10 อย่างที่ไม่มีใครบอกก่อนจะมาเป็นนักบิด
10 อย่างที่ไม่มีใครบอกคุณ ก่อนที่คุณจะผันตัวมาเป็นนักบิด
พร้อมหรือยังสำหรับการที่จะมาขับมอเตอร์ไซค์
หลังจากคุณเก็บเงินมานานจนซื้อ Bigbike ได้คันนึง คุณก็เริ่มสนุกกับการสวมเสื้อหนัง สวมถุงมือ รองเท้าบูทแล้วสนุกกับการขับขี่ท่องเที่ยวไปทั่ว แต่มีหลายอย่างที่ไม่มีใครบอกคุณมาก่อนว่าคุณจะเจอ ผมก็เลยขอรวบรวมไว้ตรงนี้สำหรับสิ่งที่นักบิดหน้าใหม่ไม่คาดคิดมาก่อนและไม่เคยไม่ใครบอก
1. แมลงตัวใหญ่และสัตว์สี่ขา
ความจริงขับรถในบ้านเราก็เป็นเรื่องปกติหละครับที่จะพบเจอสิ่งเหล่านี้ แต่หากเราขับแต่รถยนต์มาก่อน เราะจะไม่ค่อยกังวลเรื่องแมลงเท่าไหร่ แต่สัตว์สี่ขาอย่างสุนัขก็พอจะพบเจออยู่บ้าง ก็แค่ชลอๆ แล้วคาดเดาว่ามันจะไปทางไหน
แต่พอมาขับมอเตอร์ไซค์ แมลงตัวใหญ่อย่างผึ้งนี่หากอยู่ในสวนดอกไม้ก็ดูสวยดี หากเราไม่ไปยุ่งกับมัน มันก็ไม่มาต่อยเราหรอก แต่หากเราขับมอเตอร์ไซค์แล้วขับไปสวนทางกับมันละก็ กระสุนดีๆนี่เอง ความเร็วซัก 20 กม/ชม หากมีผึ้งมาชนส่วนที่ไม่มีเสื้อปกปิด ก็เหมือนโดยยิงด้วยกระสุนยาง และเลวร้ายไปกว่านั้นผึ้งก็อาจจะต่อย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริเวณใบหน้าเพราะผึ้งดันเข้ามาติดกับอยู่ในหมวก
ยิ่งหากขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรแอดอัดแล้วละก็จะเหมือนฝันร้ายเพราะกว่าหาที่หยุดรถได้หน้าก็คงเริ่มบวมไปแล้ว การขับรถชมป่าเขาบ่อยๆ จะเป็นโอกาสให้ผึ้งเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้น แถมผึ้งนั้นเก่งในเรื่องการหาช่องทางเข้ามาในเสื้อเราจนได้
ส่วนเรื่องสัตว์นั้นชอบทำตัวเป็นกามิกาเซ่เข้าใส่นักบิดเสมอ สุนัขบนทางหลวงนั้นจะเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป มันมักจะรออยู่ข้างถนน จนเราใกล้จะถึงจุดที่มันยืนนั่นแหละมันถึงจะออกมา ถึงตอนนั้นก็สายเสียแล้วที่เราจะเบรกหรือหักหลบมันพ้น สำหรับวัวควายนั้นไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะยืนนิ่งกินหญ้าอย่างสบายใจ แต่ลูกวัวนี่ซิ ยิ่งตัวเล็กยิ่งแอ้คทีพกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆฝูงวัวให้ใจหายใจคว่ำเวลาขับผ่าน
และสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุดคือการขับผ่านไปตามบ้านเรือนแล้วเจอสุนัขจรจัด มันจะวิ่งแข่งกับคุณไปจนหมดแรงโน่นเลยทีเดียว
2 คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญยิ่งกว่ากรมอุตุ
ลืมไปได้เลยเรื่องว่าต้องดูข่าวพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน เพราะตัวคุณเองนั่นแหละพัฒนาความสามารถมาอีกขั้นจนสามารถคาดคะเน สภาพอากาศได้อย่างแม่นยำ แค่ดูเมฆ เอาฝ่ามือวัดความเร็วลม ก็บอกได้แล้วว่าฝนจะตกตอนไหน เพราะสภาพอากาศจะมีความสำคัญต่อคุณมาก
หากขับรถไปทำงานเมื่อคุณเห็นเมฆทมึนมาตอนเย็นคุณก็เดาได้แล้วว่าจะถึงบ้านก่อนฝนตกหรือไม่ คุณเริ่มแต่งตัวตอนไหน เลือกเส้นทาง และจะขับเร็วเท่าไหร่ดี เพื่อที่จะกลับบ้านให้ทันเวลา
หรือว่าคุณจะเลือกยางแบบไหนไปงานแข่งรถอาทิตย์หน้าดี เพราะลงขันไปแล้วเอาเงินคืนไม่ได้ คุณเลยกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพยากรณ์อากาศไปเลย
3 เลิกพูดถึงทางตรงไปได้เลย
ก่อนที่จะมีรถมอเตอร์ไซค์ คุณมักจะหาเส้นทางที่เร็วและตรงที่สุดเพราะเบื่อรถติด สำหรับการขับรถยนต์ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว แต่เมื่ออยู่บนมอเตอร์ไซค์ คุณก็พร้อมที่จะขับอ้อม 100 กิโลเมตรเพื่อที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางเดียวกัน ระหว่างทางก็แวะโน่นนี่นั่นสบายอารมณ์ คุณจะพบว่าคุณสามารถขับรถผ่านทั่วทุกอำเภอระหว่างทางจากที่ทำงานไปบ้าน และเส้นทางแทบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน บางเส้นทางคุณอาจจะไม่มีทางที่จะขับผ่านเลยในชีวิตหากไม่ใช่ด้วยมอเตอร์ไซค์ บางทีบอกที่บ้านว่าจะออกไปขับรถเล่นหน่อย เผลอๆ อีกหลายวันกว่าจะกลับถึง แถมบอกไม่ถูกอีกว่าไปไหนมาบ้าง
4. การซ่อมถนนที่เต็มไปด้วยแผ่นเหล็ก
อันนี้สำหรับนักบิดในเมืองหลวงที่การจราจรหนาแน่น การก่อสร้างหรือซ่อมถนนต้องไม่เสียพื้นที่จราจรมาก จึงมีการนำแผ่นเหล็กมาปูให้รถวิ่งไปก่อนระหว่างการก่อสร้าง การขับรถผ่านแผ่นเหล็กเหล่านี้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ แต่หากเจอตามทางแยกที่คุณต้องรอไฟแดงแล้วละก็ หากฝนตกละก็จะกลายเป็นเหมือนลานสเก็ตเลยทีเดียว จะวางเท้าลงเพื่อรอไฟแดงมันก็ลื่นเสียจนแทบหัวทิ่ม หากต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวาบนแผ่นเหล็กตามทางแยก ก็แทบจะลงไปนอนวัดพื้นทุกราย
5 เพื่อนและคนแปลกหน้า
เก็บเงินมานานเพื่อนไม่เคยมาหา แต่พอได้มอเตอร์ไซค์คันสวยมาเท่านั้นแหละ ไม่รู้เพื่อนมาจากไหนกัน ต่างก็อยากขอลองขับมอเตอร์ไซค์สุดหวงของคุณ หลายๆคนมักอยากจะนั่งแอ้คท่าถ่ายรูปลงเฟสบุค แต่บางคนกลับอยากลองขับอย่างจริงจัง โดยไม่อยากนั่งซ้อนท้ายใคร อย่าให้เขายืมนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะกลัามาพร้อมกับแฮนด์รถที่หักหลุดออกมา และเรื่องราวที่ยังไงๆ ก็ไม่ใช่ความผิดของเขา
คนแปลกหน้ายิ่งแล้วใหญ่ ต่างก็เข้ามาห้อมล้อมคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงวัยที่อยากจะหวนคืนสู่วันเก่าๆที่เขาเคยขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ เขาจะบอกว่าคันที่เขาเคยขี่นั้นเป็นอย่างไร จนคุณคิดว่าเขาจะมาเล่าให้ฟังทำไมละเนี่ย แถมยังจะชอบมาถามว่านี่อะไร นั่นอะไร และมักจะเย้ยว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ข่วยให้ขับได้ดีขึ้นหรอก
6 คุณจะกลายเป็นคนขับรถยนต์ดีกว่าเมื่อก่อนมาก
ก่อนที่จะซื้อมอเตอร์ไซค์ คุณมักจะบ่นว่าคนอื่นขับรถไม่ดี ขับขวางถนน มุดมาทำไม อ้าวแทรกซ้ายอีกแล้ว หรือแบบว่าเล่นเฟสไปด้วยขับไปด้วย
แต่พอคุณมาขับมอเตอร์ไซค์แล้ว พอกลับไปขับรถยนต์คุณจะตั้งใจอย่างมาก ไม่ใช่แค่ระมัดระวังอุบัติเหตุเท่านั้น แต่คุณจะกลายเป็นคนรักสภาพแวดล้อม มองโลกเขียวขึ้นมาทีเดียว คุณจะมีความคิดเห็นในใจเพิ่มเติมอย่าง โหคนนี้ขับรถคันใหญ่แบบนี้มาจ่ายตลาดทำไมเปลืองที่จอด เปลืองน้ำมัน หรืออีกคันขับเบ้นซ์คันใหญ่มาทำไม ถนนเล็กๆแบบนี้ขับรถเล็กๆออกมาก็พอแล้วไม่รักษ์โลกบ้างเลย คุณจะกลายเป็นคนที่ขับไปก็คิดไปว่าทำไมคนรอบข้างคุณไม่ขับรถแบบประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนรถยนต์ของคุณ
7. ต้องโบกมือ
คุณลองไปตามฟอรั่มเกี่ยวกับรถมอไซค์รุ่นต่างๆ ก็จะมีการถกเถียงกันว่าต้องโบกไม้โบกมืออย่างไรถึงจะถูกวิธี การส่งสัญญาณต่างๆมีอะไรบ้างหว่างผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกัน สมัยก่อนขับรถยนต์ไม่เห็นต้องโบกมือให้ใคร คุณจะคิดว่าเดี๋ยวคนที่ตามหลังมาด้วย Ducati คันนั้นเมื่อแซงคุณแล้วเขาจะมาผงกหัวให้คุณหรือไม่หรือว่าถ้าคุณจะแซง Kawasaki เขาจะต้องโค้งคำนับคุณก่อน แล้วถ้าเขาขับ scooter มานี่ต้องเป็น cruiser หรือ Goldwing ถึงจะสมค่าแค่การคำนับหรือโบกมือ
โดยปกติแล้วเราก็ควรขับของเราไป ไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก ยกเว้นว่าคุณจะรู้ว่ามีตำรวจตรวจจับความเร็วอยู่ข้างหน้าถึงค่อยส่งสัญญาณด้วยการเอามือตบหมวกกันน้อคตัวเองสองสามครั้ง
8. ต้องมาซ่อมบางอย่างเอง
ปกติแล้วเวลาซื้อมอเตอร์ไซค์คันใหม่มาก็มักจะมีคู่มือมาให้ได้ มีทั้งข้อมูลเสป็ค ทั้งแผนผังวงจรต่างๆ และข้อแนะนำที่จะทำให้รถมอเตอร์ไซค์ขับได้นานที่สุด คุณจะเห็นเครื่องยนต์ของมอไซค์คุณชัดเจนรวมทั้ง ชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ และความยากลำบากที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องว่าทำเองยาก
แต่คุณก็ควรจะใช้เวลาศึกษาคู่มือเหล่านัั้นหรือหาอ่านตามเว็บต่างๆ หรือคุยกับเพื่อนที่เชี่ยวชาญและหาซื้อเครื่องมือที่เหมาะสม ซึ่งคุณก็จะพบว่าไม่ยากเลย
คุณไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์เสมอไป และการทำอะไรเองก็ไม่ได้ทำให้หมดประกันแต่อย่างใด ตราบเท่าที่คุณทำทุกอย่างตามสมควรแก่เหตุ ถ้าคุณได้ลองคุณจะพบว่าการได้ทำอะไรกับมอเตอร์ไซค์ด้วยตัวเองนั้นสนุกและสร้างความภูมิใจมากแถมได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆด้วย
9. มอไซค์มันทนทานกว่าที่คุณคิด
คุณอาจจะตกใจเมื่อขับไปจนถึงขีดแดงแล้วลืมเปลี่ยนเกียร์ ลืมปรับระดับโซ่ ลมยางอ่อนไป 2 ปอนด์ เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลเพราะมอเตอร์ไซค์มันแกร่งกว่าที่คุณคิดมาก การออกแบบมานั้นเขาเผื่อเรื่องต่างๆไว้หมดแล้ว ไม่ว่าคุณจะยำมันเละแค่ไหนมันก็ยังพอจะวิ่งได้ คุณขับมันไปได้ทุกที่ทั้งถนนสะอาดและสกปรก ไม่ต้องกลัวว่าโคลนจะเข้าเครื่องแล้วทำให้เครื่องพัง
10. หน้าและจมูกคุณจะต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
เรื่องสุดท้ายที่อาจจะยังไม่มีใครบอกคุณก็คือ จมูกและหน้าของคุณหากคุณขับมอเตอร์ไซค์ทั้งวัน หกขับในเมืองจมูกคุณก็จะดำเพราะคุณสูดคาร์บอนไปเยอะ หากขับไปตามท้องทุ่งฝุ่นมากจมูกและหน้าตาคุณก็จะเต็มไปด้วยฝุ่นละออง คุณต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าและน้ำขวดไว้เสมอ ไม่ต้องสงสัยว่าเวลาคุณเจอทีมมอเตอร์ไซค์เขาหยุดพักกัน ต่างก็จะลงมาล้างหน้าเช็ดหน้ากันสลอน ไม่ใช่เพราะว่าอากาศร้อนอย่างเดียวนะครับ แต่เพราะสิ่งที่สัมผัสมาระหว่างทางนั้นมากกว่าที่ต้องกำจัดออก และอย่าลืมซักผ้าเช็ดหน้าบ่อยๆด้วยนะครับ
ads2