Tweet

2014 Harley Davidson Street 500 รีวิวมอเตอร์ไซค์

นับถึงตอนนี้ยังไม่มีใครได้มีโอกาสได้ขับมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ตัวใหม่เลย ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว นักทดสอบ ทีมงานนิตยสาร หรือว่าเว็บไซค์ไหน ยกเว้นแต่คนของ Harley เท่านั้น เว้นแต่ก็เราที่ได้มีโอกาสมาบอกเล่าเรื่องราวผลการขับขี่ ถือว่าการรีวิวครั้งนี้เป็นรีวิวแรกที่ได้จากการขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2014 Harley-Davidson Street 500 ของนักบิดที่ไม่ใช่คนของฮาร์เลย

ความสำคัญของมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดในรอบ 13 ปีของ Harley-Davidson เท่านั้น แต่ยังเพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดของทางบริษัทในการออกมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่ว่าทาง Harley จะผลิตมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ ราคาแพงๆอีกต่อไป แต่ทาง Harley ต้องการเข้าสู่ตลาดของนักบิดหน้าใหม่ผู้ซึ่งต้องการมอเตอร์ไซค์ชนิดใหม่ แต่มาพร้อมกับความขลังของฮาร์เลย์ ซึ่งอาจจะเป็นมอเตอร์ไซค์ Street 500 คันนี้

ผู้ฝึกสอนมอเตอร์ไซค์ของสถาบันความปลอดภัยยานยนต์มอเตอร์ไซค์ (Motorcycle Safety Foundation – MSF) คือคุณ Braden ได้มีโอกาสขับขี่มอเตอร์ไซค์ Street 500 เราได้พูดคุยกับเขาถึงผลการขับขี่หลังจากที่เขาได้ลองขับแล้วนำมาบอกเล่าให้ท่านได้อ่านกันนะครับ

เรา :

คุณเป็นใครครับ และมีประสบการณ์ขับขี่อะไรมาบ้าง และปกติคุณขับมอเตอร์ไซค์รุ่นไหนครับ

Braden :

ผมเป็นนักศีกษาวิศวะครับ กำลังฝึกงาน และเป็นผู้ฝึกสอนให้กับ MSF ของ South Carolina การขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะคู่ชีพผมมาหลายปี ผมขับมอเตอร์ไซค์มาตลอดไม่ว่าจะแดดออกหรือฝนตก ขับมา 6 ปีแล้วครับ ปกติแล้วผมจะขับอยู่ที่ประมาณ 25,000 ถึง 32,000 กม ต่อปี ทั้งในเมืองและทางด่วนรวมถึงออกทัวร์ด้วย ตอนนี้ผมขับมอเตอร์ไซค์ Moto Guzzi Griso 8V และ Ducati Monster 1100 Evo ครับ

เรา :

เป็นไงมาไงตุณถึงได้ขับ H-D Street 500 ก่อนคนอื่นละครับ

Braden :

ทาง Harley ได้พยายามมองหานักบิดมาทดสอบ Street 500 โดยไม่เฉพาะเจาะจงกับโครงการเทรนนิ่งของเขาเองอย่าง Rider’s Edge แต่ยังรวมมาถึง MSF ด้วย เพื่อที่ว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะมาแทนที่มอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการสอนการขับขี่ ทางตัวแทนของ H-D ก็ได้นำมอเตอร์ไซค์คันนี้มาที่สำนักงาน MSF ที่ South Carolina เพื่อเป็นการแนะนำถึงความสามารถของมอเตอร์ไซค์ในการใช้ในการฝึก และในฐานะที่ผมก็เป็นครูฝึกคนหนึ่ง ผมเลยได้มีโอกาสในการทดสอบมอเตอร์ไซค์คันนี้ครับ

เรา :

มอเตอร์ไซค์คันที่คุณขับจะเข้าสายการผลิตหรือยัง

Braden :

ตามที่ทางตัวแทนของ Harley Davidson บอกมา เขาบอกว่า Street 500 ที่ผมขี่นั้นความพร้อมอยู่ที่ 99% แล้วครับเมื่อเทียบกับรุ่นที่จะเข้าสู่สายการผลิต มีสิ่งแตกต่างเพียงเล็กน้อยในรุ่นนี้ เพราะมันถูกปรับแต่ให้เหมาะสมกับการนำมาฝึกสอน เช่นท่อเหล็กสีเหลืองที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามาเผื่อคนที่มาเรียนแล้วทำมอไซค์ล้มจะได้ไม่เสียหายมาก มีปลอกสีส้มเพิ่มเติมตรงแฮนด์ ทรงท้ายรถ บริเวณสวิงอาร์มและหุ้มทรงท่อไว้ด้วย โดยรวมแล้วระบบนี้ทำให้การยกรถมอเตอร์ไซค์ Street 500 คันนี้จากกรณีที่ล้มอยู่นั้นสบายมาก

นอกจากอุปกรณ์ป้องกันเท่าที่เห็นแล้ว ทาง Harley Davidson ก็ได้มีการปรับแต่งค่า ECU อีกเล็กน้อยเพื่อให้ทางผู้ฝึกสอนได้ปรับค่าตัวแปรด้านน้ำมันได้ ด้วยการปรับแต่งนี้ทำให้ที่เกียร์ 1 จะวิ่งได้เร็วไม่เกิน 18 ไมล์ต่อชั่วโมง ที่เกียร์ 2 ไม่เกิน 25 ไมล์ต่อชั่วโมง ผมได้ขับโดยมีการตั้งค่านั้นเอาไว้ใน ECU ดังนั้นมุมมองผมในแง่ของเกียร์ 1 และ เกียร์ 2 ก็คงอาจจะไม่สอดคล้องกับรุ่นที่จะเข้าสายการผลิตเท่าไหร่ รุ่นฝึกสอนนี้ก็จะมาพร้อมกับชุด kit ที่จะตรวจจับว่ามอเตอร์ไซค์ล้มหรือเปล่า ถ้าล้มมันก็จะตัดเครื่องยนต์ทันที และเนื่องจากมอเตอร์ไซค์รุ่น Street 500 นั้นจะขัับขี่โดยนักขับที่หลากหลาย เบาะนั่งจึงปรับค่าได้สามค่า เพราะรูปร่างที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้นักบิดนั่งสบายแม้ความสูงจะแตกต่างกัน

เรา :

ทางตัวแทน Harley Davidson ได้ให้ข้อมูลสเป็คอะไรบ้างหรือเปล่า เช่นแรงม้า หรือแรงบิดเป็นต้น

Braden :

จากการพูดคุยกัน ในเรื่องแรงม้านั้นยังไม่ชัดเจนนัก ผมได้ยินคำว่า ประมาณครึ่งนึงของรุ่น Sportster อยู่ครั้งนึง (Sportster 883 มีแรงม้าที่ 52 bhp และแรงบิดที่ 52 ปอนด์ฟุต)

เรา :

การขับขี่เป็นอย่างไรบ้าง คุณขับไปเส้นทางไหน นานไหม ถนนคดเคี้ยวหรือเปล่า ทางด่วนหรือถนนธรรมดา

ฺBraden :

ผมไม่ได้ลองขับดูบนทางหลวงหรือทางด่วน ส่วนใหญ่จะขับบนถนนธรรมดา สายรอง และขับความเร็วต่ำๆ ในลานจอดเพื่อจำลองการขับขี่ในลักษณะของการฝึกสอน ซึ่งเป็นช่วงต้นๆของวันที่อากาศดี ถนนแห้ง และอากาศเย็นนิดหน่อย โดยอุณหภูมิอยู่ในช่วงราวๆ 25 องศาฟาเรนไฮท์

เรา :

ขับแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

Braden :

ผมคงต้องบอกว่า หากพูดถึงเรื่องการขับมอเตอร์ไซค์แนวครุยเซอร์แล้วละก็ ประสพการณ์ผมจำกัดมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ยกเว้นรุ่นเล็กๆ เบาๆ และก็เก่าๆอย่าง Kawasaki Eliminator 125s และ Honda Reble 250s เท่านั้น ผมได้เคยลองบ้างเล็กน้อยกับรุ่นใหญ่กว่าของ Victory และ Harley ให้ผมได้รับรู้ว่าการขับขี่มอไซค์คันใหญ่แนว cruiser นั้นเป็นอย่างไร

สำหรับการนั่งบนเบาะของ Street 500 ครั้งแรกนั้นถือว่าดี แม้น้ำหนักจะมากกว่า 480 ปอนด์เล็กน้อยก็ตาม จากการลองเล่นกับน้ำหนักของรถ Street 500 นี้ครั้งแรกให้ความรู้สึกว่าถีงน้ำหนักของรถที่เบากว่า การยื่นมือไปจับแฮนด์ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่เหลือเฟือในการควบคุมและขับขี่รถ การปรับเบาะตำแหน่งมาตรฐานตรงตำแหน่งกลางนั้นไม่เหมาะสำหรับผม เพราะทำให้ผมต้องงอขามาก เมื่อปรับค่าไปยังตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งสูงกว่าเดิมราวนิ้วกว่าๆ ช่วยให้ท่านั่งผมดีขึ้น

เรา :

คุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับความปราณีตของรถ เพราะมันดูก๊องแก้งไปหน่อยจากรูปที่เห็นในงาน EICMA

Braden :

คำที่เหมาะสมที่สุดที่จะบรรยายลักษณะของมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็คงจะเป็น “ยังไม่เรียบร้อย” เพราะระหว่างที่ผมขับ ผมสังเกตเห็นว่าน้ำมันเครื่องรั่วออกมาเล็กน้อย น้ำยาระบายความร้อนก็รั่ว น้ำมันก็รั่ว โดยตอนที่รั่วนั้นเกิดตอนที่ผมลองทดสอบวางรถเอียงลงเพื่อทดสอบโครงเหล็กกันล้มต่างๆ

พลาสติคของสวิสท์ต่างๆ เหมือนจะคุณภาพดีกว่ามอเตอร์ไซค์หลายๆคันที่ผมเคยขับ รวมทั้ง Ducati และ Moto Guzzi ด้วย ซึ่งหลายๆชิ้นส่วนที่คุณสามารถสัมผัสได้ด้วยมือก็จะมีคุณภาพดีเช่นเดียวกัน ให้ความรู้สึกดี มีน้ำหนักและมักจะมีเนื้อเหล็กหรือยางเต็มๆ

แต่ตรงสนับตะเกียบหน้านั้นดูเหมือนของราคาถูกๆ และเหมือนจะปกป้องตะเกียบไม่ได้เต็มที่แน่ๆ สายรัด สายเคเบิ้ล หุ่น และแผงหน้าปัทว์ เห็นได้ชัดว่าต้องการลดต้นทุน น่าประหลาดใจว่าหากเราไปดูชิ้นส่วนชนิดเดียวกันบน Honda CBR250R ซึ่งราคาถูกกว่าแต่ดูเหมือนทำจากวัสดุที่ดีกว่า

และยังมีสายไฟกลุ่มใหญ่ๆที่ยังมองเห็นได้ชัดแม้ตอนออกมายืนอยู่ใกล้กับตัวรถ

เบาะนั่งดูเป็นก้อนๆ การตัดเย็บดูไม่ปราณีตเท่าไหร่ เหมือนกับว่าเราไปบอกให้เพื่อนช่วยทำให้เราแล้วเราก็คาดเดาไม่ได้ว่าฝีมือจะออกมายังไงนั่นแหละ

สำหรับมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อที่ภูมิใจในการใช้ชิ้นส่วนเหล็กในหลายๆส่วน กลับกลายเป็นว่ามอเตอร์ไซค์ Street 500 คันนี้ใช้พลาสติคแทนในหลายส่วน

เรา :

ขับที่ความเร็วต่ำเป็นอย่างไรบ้าง

Braden :

การขับขี่ส่วนใหญ่แล้วเป็นธรรมชาติดี การขับขี่ก็เหมือนกับมอเตอร์ไซค์ฝึกสอนคันอื่นๆที่เรามี สำหรับความเร็วต่ำๆ ขนาดนี้ ซึ่งมักจะมีน้ำหนักต่ำกว่า 200 ปอนด์ คุณจะรู้สึกว่าหนักก็คือเมื่อพยายามจะขี่ที่ความเร็วต่ำมากๆ กลับรถตอนรถเกือบจะหยุดนิ่ง ที่รู้สึกได้ว่ามีแรงดึงเหมือนจะเอารถลงไปที่พื้น ที่ความเร็วราว 8 ไมล์ต่อชั่วโมง มอไซค์คันนี้ให้ความรู้สึกคล่องตัวเหมือนรถ 250cc แต่ที่ความเร็วต่ำกว่านั้นน้ำหนักกลับมาถาโถมใส่ทำให้ยากในการขับขี่

เรา :

การควบคุมรู้สึกอย่างไรบ้าง

Braden :

ความรู้สึกของคลัชและช่วงการจับถือว่าธรรมชาติดี ดีเท่าๆกับมอเตอร์ไซค์ที่ผมใช้ฝึกสอนมา ถ้าคลัชไม่ดีการกลับรถก็คงไม่สะดวกสบายเหมือนที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น

เบรกหน้าก็นุ่มนวลและควบคุมได้ดี ให้การตอบสนองที่คาดเดาได้ที่คันเบรก เบรกหลังเสริมเข้ามานิดๆนั้นจะช่วยได้มาก แต่อาจจะเป็นเพราะเรื่องการตั้งค่าหรือเปล่าที่ทำให้รู้สึกแปลกๆเมื่อเบรกที่ความเร็วมากกว่า 15 – 20 กม/ชม ผมจินตนาการไม่ออกว่ามันจะออกมาจากโรงงานแบบนี้หรือเปล่า

เรา :

ความแรงเป็นอย่างไรบ้าง แรงบิดช่วงต้นเป็นตามคาดของเครื่อง V-twin หรือเปล่า

Braden :

แรงบิดช่วงต้นตามลักษณะของ V-twin นั้นมีแน่ แต่ไม่ได้ออกมาตรงๆสำหรับนักบิดหน้าใหม่ ความรู้สึกบนท้องถนน การส่งกำลังออกมา และการตอบสนองต่อคันเร่ง ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถญี่ปุ่นขนาด 250cc รุ่นใหม่ๆ ในการไหลไปกับการจราจรบนท้องถนน แน่นอนว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้ให้พลังเพียงพอที่จะทำให้คุณขับมอเตอร์ไซค์ไปในเมืองในช่วงการจราจรติดขัดได้อย่างสบายๆ

ช่วงกลางถึง 60 กม/ชม นั้นจะเป็นช่วงที่ทำได้เร็วที่สุดที่ผมจะวิ่งได้บนถนนที่กำหนด ด้วยข้อจำกัดความเร็วตามสภาพถนนที่ผมขับอยู่ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการลองเล่นกับความเร็วต่ำเสียมากกว่า ข้อจำกัดในเรื่องประสิทธิภาพก็คงเป็นเรื่องเกียร์ซึ่งบางครั้งหาเกียร์ว่างไม่เจอ อาจจะเพราะอากาศที่หนาวก็เป็นได้

เรา :

การบังคับเลี้ยวเป็นอย่างไรบ้าง ล้อหน้ากับหลังทำงานประสานกันดีไหมตามแบบฉบับมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใช่ cruiser หรือว่าเหมือนล้อจะเลี้ยวคนละเวลากันเหมือนรถแนว cruiser

Braden :

ขอบอกว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เหมือนว่าล้อหน้าและล้อหลังจะเลี้ยวกันคนละเวลา และมีความไม่แน่นอนในกรณีการเลี้ยวแบบ 90 องศาจากจุดหยุดนิ่ง เช่นเมื่อเวลาคุณติดไฟแดงตรงสี่แยก พอออกตัวแล้วต้องเลี้ยวเลย สำหรับมอเตอร์ไซค์ cruiser น้ำหนักขนาดนี้แล้ว ความรู้สึกในการเลี้ยวนั้นรู้สึกว่าแม่นยำดี การเลี้ยวที่ความเร็วต่ำอาจจะต้องประคองแฮนด์กันมากขึ้น

เรา :

การเข้าโค้งเป็นอย่างไร ขับสนุกไหม

Braden :

อาจจะมีบ้างตอนก่อนเข้าโค้งที่จะเริ่มลังเล แต่ Street 500 คันนี้ก็เข้าโค้งไปตามเส้นได้ดี การจะเข้าโค้งหักศอกอาจจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ซึ่งมากกว่าที่ผมเคยลองขับ Victory 1,800cc สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ความรู้สึกตอบสนองของถนนแล้ว ถือว่าใช้ได้ ออกจากโค้งก็เปิดคันเร่งได้นิ่มนวล พร้อมแรงบิดที่ต่อเนื่อง

เรา :

ระบายความร้อนด้วยน้ำ กับเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มันมีผลอย่างไรบ้าง

Braden :

ปกติแล้วผมชอบมากกับเสียงต่างๆ ทั้งเสียงวาล์ว เสียงสั่นของเครื่องยนต์ และเสียงของฮาร์เลย์หลายๆคันที่ผมได้ยิน

แต่พูดตรงๆ มอเตอร์ไซค์ Street 500 คันนี้ ทั้งในแง่ของความรู้สึกและเสียงแล้ว เหมือนจะขาดหายไป ความรู้สึกเหมือนขับเจ้า Eliminator 125s ที่เราใช้ฝึกเลยทีเดียว ซึ่งความจริงการหายไปของความรู้สึกเหล่านี้เหมาะกับการฝึกฝนมากเพราะจะได้ไม่ทำให้เราหันเหไปจากสิ่งที่ต้องทำอยู่ตรงหน้า

เรา :

ภาพรวมแล้วคุณคิดว่าเป็นอย่างไร หลังการขับขี่แล้วทำให้คุณอยากเป็นเจ้าของหรือว่าอยากจะได้คันอื่น

Braden :

ความจริงแล้ว Harley จะมีชื่อเสียงในแง่ของมอเตอร์ไซค์แนว cruiser ด้วยเพราะขับสบาย แต่ทางตัวแทนของ Harley ก็ได้บอกกับผมล่วงหน้าแล้วว่า Street 500 นั้นอาจจะไม่ดีเท่าเพราะขนาดเครื่องยนต์ที่เล็ก คุณจะยอมจ่ายเงิน $6,700 USD เพื่อซื้อรถไว้ขับขี่สั้นๆ ในเมืองหรือเปล่า

ในแง่ประสิทธิภาพ ความสะดวกในการใช้งาน รูปร่าง ความปราณีตและราคาแล้ว มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Ninja 300 และ Honda CBR250R ผมว่าน่าจะดีกว่าในทุกๆแง่มุมเมื่อเทียบกับรถน้ำหนักเกือบจะ 500 ปอนด์ของแบรนด์สูงกว่าคันนี้ คนที่สนใจมอเตอร์ไซค์ cruiser แนวดั้งเดิมผมแนะนะว่าไปซื้อ Harley Davidson คันใหญ่ดีกว่า แต่ในฐานะที่เป็นมอเตอร์ไซค์ฝึกสอนแล้ว การตอบสนอง ความมั่นใจในการขับขี่ที่ได้มา จาก Harley Davidson Street 500 คันนี้ถือว่าเหมาะสม

ผลสรุป

Braden อาจจะไม่ใช่นักวิจารณ์มอเตอร์ไซค์มืออาชิพ และมอเตอร์ไซค์ที่ให้มาลองขับนั้นยังไม่สู่สายการผลิต และมีการตั้งค่าสำหรับการไว้ฝึกสอน ความคิดเห็นของเขาและข้อสรุปที่ให้มาควรจะมองถึงตัวแปรเหล่านั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ตามความคิดเห็นของเราแล้ว ประสบการณ์การขับขี่ที่ผ่านมาของ Braden และการเป็นครูฝึกสอนนั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับที่ประสิทธิภาพที่มอเตอร์ไซค์ Street 500 คันนี้ให้มา เราจึงรอว่าความคิดเห็นของเขาจะตรงกับเราไหมเมื่อเราได้มีโอกาสขับมอเตอร์ไซค์คันนี้ในอนาคต

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก rideapart.com