Evo ที่เอาแฟรริ่งออกแล้วใส่ high bar เข้าไป (ซึ่งความจริงก็ไม่ได้เห็นว่าจะสูงตรงไหน) แต่จริงๆแล้วเป็นมอเตอร์ไซค์ Streetfigther 1098 ที่มีเครื่องยนต์ใหม่ ระบบกันสะเทือนจาก Ducati Monster 110 และมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอื่นๆอีกเล็กน้อยเพื่อให้การขับขี่นั้่นง่ายขึ้นและดูดีขึ้ด้วย
แทนที่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ Supertsport ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสูบคู่ขนาด 140 แรงม้า แต่เจ้า Streetfighter ตัวนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 849.4 cc ของ Testastretta 11 องศา ที่ทำให้ระยะการบำรุงรักษาของ Multistrada 1200 และ Diavel นั้นห่างช่วงกันถึง 24,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ส่วนตัวเลข 11 องศานั้นไม่ใช่มุมของกระบอกสูบนะครับแต่เป็นมุมการซ้อนทับกันระหว่างวาล์วไอดีและวาล์วไอเสีย
ประเด็นที่กล่าวมาและประเด็นอื่นๆที่ได้รับการปรับปรุงทำให้เป็นการเน้นหนักในแง่ของแรงบิดเวลาเดินรอบต่ำ และการส่งกำลังอย่างลื่นไหลของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งกำลังให้ออกมาที่ความเร็วรอบสูง Streetfighter ตัวนี้ให้กำลังม้าที่ 130 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิด 69 ปอนด์ฟุต ที่ 9,500 รอบต่อนาที แต่อย่าไปหลงประเด็นกับค่าสูงสุดทั้งสองนะครับ มอเตอร์ไซค์คันนี้ให้แรงบิดที่ดีตลอดทุกช่วงความเร็วรอบเลยนะครับลองทดสอบดูเองแล้วจะรู้
ในประเด็นเรื่องระบบกันสะเทือนนั้นจะนำของ Monster 1100 มาใช้ โดยเป็นก้ามหน้า Marzocchi และโมโนช้อคของ Sachs ซึ่งปรับค่าได้เฉพาะค่าพรีโหลดและคอมเพรสชั่นแดมป์ปิ้งเท่านั้น เรทของสปริงหน้าและหลังนั้นใช้ได้ดีแต่เหมือนว่าค่อของแดมป์ปิ้งกรณีการอัดหรือคลายนั้นไม่ค่อยเพียงพอ ลองปรับค่าโช้คแล้วก็พอจะช่วยได้ แต่ที่สิ่งที่ขาดไปก็เป็นเรื่องที่จะปรับค่ายังไงไม่ให้โชคมันเด้งดึ๋งเกินเวลาเจอเนิน ไม่งั้นเดวโดนเหวี่ยงลงจากรถได้ง่ายๆ ซึ่งหากมอไซค์ไม่ตั้งค่าแดมป์ปิ้งให้เหมาะสมจะทำให้สปริงแข็งๆนั้นโยกเรากับรถกันสนุกหละครับ
ระบบเบรกของ Streetfighter ก็เอาของ 848 Evo มาใช้ นั่นคือคาลิปเปอร์แบบโมโนบล้อกของ Brembo ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะให้พลังหยุดอย่างเหลือเฟือและให้ความรู้สึกในการเบรกที่แม่นยำ ระยะระหว่างล้ออยู่ที่ 58.1 นิ้ว น้ำหนักรถก็เพียง 169 กิโลกรัม เลยเป็นรถที่ปราดเปรียวและมีความเสถียร การบังคับเลี้ยวนั่นแม่นยำการตอบสนองของยางหน้าและยางหลังก็ยอดเยี่ยม
ระบบแสดงผลด้วย LED สีสด ในมุมมองที่พอเหมาะ หุ่นของรถก็ดูสะอาดตากว่า Streetfighter 1098 แม้ผมจะไม่สาวกของ Ducati ซักเท่าไหร่แต่เห็นมอเตอร์ไซค์คันนี้แล้วขอบอกว่าชอบมาก เส้นสายคม ผิววัสดุดูแข็งแกร่ง ไม่เวอร์ไปกับกราฟฟิคหยาบๆ และมอเตอร์ไซค์น้อยคันนักที่สีเหลืองแล้วจะดูสวยงามแบบนี้
มอเตอร์ไซค์คันนี้มาพร้อมกับระบบ traction control 8 ระดับด้วกัน พร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลของ Ducati ทำให้ผู้ขับขี่สามารถดาวโหลดข้อมูลใส่ใน USB ได้ทันที
ยางรถมาพร้อมกับ Pirelli Diablo Rosso Corso ซึ่งถือว่าดีมากๆ เป็นยางที่เรามักจะใส่ให้กับมอเตอร์ไซค์เพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้น จากที่ได้เห็นรถ OEM ญี่ปุ่นหลายๆยี่ห้อใส่ยางอะไรเข้าไปก็ไม่รู้ ก็ขอนับถือว่า Ducati กล้าที่จะให้เจ้าของรถได้สัมผัสถึงความสามารถของมอเตอร์ไซค์อย่างเต็มที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปหาที่เปลี่ยนยาง เพราะยาง Pirelli แบบนี้หมายถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานและเกาะถนนเยี่ยมแม้สภาพถนนที่เปียกลื่น
ภาพประกอบจาก rideapart.com
สรุปว่ามีอะไรดี
แม้ว่าระบบกันสะเทือนจะด้อยลงมาหน่อย ระบบอากาศพลศาสตร์อาจจะสู้ฟูลแฟรริ่งไม่ได้ และเครื่องยนต์อาจจะเล็กไปนิด นั่นก็เพราะเป็น Streetfighter 848 หากเจอถนนขรุขระอาจจะทำให้กันสะเทือนทำงานหนักแต่ไม่ใช่ว่าจะควบคุมรถไม่ได้ เรื่องระบบกันสะเทือนนี้คิดว่า Ducati คงมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ได้มาแบบนี้ เพราะแม้จะปรับค่าอะไรไม่ได้มาก แต่การขับขี่นั้นมีความปราดเปรียวพอตัว การเลี้ยวหรือเปลี่ยนไลน์การขับขี่ระหว่างเข้าโค้งนั้นทำได้เร็วและดีกว่ารถ supersport 600 แต่ยังคงความเสถียรไว้อีกด้วย การขับขี่บนทางชันและคดเคี้ยวนั้นถือว่าทำได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว
ส่วนในเรื่องกำลังเครื่องยนต์อาจจะรู้สึกแบนราบไปหน่อยเมื่อเทียบกับ 848 Evo แต่เมื่อคุณก้าวพ้นเรื่องการขาดพลังเครื่องแบบแหลมคมไปได้ คุณจะพบว่าแรงบิดที่เหลือเฟือตลอดช่วงนั้นเหมาะสำหรับการเข้าและออกจากโค้งได้เป็นอย่างดี ในโลกความเป็นจริงการขับเร็วไม่ใช่การบิดอย่างเต็มที่เมื่อหลุดโค้งออกมา แต่เป็นเรื่องของการรักษาระดับความเร็วเอาไว้ไม่ว่าจะเข้าโค้งเล็กหรือโค้งใหญ่ไม่เว้นแม้โค้งหักศอก สถานการณ์เหล่านี้มากกว่าที่เราต้องการแรงบิดที่ต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว และมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ถือว่าทำได้ดี
อะไรที่ไม่ดี
มอเตอร์ไซค์ Streetfighter 848 คันใหม่นี้ความสูงของแฮนด์เพิ่มขึ้น 20 มม และที่วางเท้ากว้างกว่าเดิมครึ่งนิ้ว ความสูงที่เพิ่มขึ้น 20 มม ช่วยได้มาก แต่ก็ยังถือว่าต่ำไปทำให้เจ็บข้อมือไม่ว่าจะขับในเมือง บนทางหลวง หรือแม้ที่การขับบนถนนชันและคดเคี้ยว
ที่วางเท้าก็เหมือนๆกับ Ducati คันอื่นๆ คือขาดรอยหยักและเหมือนจะวางชิดเข้าข้างในมากไปเวลาสวมรองเท้าบูทแล้วเหมือนจะเหยียบได้ไม่เต็ม ปัญหาคือเท้าลื่นหลุดจากที่วางเท้าบ่อยเพราะมันลื่นไป และหากเอียงตัวมากๆ เท้าก็ลื่นหลุดบ่อยเช่นกัน ด้านขวารถจะมีแผ่นพลาสติคสีดำขนาดใหญ่ที่คอยปกป้องไม่ให้ความร้อนจากท่อไอเสียมาทำอะไรกะรองเท้าคุณ แต่ผลคือมันจะชนกับส้นเท้า นั่นหมายถึงจะวางเท้าก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ การขับในเมืองก็เลยแสนจะทรมานยิ่งนัก
ผลสรุป
ถ้าคุณมองหามอเตอร์ไซค์ที่อยากจะไปขับเล่นตามป่าเขา หรือถนนคดเคี้ยวแล้วละก็ มอเตอร์ไซค์คันนี้จะทำได้ดี เพราะน้ำหนักเบา ปราดเปรียว แม้นักบิดมือใหม่ก็จะสนุกกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์คันนี้ เหมาะสำหรับเป็นมอเตอร์ไซค์คันถัดไปของคนที่เล่น SV650 หรือ Monster อยู่แล้ว หรือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเร็วแล้วเบื่อหน่ายกับการเอารถที่วิ่งในสนามแข่งมาวิ่งบนท้องถนนทั่วไป เพราะในโลกความเป็นจริง โค้งบนถนนจริงนั้นมันท้าทายกว่าโค้งที่ราบเรียบในสนามแข่งเยอะ ถ้าชอบแบบหลังแล้วละก็มอเตอร์ไซค์คันนี้เหมาะกับคุณมาก
สำหรับ ราคามอเตอร์ไซค์คันนี้วางขายในไทยอยู่ที่ 868,000 บาท
เรียบเรียงจาก rideapart.com
ads2