ล่าสุด

2014 KTM Super Duke R รีวิวทดสอบการขับขี่มอไซค์

2014 KTM Super Duke R

2014 KTM Super Duke R
Credit:motorcycle.com

2014 KTM Super Duke R รีวิวทดสอบการขับขี่มอไซค์


เราได้ลองขับที่สเปนโดยวิ่งไปตามทางคดเคี้ยวประมาณ 50 ไมล์จากที่พัก โดยไปลองขับทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นที่พร้อมลงสนามแข่งของ 1290 Super Duke R หลังจากได้ภาพเป็นที่พอใจเราก็ขับกลับมาอีก 50 ไมล์

เพิ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ กับมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่ตัวนี้ 2014 KTM Super Duke R ด้วยแรงม้าขนาด 180 แรงม้า หากลองปิดระบบ ABS และระบบ Traction Control แล้วละก็ มอเตอร์ไซค์ 1290 Super Duke R คันใหม่ของ KTM คันนี้ก็จะ ไถล ลื่น ยกล้อ หยุดนิ่งเหมือนกับที่เห็นในวิดีโอที่ทาง KTM นำเอามาโปรโมทเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ทุกประการ (แต่ต้องอาศัยทักษะขั้นสูง) แต่หากเปิดระบบทั้งสองไว้แล้วละก็ มอเตอร์ไซค์พลังยักษ์ตัวนี้ก็จะให้การขับขี่ที่นุ่มนวลสุดๆ กับเครื่องยนต์ขนาด 1301cc แบบ V-Twin ที่ให้แรงม้าออกมาถึง 180 แรงม้า และแรงบิดที่ 106 ปอนด์ฟุต

เป้าหมายของ KTM คือการที่จะทำให้มอเตอร์ไซค์ 1290 Super Duke R นั้นเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานง่ายที่สุด และมีความคล่องตัวสุดๆ ในขณะเดียวกันก็จะให้พลังที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตคันอื่นๆที่มีอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบัน

การที่จะถึงเป้าหมายนี้ได้ KTM ก็ต้องส่งมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ LC8 พร้อมระบบอิเลคทรอนิคส์ที่ช่วยเสริมการขับขี่ อีกทั้งตัวถังที่ออกแนวโครงถักอันสวยงาม และสวิงอาร์มแบบด้านเดียว และที่ขาดไม่ได้ก็เป็นตะเกียบหน้าและโช้คหลังที่ปรับค่าได้เต็มที่ ล้อที่หล่อด้วยความดันต่ำ และเบรกคาลิบเปอร์ตัวท้อปของ Brembo M50

ผลที่ได้คือ มอไซค์พลังยักษ์ที่ทำให้มอไซค์อย่าง Triumph Speed Triple อยากมีเพิ่มอีกซักสูบเพื่อจะไล่กวดให้ทัน และมอไซค์คันนี้ก็ขึ้นมาอยู่แถวหน้าที่พร้อมจะท้าทาย Aprilia Tuono V4 R กันตัวต่อตัวชนิดที่ซัดกันไม่ลงเลยทีเดียว

เครื่องยนต์และระบบจัดการเครื่องยนต์

เครื่องยนต์แบบสองสูบที่เป็นขุมกำลังของมอเตอร์ไซค์คันนี้ ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ RC8 R ธรรมดาเท่านั้น ก่อนที่จะนำมาใช้กับ Super Duke R นั้นทางวิศวกรของ KTM ก็ได้เพิ่มขนาดกระบอกสูบและช่วงชักจากมอไซค์รุ่นรถแช่งเดิม 105มม x 69มม เป็น 108มม x 71มม ทำให้เครื่องยนต์นี้มีขนาดเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 106cc เป็น 1301cc และความพยายามที่จะเพิ่มแรงบิดในช่วงต้นและกลาง ช่องไอดีขาเข้าเลยถูกลดขนาดลงจากขนาดที่เคยใช้ในเครื่อง RC8 R ผลก็คือได้แรงบิดที่ 106 ปอนด์ฟุต ที่ 6500 รอบต่อนาที ถือเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 40% ของแรงบิดเมื่อเทียบกับเครื่อง RC8

ลูกสูบก็มีเส้นผ่าศุนย์กลางใหญ่กว่าเดิม 3 มม แต่น้ำหนักน้อยลง 47 กรัม ระบบสลิบเปอร์คลัชก็ช่วยลด engine brake ตัวลิ้นบังคับเองก็ได้มีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นจาก 52มม ในเครื่อง RC8 R เป็น 56 มม ในเครื่อง Super Duke R

ระบบควบคุมการสันดาบภายในก็เป็นระบบจัดการเครื่องยนต์ของ Keihin ซึ่งเป็นระบที่ทำงานแบบ ride-by-wire ผลที่ได้จากความพยายามของ KTM ในการปรับปรุงเครื่องยนต์ครั้งนี้ก็คือระบบการแมพปิ้งการจ่ายน้ำมันที่ลื่นไหลและมีความแม่นยำมาก การบิดคันเร่งแบบกลางๆไปถึงแรงๆจะถูกส่งไปให้ระบบประมวลผลและส่งพลังไปยังล้อหลังอย่างนิ่มนวล อาการกระตุกไม่มีให้เห็น แม้จะตั้งค่าเป็นโหมดสปอร์ทอันดุดันจากที่มีสามค่าให้เลือก (Sport, Street, Rain) ระบบก็ปรับแต่งค่าคำสั่งที่มีพลังมหาศาลอยู่ในมือไปสู่ล้อหลังที่ลื่นไหลแต่เต็มไปด้วยความแรงอันน่าตื่นเต้นยิ่ง

2014-KTM-Super-Duke-R-Review2
Credit:motorcycle.com

ระบบอิเลคทรอนิคส์

การขับขี่ในโหมด Rain นั้นจะจำกัดแรงม้าไว้ที่ 100 แรงม้า ปรับแต่งการส่งกำลังที่นุ่มนวลและลดการหมุนฟรีของล้อหลังให้น้อยที่สุด โหมด Street นั้นจะออกมาแนวกลางๆ โดยยอมให้ล้อหลังไถลได้มากขึ้นและปล่อยแรงม้าออกมา 180 แรงม้าเต็มที่ พร้อมการตอบสนองต่อคันเร่งที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับโหมด Rain ในขณะที่โหมด Sport นั้นก็ส่งกำลังออกมาจากเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ (แต่ก็ยังมีการตรวจวัดจากระบบควบคุมเครื่องยนต์ของ Keihin อยู่) และพร้อมที่ยอมให้ล้อหลังหมุนฟรีและลื่นไถลได้อย่างเต็มที่ (ภายใต้ภาวะที่เหมาะสม)

และด้วยการที่มาพร้อมกับระบบ Bosch MTC อันใหม่ที่เปิดปิดการทำงานได้นั้น ทำให้ล้อหลังไม่มีทางที่จะออกนอกเส้นไปได้หากเปิดใช้งาน อย่างไรก็ตามระบบไม่ได้ตั้งค่าตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ หรือตามข้อมูลของ KTM ระบบ MTC จะช่วยลดการลื่นไถลในระดับที่คิดว่าเป็นค่าที่ดีที่สุดที่ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือกไว้

ดังนั้นนอกจากจะปิดระบบ MTC ไปซะเลย นักบิดก็ต้องอยู่กับค่าเซ็ตติ้งที่มาจากโรงงาน ถ้าอยากจะให้เจ้าของได้มีความคล่องตัวกว่านี้ เราเลยคิดว่าทาง KTM น่่าจะยอมให้มีการปรับแต่งค่าระบบของ MTC บ้างเหมือนอย่างของ Tuono V4 R ที่มีปุ่มบวกลบชดเชยค่าอยู่ที่แฮนด์จับ ก็น่าจะดี

มอเตอร์ไซค์ Super Duke R คันนี้ระบบ ABS ก็สามารถปิดเปิดได้ และมาพร้อมฟังก์ชั่นของโหมด Supermoto ที่จะเหมือนกับมอไซค์รุ่น Adventure ของบริษัท โดยการจะยอมให้ล้อหลังนั้นล้อคและไถลขณะที่การทำงานของระบบ ABS ที่ล้อหน้ายังคงอยู่ การทำงานของระบบอิเลคทรอนิคส์ก็จะเหมือนกับรุ่น Adventure ที่มีระบบสวิทส์เลือกติดตั้งอยู่ทางแฮนด์ด้านซ้ายและในกลุ่มของเครื่องมือเสริมต่างๆ

โดยรวมแล้วระบบ MTC และ ABS ทำงานได้อย่างดีแบบไร้รอยต่อจนแทบจะไม่รู้สึกว่ามีระบบนี้อยู่ ทำให้รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยอีกขั้น แต่ก็ยังคงความมันส์ในประสบการณ์การขับขี่ ที่ไม่เสียอรรถรสจากเครื่องยนต์แรงบิดสูงที่เครื่องสองสูบเครื่องนี้ให้มา เราสังเกตุพบว่าขณะที่เราปิดระบบ ABS เมื่อใช้ killswitch เพื่อที่จะหยุดรถนั้น MTC เหมือนจะกลับมาเป็นค่า on โดยอัตโนมัติ

2014-KTM-Super-Duke-R-Review3
Credit:motorcycle.com

โครงสร้างตัวถัง

การขับมอไซค์ Super Duke R นั้นจะเร้าใจมากเวลาเข้าโค้ง ด้วยเพราะน้ำหนักน้อยเพียง 446 ปอนด์ และเสริมด้วยแฮนด์แนว superbike การโยกซ้ายขวานั้นทำได้ง่ายและเร็ว มอไซค์คันนี้รักษาแนวเส้นบนถนนหรือสนามแข่งได้ดีแบบรถ superbike โครงสร้างรถและสวิงอาร์มด้านเดียวอันสวยเด่นนั้นช่วยให้วิ่งได้นิ่งทั้งการวิ่งทางตรงด้วยความเร็วสูง และการเข้าโค้งที่จบได้สวยงาม

ตะเกียบแบบหัวกลับขนาด 48 มมของ WP นั้นแยกหน้าที่กันโดยด้านซ้ายจะจัดการเรื่องแรงอัดขณะที่ด้านขวาจัดการเรื่องแด้มปิ้ง รีบาวด์ ทั้งสองอย่างปรับค่าโดยใช้นิ้วเขี่ยปุ่มปรับเอาจากแฮนด์รถ โช้คหลังเป็นของ WP เช่นกัน และเหมือนกับมอไซค์วิบากของ KTM ที่ค่าพรีโหลดนั้นสามารถปรับได้โดยการคลายน้อตล้อคโพลีเมอร์และหมุนสปริงเองด้วยมือ

ด้วยความกว้างของแฮนด์จับแนวรถ Superbike ทำให้การขับขี่บนท้องถนนทั่วไปหรือสนามแข่งนั้นทำได้โดยง่าย การขับขี่บนท้องถนนทั่วไปก็แทบจะไม่ต้องคิดอะไร ขณะที่หากลงไปบิดในสนามแข่งก็เหมาะสมพอที่จะนำลิ่วมอไซค์ superbike คันอื่นๆ เบรกหน้านั้นมาพร้อมกับคาลิบเปอร์ Brembo M50 บนจานเบรกขนาด 320 มม การจับเบรกบนถนนทั่วไปนั้นแม่นยำด้วยการใช้นิ้วเพียงหนึ่งหรือสองนิ้วแตะไปบนคันเบรกที่ปรับค่าได้ ส่วนการขับขี่ในสนามแข่งแล้วถือว่าเบรก M50 นี้ทำงานได้สุดยอด ลดความเร็วเจ้ายักษ์ตัวนี้ได้เร็วและแม่นยำทุกครั้งทุกโค้ง

ตอนที่ KTM ประกาศว่ามอเตอร์ไซค์คันใหม่ Super Duke R คันนี้ถือเป็นมอไซค์แนวเนคเก็ตที่เยี่ยมที่สุดในโลก ค่าย Aprilia อาจจะออกมายักคิ้วแล้วบอกว่าอ้าวก็ Tuono V4 R ไง ด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ที่สมบูรณ์กว่า และด้วยประวัติในสนามแข่ง WSBK ของ RSV4 แน่นอนว่าคงไม่มีใครจะไปเทียบชั้น Tuono ในกลุ่มมอไซค์แนวเนคเก็ตไบค์ได้ง่ายๆ แต่อดใจรอกันสักระยะนะครับ หากได้มีโอกาศเอาสองคันนี้มาเปรียบเทียบเมื่อไหร่เราคงจะได้เห็นกัน รอแค่เพียงให้เจ้า Super Duke R คันนี้มาถึงท่าเรืออเมริกาในตอนปลายฤดูหนาวนี้เมื่อไหร่ Tuono คงได้มีหนาวแน่

ส่ิงหนึ่งที่กล้าพูดได้เต็มปากคือ มอเตอร์ไซค์ 1290 Super Duke R คันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่คุณสามารถขับขี่สบายๆ มุ่งหน้าไปสนามแข่ง ขับเล่นที่ความเร็วสูงได้ทั้งวัน ทำให้พวกอยากจะเป็นนักแข่งบนรถแข่งเลียนแบบให้ขายหน้าไปตามๆกัน แล้วขี่กลับบ้านได้โดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น หลังจากนั้นก็อาจจะออกทัวร์ซักหลายๆวันแนว Sport tour ก็ได้ จะมีรถมอเตอร์ไซค์ซักกี่คันที่ทำได้แบบนี้ลองคิดดูนะครับ ตราบใดที่ทาง KTM ทำราคาได้สมเหตุสมผลผมว่า หลายๆคนคงต้องเคลียร์พื้นที่ในโรงจอดรถรอรับมอเตอร์ไซค์ Super Duke R คันนี้กันละครับ

สำหรับราคาตอนนี้อยู่ที่ $11,999 เหมือนจะดูถูกกว่าที่ควรจะเป็นใช่หรือเปล่าครับ ประมาณเดือนธันวาคมนี้เราคงได้ทราบราคาที่จะวางขายในโชว์รูมของอเมริกากัน

สเป็กอย่างย่อ

Engine 75° V-Twin
Displacement 1301cc
Bore x stroke 108 x 71 mm
Horsepower 180 hp @ 8870 rpm (claimed)
Torque 106 ft-lb. @ 6500 rpm (claimed)
Compression ratio 13.2:1
Fuel System Keihin EFI
Transmission Six-speed
Final drive Chain
Frame type Chrome-moly steel trellis
Front suspension 48mm inverted WP fork
Rear suspension WP monoshock
Front brakes Brembo M50 calipers 320mm discs
Rear brake Brembo two-piston caliper 240mm disc
Front tire 120/70-17
Rear tire 190/55-17
Wheelbase 58.35 in.
Rake / trail 65.1°/107mm
Seat height 32.3 in.
Weight (without fuel) 417 lbs. (claimed)
Fuel capacity 4.75 gal.
Electronics RbW, ride modes, MTC, ABS

 

เรียบเรียงโดย mocyclover.com
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก motorcycle.com

ads2

Advertisment

8,808 views