รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Versys 1000 LT
รีวิวการขับขี่มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Versys 1000 LT
ads1
Kawasaki คงนั่งดูอยู่เฉยๆไม่ได้ เมื่อทาง BMW KTM Suzuki และ Yamaha กำลังโกยอื้อซ่าจากการที่มอเตอร์ไซค์แนว adventure-tourer กำลังบูมสุดๆ ในช่วงนี้ ด้วยเพราะตอนนี้มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เหล่านี้กำลังแย่งยอดขายไปจากมอเตอ์ไซค์รุ่นธรรมดาและแนวสปอร์ททัวเรอร์ไปมากโข ค่ายสีเขียวก็เลยต้องหันมาลุยตลาดนี้กันบ้าง
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม Versys 1000 ซึ่งเพิ่งจะวางตลาดในอเมริกาในปี 2015 นี้ โดยก่อนหน้านี้ก็วางขายไปก่อนแล้วในตลาดยุโรปและเอเชียตั้งแต่ปี 2012 โน้น จะว่าไปแล้ว V1K ซึ่งเป็นชื่อย่อของ Versys 1000 คันนี้ก็เหมือนกับ Ninja 1000 ที่สูงกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์ที่คุ้นเคยขนาด 1,043cc สี่สูบเรียง ที่แขวนอยู่บนเฟรมอลูมิเนียม แล้วจะห่อหุ้มด้วยรูปทรงที่ดูแปลกประหลาดที่คล้ายๆกับตัวเล็กกว่าอย่าง 650 Versys หรือเปล่าเรามาดูกัน
สำหรับปี 2015 นี้ทาง Kawasaki ได้พยายามออกแบบมอเตอร์ไซค์ในกลุ่ม Versys ให้ออกมาในแนวทางเดียวกับ Ninja โดยจะมีไฟหน้าคู่ในแนวนอน เส้นสายที่เฉียบคมมากขึ้น และดูหุ่นที่ลื่นไหลจากหน้าจรดหลังมากขึ้น อีกทั้ง V1000 และ Versys 650 ต่างก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก
ทาง Kawasaki จัดวางตำแหน่งของ Versys 1000 ไว้อย่างง่ายๆคือ ออกแนวสปอร์ทมากกว่าแต่ก็ยังคงความเป็นทัวร์เร่อร์เอาไว้ได้ดี ซึ่งก็เป็นความคิดที่ดีเพราะว่า เครื่องยนต์สี่สูบเรียงนั้นให้แรงบิดมหาศาลในทุกช่วงความเร็วรอบ ด้วยยางรองแท่นเครื่องใหม่ ทำให้เครื่องยนต์วิ่งได้นิ่งเรียบมากขึ้น การเปลี่ยนสเป็คจากนินจามาเป็น Versys นั้นยังรวมถึงเกียร์ 1 และ 2 ที่สั้นลง ส่วนเกียร์ 4 ถึง 6 จะยาวขึ้น ซึ่งจะเป็นการตอบสนองกับสิ่งที่เราเคยตำหนิในรุ่น Ninja และ Z1000 ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเกียร์สั้นเกิน
นอกจากนี้แล้วการเปลี่ยนระบบโปรแกรมใน ECU ทำให้แคมนั้นยกตัวน้อยและสั้นลง ทำให้ลดอัตราการบีบอัดลงเหลือ 10.8:1 ซึ่งต่ำลงถึงหนึ่งจุดเต็มๆเมื่อเทียบกับ Ninja หากเป็นรุ่น Ninja เราอาจจะคาดหวังอะไรที่แรงๆกว่านี้ แต่สำหรับ Versys แล้วตัวเลขต่างๆนั้นถือว่าลงตัว เมื่อรอบเครื่องยนต์แตะ 2000 รอบต่อนาที มันจะอัตราเร่งที่ทรงพลังและเงียบเชียบไปจนแตะ 10,000 รอบต่อนาที
สำหรับการขับขี่โดยทั่วๆไปแล้วที่ 6,000 รอบต่นาทีก็ให้ความสนุกได้อย่างไม่หยุดยั้ง คลัชที่นุ่มนวลแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดี ระบบเกียร์ก็แทบจะไร้ที่ติ สิ่งที่จะบ่นอย่างเดียวก็ตรงที่เครื่องยนต์ตอบสนองต่อการเปิดเร่งเพียงเล็กน้อยที่รอบต่ำ แต่พอรอบแตะ 3,000 ขึ้นไป ทุกอย่างก็ลื่นไหลและคาดเดาได้ โดยรวมแล้วก็ถือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ได้ สามารถพามันไปได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะทางเรียบหรือแม้แต่ถนนลูกรังก็ตาม
ในส่วนของตัวถังแล้วก็น่าชื่นชมเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วก็เหมือนๆกับ Ninja 1000 และเพื่อให้ทรงตัวได้ดีกับภาวะที่มีผู้โดยสารและบรรทุกสัมภาระเต็มพิกัด องศาขของมุมเลี้ยวนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 27 องศา เพิ่มจาก 24.5 องศาจากรุ่น Ninja ระยะยุบตัวที่มากขึ้นของระบบกันสะเทือนทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น ตะเกียบหน้าเป็นของ KYB ที่มีแดมปิ้งที่ด้านขวา ส่วนสปริงมีทั้งสองด้าน สามารถยุบตัวได้ถึง 5.9 นิ้ว (เทียบกับนินจาที่ 4.7 นิ้ิว) โช้คหลังเดี่ยวก็เป็น KYB เช่นกัน ระยะเคลื่อนตัวก็ 5.9 นิ้ว ซึ่งมากกว่าของนินจาอยู่ครึ่งนิ้วด้วยกัน
อัตราสปริงก็เหมาะสมกับมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์ริ่ง ที่นั่งสบาย แต่การปรับค่าตั้งต้นสำหรับการรีบาวด์ของล้อหน้าเหมือนจะเบาไปนิด ลองหมุนค่ารีบาวด์เพิ่มสักรอบก็จะช่วยให้มันดีขึ้น แต่หากคุณได้ลองปรับแต่งมันสักพักก็น่าจะหาค่าที่เหมาะสมสำหรับตัวท่านได้
Ninja 1000 อาจจะให้ความรู้สึกแน่นหนึบและพร้อมทะยานไปข้าหน้า แต่สำหรับ Versys แล้วให้ความรู้สึกเบากว่า น่าจะเพราะแฮนด์ที่กว้างกว่าเดิม (ท่านั่งจะออกแนว BMW R1200GS มากกว่าจะออกแนว Versys 650) แต่ก็ไม่ถึงกับเบาหวิวเหมือน Versys รุ่นเล็ก ซึ่ง Versys 1000 คันนี้เลี้ยวได้แม่นยำและเบากว่ามาก
บางครั้งการเลี้ยวเหมือนจะมีแรงต้านตอนปล่อยคันเร่ง แต่หากแตะเบรกเล็กน้อยมันก็จะมีอาการดีขึ้น ยิ่งไปว่านั้นยาง Bridgestone T30 sport-touring ทำหน้าที่ในการส่งกำลังลงสู่พื้นถนนได้ดี งานเปิดตัวสำหรับสื่อมวลชนที่อากาศหนาว ถนนเปียก แต่การยึดเกาะถนนก็ทำได้ดี เราเดาได้เลยว่านักบิดทั่วไปจะชอบขี่ Versys ไปบนถนนที่ไม่คุ้นเคยมากกว่าที่จะพาเจ้า Ninja 1000 ไป นั่นคือสิ่งที่ Versys คันนี้สร้างความมั่นใจให้คุณได้
นอกจากนี้แล้วความมั่นใจในการขับขี่ยังมาจากระบบอิเลคทรอนิคส์ ทั้งระบบ ABS โดย Versys 1000 จะมีคาลิบเปอร์สี่สูบแบบธรรมดา พร้อมพลังเบรกที่คาดเดาได้ และเหมือนการขับขี่ Versys คันเล็ก นั่นก็คือมันจะชอบจับเบรกหลักนิดนึงก่อนที่จะส่งพลังเบรกไปด้านหน้าเพื่อการชลอรถคันนี้
นอกจาก ABS แล้วคุณจะได้ระบบ traction control ทั้งหมด 3 โหมดด้วยกันรวมทั้งสามารถปิดมันได้ด้วย ระบบส่งกำลัง 2 โหมดคือ เต็มที่และลดพลังลง ในหมดลดพลัง ECU จะปรับแต่งการส่งน้ำมันและเวลาการจุดระเบิดเพื่อจะให้การตอบสนองของคันเร่งนั้นนุ่มนวลขึ้น และลดกำลังสูงสุดเหลือเพียง 75% เราใช้โหมดนี้ในภาวะถนนเปียกและพบว่ามันทำงานได้สุดยอดมาก
ในยุโรปจะมีการวางขาย Versys 1000 สองรุ่นด้วยกัน แต่ในอเมริกาจะเป็นรุ่นอุปกรณ์ครบชุด LT (Light Touring) ซึ่งจะมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระขนาด 28 ลิตร พร้อมระบบติดตั้ง ตัวเลือกอื่นก็คือกระเป๋าบนขนาด 47 ลิตร ไฟตัดหมอก และแฮนด์อุ่นร้อน
สำหรับราคาในอเมริกาจะอยู่ที่ $12,799 USD ซึ่งกะว่าจะตัดราคาคู่แข่งกันเต็มที่ ด้วยราคานี้มันจะมาพร้อมกระเป๋าสัมภาระ คูแข่งอย่าง Suzuki V-Strom 1000 คงได้หนาวกันละครับ
ที่มา motorcyclistonline.com