2013 Kawasaki ER-6N รีวิวสเป็ค
2013 Kawasaki ER-6N รีวิวสเป็ค
มอเตอร์ไซค์ 2013 Kawasaki ER-6n ตัวใหม่นั้นออกแนวสปอร์ท คล่องตัวดี แถมเทห์อีกต่างหาก ครบครันอย่างนี้คุณจะอยากได้อะไรจากมอเตอร์ไซค์อีกเล่ครับ การออกแบบที่ดูสวยงาม พร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลังแบบ 4 จังหวะ 8 วาล์ว DOHC สองสูบเรียง ขนาด 649cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมกับสตาร์ทไฟฟ้าพร้อมเกียร์ 6 เกียร์ ในแง่ของพละกำลังแล้วได้แรงบิดที่ 64 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที
วิศวกรของ Kawasaki เองก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างมอเตอร์ไซค์คันนี้ให้ออกมานั่งสบาย เบาะนั่งเลยออกมาเหมาะเจาะ พร้อมความหนานุ่ม ยึดเกาะกับบั้นท้ายคนขับได้ดี กรอบเบาะพลาสติค และแฮนด์ที่จับได้สบายมือ
การออกแบบก็เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่ออกแนวท่อคู่วิ่งไปตามขอบ เพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์โดดเด่นของ ER-6n หุ่นนั้นพยายามจะโชว์เฟรมออกมาแทนที่จะซ่อนไว้ภายใต้ตัวถัง เฟรมเหล่านี้ทำจากเหล็กทนแรงดึงสูง เพื่อเพิ่มความรู้สึกเบาให้กับมอเตอร์ไซค์
ไฟหน้าดูกระทัดรัด สั้นลง และได้รับการออกแบบมาให้ดูเพรียวขึ้นตามแนวดิ่งอีกด้วย พร้อมบังลมสีอมควัน ไฟหน้าสองดวงที่ออกแบบมาแบบซ้อนกันนั้นทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้ออกแนว street fighter อีกด้วย
ถังน้ำมันสูงกว่าเดิม 20 มม ช่วยทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้ดูบึกบึนในส่วนหน้า ความเอียงของถังด้านหลังจะได้ระดับจบกับเบาะนั่งอย่างสวยงาม
ส่วนของเครื่องยนต์แบบ Parallele Twin นั้นเป็นการเลือกมาอย่างลงตัวระหว่างขนาดที่กระทัดรัดกับพละกำลังที่เหมาะสม เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี เพื่อให้ได้การขับขี่ที่ง่าย สบายๆ สำหรับนักบิดหน้าใหม่ และได้ประสิทธิภาพสูงพอที่จะสร้างรอยยิ้มให้กับนักบิดที่ช่ำชอง ขนาดเครื่องยนต์ที่กระทัดรัดนี้ถือเป็นกุญแจสำคุญที่ทำให้ ER-6n ดูหู่นเพรียว เครื่องยนต์ตัวนี้จะให้แรงบิดช่วงต้นถึงกลางที่มากพอที่จะสร้างให้ความสนุกในการขับขี่ พร้อมทั้งการใช้งานทั่วๆไปในทุกๆวัน ในขณะเดียวกันก็ให้ความลื่นไหล และคงเอกลัษณ์ที่โดดเด่นที่รอบสูงไว้ด้วย
หุ่นที่เพรียวและแกร่งนี้มาจากการออกแบบแนวท่อคู่ทั้งในส่วนของเฟรมและสวิงอาร์ม ทำให้มอเตอร์ไซค์คันนี้เบากว่า และขับได้ง่ายกว่า เครื่องยนต์ที่ติดตั้งอย่างแน่นหนาสวยงามติดตั้งอยู่กับเฟรมในตำแหน่งที่สมดุลย์พอดี
ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีระยะยุบตัวที่มากขึ้นทั้งล้อหน้าและหลัง เพื่อให้ความรู้สึกออกแนวสปอร์ทและเพิ่มความสบายในการขับขี่มากขึ้น ความยายของโช้คหน้าและระยะยุบยาวเพิ่ม 2 มม ส่วนตะเกียบหน้านั้นยาวกว่าเดิม 15 มม และระยะยุบตัวเพิ่มขึ้น 5 มม เพื่อให้สอดคล้องกับล้อหลัง ระยะยุบตัวที่มากขึ้นทำให้ค่าสปริงเรทลดลง ค่าแดมพ์ปิ้งก็ได้มีการปรับค่าให้สอดตล้องไปด้วยเช่นกัน
เบาะนั่งผู้โดยสารก็การจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมกับการยึดเกาะที่ดี ทำให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างมั่นใจเมื่อมีผู้โดยสาร กรอบเบาะมีการยึดอย่างแน่นหนาที่ส่วนหน้าเพื่อลดการส่งต่อการสั่นสะเทือน
แผงหน้าปัทว์นั้นได้มีการติดตั้งบนแฮนด์เพื่อให้ส่วนหน้าดูกระทัดรัด กลุ่มเครื่องวัดต่างๆจะจัดวางให้อ่านได้ง่าย มีเข็มวัดรอบแบบอนาลอกพร้อมไฟ backlight แบบ LED สีขาว นอกจากจะมีเกจ์วัดระดับน้ำมัน ตัวเลขแสดงความเร็วแบบดิจิตอล นาฬิกา ทริปมิเตอร์ ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่าง ระยะทางที่เหลือที่สามารถวิ่งได้ ค่าเฉลี่ยและค่าปัจจุบันของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด
มอเตอร์ไซค์คันนี้ยังสอดคล้องกับมาตรฐาน Euro 3 ด้วยเพราะระบบหัวฉีดน้ำมันที่ทรงประสิทธิภาพ และ catalyser แบบสามทางที่ช่วยลดการปล่อยอากาศเสีย
สำหรับราคาจำหน่ายของคาวาซากิรุ่นนี้อยู่ที่ 254,000 บาท (รวมภาษีแล้ว) นับเป็นมอเตอร์ไซค์ที่น่าจะถูกใจสิงห์นักบิดจำนวนไม่น้อยอยู่นะ ยังไงใครสนใจก็ลองติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายของทางคาวาซากิไกล้บ้านได้เลยครับ
ads2