Tweet

ถึงวันนึงที่ลูกน้อยบอกอยากขับมอเตอร์ไซค์ ก็จะกลายเป็นวันที่เหมือนฝันร้ายจะมาเยือนสำหรับพ่อแม่ เพราะห่วงกลัวลูกจะขับมอเตอร์ไซค์แล้วไปเกิดอุบัติเหตุหกล้มหัวฟาดพื้นตั้งแต่เด็กๆ แน่นอนว่าลูกน้อยปั่นจักรยานเป็นแล้ว แต่มอเตอร์ไซค์นั้นมีพลังเครื่องยนต์ทำให้วิ่งได้แรงและเร็วโอกาสการเกิดอุบัติเหตุก็ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา

แต่ความจริงแล้วการขับมอเตอร์ไซค์อาจจะไม่ได้โหดร้ายเหมือนที่คิด เราอาจจะยอมให้ลูกยืมมอเตอร์ไซค์ไปขับเพราะไม่อยากขัดใจลูก หรือดีกว่าลูกไปหัดขับมอเตอร์ไซค์ของคนอื่นไกลหูไกลตา ดีไม่ดีลูกไปทำมอไซค์เขาเสียหาย ต้องชดใช้มากกว่าที่ควรจะเป็นเสียอีก ดังนั้นการให้คำแนะนำลูกน้อยที่อยากจะขับมอเตอร์ไซค์ใจจะขาดก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่เขาจะได้ขับมอเตอร์ไซค์อย่างสนุกสนานพร้อมๆกับระแวดระวังความปลอดภัยไปด้วย

1 ไม่ต้องไปถกเถียงหรือห้ามปรามกันให้เสียเวลา

เมื่อเด็กวัยรุ่นอยากจะทำอะไรเขาจะไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง หากคุณห้ามไม่ให้เขาขับก็จะยิ่งสร้างความอยากให้กับเขา ลองฟังความต้องการของเขาจะดีกว่าเพื่อที่จะได้สร้างข้อต่อรองกันได้ เพื่อดูว่าเขาอยากจะขับทำไม จะอวดเพื่อน จะอวดสาว หรือเพราะเห็นเพื่อนขับแล้วอยากขับ เมื่อให้โอกาสเขาได้ลองขับแล้วเราก็จะได้มีโอกาสให้คำแนะนำที่ดีๆและถูกต้องแทนที่เขาจะไปฟังอะไรหรือเชื่ออะไรผิดๆจากเพื่อนๆ การปฏิเสธไม่ให้เขาลองลูกน้อยอาจจะตีความหมายว่าเราไม่มั่นใจในความสามารถของเขา ซึ่งจะเป็นผลให้เกิดความไม่ไว้วางใจและดื้อด้านต่อกันอันจะเป็นปัญหาที่แก้ไขกันยากในช่วงวัยรุ่น

2 กำหนดขอบเขตสำหรับนักขับมือใหม่

ในเมื่อหยุดเขาไม่ได้ ก็ให้เขาขับไปเพราะวันนีึงเขาก็ต้องหาทางขับจนได้ แต่เนื่องจากตอนนี้เขายังเด็กยังเชื่อฟังเราอยู่ เราจึงสามารถสร้างกฏเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ตัวอย่างเช่น กำหนดว่าให้ขับมอเตอร์ไซค์ได้หากยังไม่มืด และห้ามออกไปขับบนถนนใหญ่เด็ดขาด และคุณก็มั่นใจได้ว่าสภาพของรถนั้นยังอยู่ในภาวะปลอดภัย เบรกและยางรถยังอยู่ในสภาพดี และก่อนการขับขี่ให้สวมหมวกนิรภัยใส่กางเกงยีนส์เสื้อแขนยาวเผื่อหกล้มเป็นต้น

3 สร้างนิสัยการขับที่ดีให้กับเขา

ด้วยความเป็นพ่อแม่ที่ดี เราควรจะสร้างนิสัยการขับขี่ที่ดีให้กับลูกๆ ไม่ใช่ปล่อยให้เขาขับได้ตามใจชอบ ตัวอย่างเช่นการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งในการขับขี่ การสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม ไม่ใช่ใส่ขาสั้นเสื้อแขนกุดไปหัดมอเตอร์ไซค์ และทุกครั้งที่ขับให้ขับอย่างตั้งใจ ไม่วอกแวก ไม่เล่นโทรศัพท์ระหว่างขับมอเตอร์ไซค์ และต้องพยายามตักเตือนให้เขาขับมอเตอร์ไซค์อย่างปลอดภัยเสมอ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ เพราะนอกจากตัวเองอาจจะบาดเจ็บแล้วยังอาจจะทำความเสียหายให้ผู้อื่นอีกด้วย นี่ว่าทำไมควรจะให้เขาหัดขับตั้งแต่ยังเด็กๆ ในช่วงที่เขายังเชื่อฟังคุณอยู่ เพราะจะเป็นการสร้างนิสัยการขับขี่ที่ดีให้กับเขา เพราะหากเขาโตแล้วไปหัดขับเขาอาจจะไม่ค่อยเชื่อฟังคำแนะนำของคุณเท่าไหร่

4 อย่าคิดว่าเขาเป็นเด็กต้องประคบประหงมเสมอไป

ถ้าลูกคุณโตพอที่จะสอบใบขับขี่ได้แล้ว แสดงว่าเขาไม่ใช่เด็กๆแล้ว การไปดุด่าแบบเด็กๆ ยิ่งทำให้เขาไม่เชื่อฟังคุณ การตั้งกฏเกณฑ์ต่างๆ นั้นไม่ควรจะให้ออกในลักษณะการบังคับดุด่า แต่ควรจะเป็นการให้คำแนะนำ แสดงเหตุและผลที่จะตามมา สร้างเงื่อนไขข้อต่อรองที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายยินดีทีจะปฏิบัติตาม ให้เขาเป็นตัวของตัวเอง และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเขา หากเขาทำผิดก็ไม่ควรจะนำมาพูดจาประชดประชันไม่สิ้นสุด พูดถึงเหตุและผลให้เขาเข้าใจปัญหาก็ควรจบเรื่องนั้นไป นึกถึงตัวเราครับเวลาโดนใครตำหนิครั้งเดียวเราก็จำแล้ว ไม่ต้องมาย้ำคิดย้ำทำจะยิ่งทำให้รำคาญ

5 ลองขับดูเอง

หากเราผู้เป็นพ่อแม่ยังขับมอไซค์ไม่ค่อยคล่อง ก็ต้องลองขับไปด้วย เพราะหนทางที่ดีที่สุดที่จะแนะนำคนอื่นก็คือเราต้องเคยทำเองมาก่อน เราไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรที่ดีๆได้หากเราทำสิ่งนั้นไม่เป็น คุณอาจจะถือโอกาสนี้ไปกันกับลูกไปหาที่เรียนขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ถูกหลักและวิธีไปพร้อมๆกัน นอกจากจะทำให้คุณขับได้คล่องแคล่วแล้ว ยังเป็นการเรียนรู้ถึงหลักการขับขี่ที่ดีจากผู้รู้ไปโดยปริยาย

หวังว่าคงได้ไอเดียดีๆในการให้ลูกน้อยได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์กันอย่างปลอดภัยนะครับ

ads2